จับ 2 กัมพูชา ลอบตัด พะยูง ในป่า เขาพระวิหาร

เจ้าหน้าที่ชุด Smart patrol จับ 2 กัมพูชา ลอบตัด พะยูง ในป่า เขาพระวิหาร อ้างทหารกัมพูชาจ้าง มีคนไทยเปิดทาง

เมื่อวานนี้(3 ม.ค. 63) เจ้าหน้าที่ชุดสมาร์ทพาโทรล ( Smart patrol) อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ออกตรวจลาดตระเวน หลังได้รับข้อมูลว่าพบกลุ่มบุคคลประมาณ 8-10 คน เข้ามายังพื้นที่ป่าสระตราว อุทยานแห่งาติเขาพระวิหาร ทับซ้อนป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาพระวิหาร จึงได้ออกตรวจพื้นที่บริเวณดังกล่าว เมื่อไปถึงพบร่องรอยลักษณะคล้ายล้อรถเข็นและมีลักษณะการชักลากสิ่งของออกจากพื้นที่ คณะเจ้าหน้าที่จึงได้ติดตามร่องรอย ถึงป่าบริเวณด้านทิศตะวันตกเฉียงใต้บ้านภูมิซรอล ซึ่งห่างจากจุดแรกประมาณ 2 – 3 กิโลเมตร พบไม้ พะยูง ท่อนบรรทุกใส่รถเข็น 2 ล้อดัดแปลง รัดตรึงด้วยเชือกไนล่อนและขันเชนาะด้วยท่อนไม้ขนาดเล็กซุกซ่อนในป่า

ภาพจากอีจัน
เจ้าหน้าที่จึงได้วางแผนดักซุ่ม จนกระทั่งเวลาประมาณ 00.10 น. ก็มีแสงไฟขนาดเล็กจำนวนประมาณ 10 ดวง และเสียงคนพูดคุยกันบริเวณที่ซุกซ่อนไม้ คาดว่ามีกลุ่มบุคคลประมาณ 10 – 13 คน เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวจับกุม ซึ่งขณะนั้นเป็นเวลากลางคืนและพื้นที่โดยรอบเป็นป่ารกทึบ จึงสามารถควบคุมตัวได้จำนวน 2 คน เป็นชาว กัมพูชา ส่วนที่เหลือได้อาศัยความมืดและความชำนาญเส้นทางหลบหนีไป


จากการตรวจสอบของกลางพบ ไม้ พะยูง จำนวน 1 ท่อน ขนาดความโต 160 ซม. ความยาว 200 ซม. ปริมาตรไม้ 0.41 ลูกบาศก์เมตร รถเข็นสองล้อดัดแปลง จำนวน 1 คัน มีดพร้า จำนวน 1 ด้าม กระสอบปุ๋ยดัดแปลงเป็นเป้สะพายหลัง 1 ใบ เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการแจ้งความการกระทำผิดตามกฎหมาย พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 11 , พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 มาตรา 19 (2) และมาตรา 42 และ พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 และมาตรา 14 ทั้งนี้ ได้นำตัวผู้ต้องหาตรวจสอบตามมาตรการป้องกัน โควิด-19 ที่โรงพยาบาลกันทรลักษ์ และบันทึกเรื่องราว นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.บึงมะลู เพื่อดำเนินคดีต่อไป

ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
จากการสอบสวนผ่านล่ามได้ความว่า ผู้ต้องหาทั้งสองและพวกได้ลักลอบเข้ามาในเขต อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร เมื่อวันที่ 2 ม.ค. 64 และซุ่มอยู่ในป่า อ้างว่าได้รับการติดต่อจากทหารกัมพูชา ชื่อนายอาจ โดยนายอาจ จะมีการติดต่อเจรจากับบุคคลชาวไทย ซึ่งผู้ต้องหาไม่ทราบว่าเป็นใคร เมื่อเจรจาตกลงกันแล้ว นายอาจจะส่งสัญญาณให้พวกตนและคนอื่นๆ อีกประมาณ 10 คน ซึ่งได้ซุ่มรอในป่าเข้าไปดำเนินการขนย้ายไม้ พะยูง ดังกล่าว โดยได้รับค่าจ้างในการขนย้ายประมาณ 8,000- 9,000 บาทต่อคน ทั้งนี้ ได้กำชับให้อุทยานแห่งชาติดำเนินการขยายผลการจับกุม เพื่อสืบหากระบวนการทำไม้ และผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป ข้อมูล : ประชาสัมพันธ์ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช