พญาเสือบุกโคราช พร้อมหมายค้น เชื่อ! อยู่เบื้องหลังคนถางป่าแปลงข้อพิพาทเขาใหญ่
วันนี้ (21 ก.พ. 67) นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผอ.สำนักอุทยานฯ พร้อมหน่วยเฉพาะกิจพญาเสือ และ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กลางดง เข้าค้นบ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ ต.กลางดง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา พร้อมหมายค้นศาลจังหวัดสีคิ้ว (ปากช่อง) หลังสืบทราบว่า พบรถแบคโฮที่ใช้แผ้วถางป่าในพื้นที่ขอพิพาทใน หมู่ 10 บ.เหวบ้านกั้ง ต.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา
ทันทีที่ได้เดินทางมาถึงได้มี นาง ก (นามสมมติ) อ้างว่าตนนั้นเป็นภรรยาของนายสวรรค์ ซึ่งเป็นเจ้าของบ้าน ออกมาแสดงตัว และไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่ตรวจค้นตามคำสั่งหมายศาล
นายชัยวัฒน์ ได้ถามหาเจ้าของบ้านพร้อมแสดงหมายศาลที่นำมาด้วย ส่วนฝ่าย นาง ก อ้างว่า นายสวรรค์นั้นไม่อยู่ที่บ้านในตอนนี้ เจ้าหน้าที่จึงยื่นหมายศาลให้อ่าน และจะขอยึดรถแบคโฮและรถไถที่ถูกสันนิษฐานว่า เป็นยานพาหนะในการใช้ถางป่าที่เป็นประเด็นกันอยู่ตอนนี้ ตามคำสั่งศาล เพื่อนำไปตรวจสอบและประกอบคดีต่อไป
แต่ด้านภรรยาของนายสวรรค์นั้นไม่ยอม จึงได้มีการถกเถียงกับเจ้าหน้าที่อยู่สักพัก แต่ในท้ายสุด ภรรยาของนายสวรรค์ก็ต้องยอมให้ยึดรถไถและรถแบคโฮไป
ต่อมาเจ้าหน้าที่ขอเข้าค้นบ้านตามอำนาจของศาล ซึ่งเช่นเดิม นาง ก ไม่ยิมยอม แต่นาง ก ไม่สามารถหยุดพญาเสือได้แล้ว นายชัยวัฒน์ นำทีม ตำรวจ 2 นาย และ เจ้าหน้าที่อุทยานฯ 2 คน เข้าตรวจค้นและให้ตากล้องส่วนตัว 2 คนตามถ่ายตลอดเวลาเพื่อเป็นหลักฐาน ส่วนตนเองนั้นจะรออยู่ข้างนอก
แต่พอหลังจากเดินไปถึงหน้าประตูบ้าน นายสวรรค์ ก็ได้เดินออกมาแสดงตัว พร้อมอ้างว่าตนนั้นนอนหลับอยู่ในห้องไม่รู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้น แต่พอได้ยินเสียง นาง ก จึงตัดสินใจเดินออกมาดู และได้ทราบสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
ทางด้าน นายสวรรค์ ยินยอมให้ เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ และได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี
และในเวลาต่อมา เจ้าหน้าที่ก็ได้ทำการตรวจสอบจนเสร็จสินและเดินออกมาจากบ้าน นายสวรรค์ ได้เดินคุยกับ นายชัยวัฒน์ จนมาถึงหน้าบ้าน
นายสวรรค์ บอกว่า ตนไม่ได้รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับที่ดินที่กำลังเป็นประเด็นในตอนนี้ และเหตุที่ตนโวยวายไปวันนั้น เพราะได้มีชาวบ้านโทรมาบอกกับตนว่าโดนเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่จับกุม ตนจึงได้ตอบกลับกลับไปว่า ทำไมถึงโดนจับก็มีใบ ส.ป.ก. ถูกกฎหมาย ทางชาวบ้านคนนั้นตอบกลับตนว่าเจ้าหน้าที่บอกว่าของปลอม พื้นที่นี้เป็นพื้นที่อุทยานฯ คนภายนอกห้ามบุกรุก ตนจึงเกิดโทสะเพราะคิดว่าชาวบ้าน โดนเจ้าหน้าที่อุทยานฯ รังแก จึงเป็นต้นเหตุให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น
ส่วนเรื่องการนำรถไถและแบคโฮไปถางป่า เบื้องต้นเจ้าตัวได้ยอมรับ และได้บอกว่าตอนจะไปถาง ทางชาวบ้านได้แสดงเอกสารให้ดูครบ ตนจึงคิดว่าที่ดังกล่าวถูกกฎหมาย สามารถทำการเกษตรได้ เพราะเอกสารทั้งหมด ออกโดย ส.ป.ก.โคราช
หลังจากนั้น นายชัยวัฒน์ ได้นำรถที่ตรวจยึดจำนวน 2 คัน ไปพักไว้ที่ สภ.กลางดง ต.กลางดง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา
ยังคงต้องติดตามกันต่อไป สำหรับ ปมข้อพิพาท ส.ป.ก. ผุดในเขตอุทยานเขาใหญ่ ดูเหมือนว่า ยิ่งขุดยิ่งเจอ ยิ่งพบพิรุธ เรื่องนี้ต้องตามกันยาวๆ