สถานการณ์ที่มาแรงไม่แพ้ไวรัสโควิด-19 ตอนนี้อีกอย่างก็คือ ไฟป่า ซึ่งที่ผ่านมาตั้งแต่ช่วงต้นปี 2563 เราจะเห็นข่าวว่าในหลายพื้นที่ทั่วประเทศเกิดไฟป่าสะสมต่อเนื่อง และประเด็นสำคัญที่ทำให้เกิดไฟป่า 100% คือมาจากคน คนนี่แหละที่เป็นคนจุดไฟ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร แต่มันก็ทำให้ทรัพยากรธรรมชาติเสียหาย ที่สูญเสียไปกว่านั้นคือชีวิตของเจ้าหน้าที่ อาสา ที่เข้าไปช่วยกันดับไฟหรือทำแนวกันไฟ
หลายคนอาจยังไม่รู้ว่า 6 วันที่ผ่านมานี้ ที่ จ.นครสวรรค์ ก็เกิดไฟไหม้ป่าเช่นกัน โดย น้องโบว์ เด็กฝึกงานอีจัน ที่เพิ่งจะฝึกงานเสร็จก่อนไวรัสโควิด-19 ระบาดหนัก น้องโบว์เป็นชาว จ. นครสวรรค์ และเมื่อวานนี้ได้ไปช่วยเป็นอาสาทำแนวกันไฟป่าด้วย น้องโบว์เล่าว่า ที่ได้ไปช่วยทำแนวกันไฟเพราะพ่อเป็นเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ ซึ่งพ่อและทีม พร้อมทั้งชาวบ้านจิตอาสาได้รวมตัวกันเพื่อเข้าไปดับไฟป่าและทำแนวกันไฟ ป้องกันไม่ให้ไฟลุกลามมากกว่านี้ ตนเลยตัดสินใจตามพ่อไปทำด้วย ซึ่งเส้นทางที่ไปก็ค่อนข้างลำบาก เพราะต้องเดินเท้าเท่านั้น ขึ้นไปตามแนวสันเขา จนถึงยอดเขา ตลอดช่วงที่เข้าไปพื้นที่ รับรู้ได้ถึงไอร้อนและควันลอยปกคลุมทั่วพื้นที่
สุดท้ายนี้ น้องโบว์ ขอฝากในฐานะคนที่ได้เข้าไปพื้นที่ไฟป่า ได้ร่วมดับไฟและทำแนวกันไฟ ว่า เจ้าหน้าที่ทุกคนต้องเสี่ยงชีวิตกันมากๆ ทนความร้อน โดนไฟลวก สำลักควัน ทุกคนต้องเหนื่อยและลำบากเพื่อเข้าพื้นที่ไปดับไฟ อยากบอกกลุ่มคนที่เผาป่า ไม่ว่าจะเผาเพื่อเปิดพื้นที่หรือเผาเพื่อหาของป่า ขอให้หยุด เพราะเขามีการกำหนดพื้นที่ให้อยู่แล้วว่าสามารถเข้าไปทำได้แค่ไหน อย่าเผาเพิ่มเพื่อผลประโยชน์ของตัวเองเลย ช่วงนี้เป็นหน้าร้อนไฟติดง่ายและลุกลามง่าย เปลี่ยนจากเผาทำลายมาช่วยกันดูแลดีกว่า เพราะยังไงนี่ก็คือป่าของเราทุกคน