แจ้งความ 4 บุคคล ตัวการร่วมยุยง ชาวบางกลอย รุกป่าต้นน้ำเเก่งกระจาน

ประธานองค์กรอนาคตเพชรบุรี แจ้งความ 4 บุคคล ตัวการร่วมยุยง ชาวบางกลอย รุกป่าต้นน้ำเเก่งกระจาน

โดนอีก 4 บุคคลร่วม ยุยงสนับสนุน กะหร่างบุกรุกป่าต้นน้ำเเก่งกระจาน และนำความเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ผิด พ.ร.บ. คอมฯ

วานนี้ 28 ก.พ.2564 นายสุรพล นาคนคร ประธานองค์กรอนาคตเพชรบุรี นำหลักฐานภาพถ่ายทางอากาศการบุกรุกแผ้วถางป่าต้นน้ำแก่งกระจาน และหลักฐานสำคัญอื่นๆ เข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.ปุณธพัฒน์ คุณอาสาสิริสกุล สารวัตรสอบสวน สภ.แก่งกระจาน เพื่อแจ้งความกล่าวโทษกับบุคคลทั้ง 4 ราย ในข้อหา เป็นตัวการร่วม/สนับสนุนหรือยุยงให้มีการบุกรุกแผ้วถางป่าแก่งกระจาน อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี และข้อหานำความเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ อันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.คอมฯภายหลังทราบว่าเหตุการณ์การบุกรุกยึดถือครอบครองป่าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานข้างต้น มีมูลเหตุจากการมีกลุ่มบุคคลได้ให้ข้อมูลกับชาวบ้านโป่งลึก-บางกลอย ว่าชาวบ้านสามารถกลับไปอยู่ในพื้นที่บางกลอยบน-ใจแผ่นดินได้ โดยอ้างว่าเป็นชุมชนดั้งเดิม และยังมีการบิดเบือนคำพิพากษาศาลปกครองกลาง-ใน คดีหมายเลขดำที่ อส. 77/2559 คดีหมายเลขแดงที่ อส. 4/2561 รวมทั้งอ้างมติคณะ ครม. 3 สิงหาคม 2553 ว่าด้วยการฟื้นฟูวิถีชีวิตชาวกะเหรี่ยง โดยระบุว่าสามารถเดินทางกลับไปยังที่อยู่อาศัยเดิมของชุมชนเมื่อใดก็ได้ ซึ่งถือเป็นการสนับสนุนและยุยงให้ชาวบ้านกลุ่มดังกล่าวขึ้นไปบุกรุกแผ้วถางป่าอีกทั้งยังเป็นการกระทำ ความผิดพระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์ ฐานเผยแพร่ข้อความอันเป็นเท็จอีกด้วย

จากเหตุการณ์ตามที่กล่าวมาข้างต้นเกิดขึ้น แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าการกระทำดังกล่าวของกลุ่มบุคคลผู้ใช้ชื่อภาคี #SAVEบางกลอย และอ้างว่าเป็นตัวแทนชาวกะเหรี่ยงบ้านบางกลอยได้ร่วมกันในลักษณะใช้และ/หรือให้การสนับสนุนการกระทำที่ผิดกฎหมาย ตามมาตรา 19 (1) แห่งพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 ฐานยึดถือหรือครอบครองที่ดิน แผ้วถาง เผาป่า หรือกระทำการใดๆ ให้เสื่อมสภาพหรือเปลี่ยนแปลงสภาพพื้นที่ไปจากเดิม

จากการตรวจสอบทางสื่อโทรทัศน์ และสื่อสังคมออนไลน์เฟซบุ๊ก พบว่ามีการเผยแพร่ข้อความเป็นเท็จ อันเป็นความผิด คอมพิวเตอร์กของกลุ่มบุคคล ซึ่งทั้ง 4 คน

มีการเชิญชวนและนักหมายกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆไปกดดันที่หน้าทำเนียบรัฐบาล ซึ่งการที่บุคคลทั้ง4 คนมีพฤติการณ์ปลุกปั่น ยุยงส่งเสริมให้บุคคลบุกรุกเข้าไปยึดถือครอบครองพื้นที่ป่าในเขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ถือเป็นมีเจตนาให้ผู้อื่นกระทำความผิดแล้ว แม้บุคคลที่กล่าวจะไม่ใช่เป็นผู้ลงมือกระทำความผิดเองแต่ก็ได้ชื่อว่าเป็นผู้ก่อให้ผู้อื่นกระทำความผิดโดยการโฆษณาและประกาศแก่บุคคลทั่วไปให้กระทำความผิด

จึงได้มาแจ้งความกล่าวโทษเพื่อให้พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรแก่งกระจานดำเนินการสอบสวนกับทั้ง 4 คน และหากเห็นว่าได้กระทำความผิดตามฐานความผิดอื่นตามกฎหมายต่อไป