รวบมอดไม้ชาวกัมพูชา ลอบตัดไม้ฝั่งไทย

วันนี้ (19 ม.ค.63) เวลา 00.40 น. เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติภูจองนายอย ร่วมกันออกตรวจปราบปรามกระทำความผิดเกี่ยวกับการป่าไม้ บริเวณป่าลำห้วยละหุ่ง ทิศใต้บ้านโนนสูง ในเขตอุทยานแห่งชาติภูจองนายอย และเป็นพื้นที่ทับซ้อนเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าดงภูเมย ป่าเขาสวนตาล และป่าพลาญไหแตก ท้องที่ ต.โดมประดิษฐ์ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ได้ร่วมกันตรวจยึด และจับกุมผู้กระทำผิดชาวกัมพูชา จำนวน 3 ราย ดังนี้

1.นายชน ซอน อายุ 45 ปี สัญชาติ กัมพูชา ชาวบ้านมรกต ต.ได๋โจมรกต อ.จอมกระสาน จ.พระวิหาร
2.นายจี เจียด อายุ 28 ปี สัญชาติ กัมพูชา ชาวบ้านตะนพทะนอ ต.ตะเปียมประสาท อ.ตะเปียมประสาท จ.พระวิหาร
3. นายตุ๊ย โทง อายุ 35 ปี สัญชาติ กัมพูชา ชาวบ้านสะเกรียม ต.สะเกรียม อ.สะโตง จ.กำปงธม

ตรวจสอบ พบของกลาง คือ ไม้มะค่าโมง จำนวน 4 ท่อน และอุปกรณ์การกระทำผิด เลื่อยโซ่ยนต์ยี่ห้อ สติล สีส้ม พร้อมบาร์และโซ่ จำนวน 1 เครื่อง ,ประแจเบอร์ 10 จำนวน 1 อัน, ประแจเลื่อน ขนาด 8 นิ้ว จำนวน 1 อัน, ตะไบหางหู จำนวน 1 อัน ,น้ำมันดำ จำนวน 2 ลิตร ,น้ำมันเบนซิน จำนวน 5 ลิตร ,หัวไฟส่องสว่างชนิดคาดศีรษะ จำนวน 1 อัน ,ตลับเมตร ขนาดความยาว 3 เมตร จำนวน 1 อัน ,กระเป๋าสะพายข้างสีเทา จำนวน 1 ใบ ,สายสะพายถุงปุ๋ย จำนวน 3 เส้น และโทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อ HUAREI สีบรอนซ์ทอง จำนวน 1 เครื่อง

เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหา ในฐานความผิด ดังนี้

1.ผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้พุทธศักราช 2484

มาตรา 11 ฐาน “ ร่วมกันทำไม้หวงห้าม โดยไม่ได้รับอนุญาต ” มาตรา 48 ฐาน “ ร่วมกันแปรรูปไม้หวงห้ามและมีไม้หวงห้ามแปรรูปไว้ในครอบครองเกินปริมาตร 0.20 ลูกบาศก์เมตร โดยไม่ได้รับอนุญาต ” มาตรา 69 ฐาน “ ร่วมกันมีไม้หวงห้ามอันยังมิได้แปรรูปไว้ในครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาต”

2.ผิดตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562

มาตรา 19 (2) ฐาน “ ร่วมกันเก็บหานำออกไปหรือทำด้วยประการใดๆ ให้เป็นอันตรายหรือทำให้เสื่อมสภาพซึ่งไม้หรือทรัพยากรธรรมชาติอย่างอื่น ”

3. ผิดตามพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 (แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ (ฉบับที่ 4 ) พ.ศ. 2559

มาตรา 14 ฐาน “ ร่วมกันทำไม้ หรือทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติ โดยไม่ได้รับอนุญาต ”

4. ผิดตามพระราชบัญญัติเลื่อยโซ่ยนต์ พ.ศ.2545

มาตรา 4 ฐาน “ ร่วมกันมี ผลิตหรือนำเข้าเลื่อยโซ่ยนต์ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนเลื่อยโซ่ยนต์”

เจ้าหน้าที่ จึงนำเรื่องราวส่งพนักงานสอบสวน สภ.น้ำยืน อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป