แจ้งข้อหา 8 ข้าราชการ เอี่ยวคดีไม้พะยูงของกลางหาย ส่ง ป.ป.ช.เดือด!

ฉาวหนัก! คดีไม้พะยูงของกลางหาย พบ 8 ข้าราชการเอี่ยว ตำรวจส่งสำนวนคดีให้ ป.ป.ช. แล้ว

ฉาวหนัก! 8 ข้าราชการเอี่ยวคดีไม้พะยูงของกลางหาย

จากกรณีไม้พะยูงของกลาง 7 ท่อน มูลค่ากว่า 1 ล้านบาท หายไปจากสำนักงานเทศบาลตำบลอิตื้อ อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ อย่างไร้ร่องรอย เมื่อช่วงคืนวันที่ 5 ส.ค. 66 ที่ผ่านมา ท่ามกลางกระแสว่ามีบุคคลของรัฐไม่น้อยกว่า 6 คน เข้าไปเกี่ยวข้อง และปัญหาการตัดไม้พะยูงในโรงเรียนคำไฮวิทยา ต.หนองกุงศรี อ.หนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์ ที่ให้นายหน้าเข้ามาตัดไม้พะยูงภายในโรงเรียนถึง 22 ต้น กับอีก 2 ตอ ในราคา 153,000 บาท ในรูปแบบการประมูลไม้ในที่ราชพัสดุ เบื้องต้นพบว่า มีราคาต่ำกว่าราคาตลาด 28-56 เท่าตัว โดยเรื่องนี้ จังหวัดได้ส่งเรื่องให้ ป.ป.ช.- ส.ต.ง. และ ป.ป.ท. เอาผิดทางวินัยทั้งแพ่งและอาญา

โดยวันนี้( 25 ส.ค.66 ) ที่สำนักงานตำรวจภูธร จ.กาฬสินธุ์ พล.ต.ต.สุวรรณ์ เชี่ยวนาวินธวัช ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.กาฬสินธุ์ เปิดเผยความคืบหน้าคดีนี้ว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวน สภ.โนนสูง เจ้าของคดี ได้สรุปสำนวนและนำส่ง ป.ป.ช.ไปแล้วเมื่อวันที่ 21 ส.ค.66 ที่ผ่านมา

พล.ต.ต.สุวรรณ์ กล่าวว่า สาเหตุที่พนักงานสอบสวนฯ ต้องนำสำนวนคดีไปที่ ป.ป.ช. จ.กาฬสินธุ์ พิจารณา เนื่องจากคดีนี้เชื่อมโยงถึงคนของรัฐมีส่วนเกี่ยวข้องอย่างชัดเจน เบื้องต้นจากการรวบรวมพยานหลักฐาน แจ้งข้อหายักยอกของหลวง 8 เจ้าหน้าที่รัฐเอี่ยวไม้พะยูงหาย ซึ่งมีทั้งเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ผู้นำท้องถิ่น และผู้นำหมู่บ้าน ร่วมกระทำผิด โดยมีพยานหลักฐานชัดเจน ทั้งนี้ ได้รับรายงานจากพนักงานสอบสวน สภ.โนนสูง เจ้าของคดีว่าหลังสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดแล้ว ได้รวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด ส่งให้กับ ป.ป.ช.กาฬสินธุ์ เพื่อดำเนินการสอบสวนตามขั้นตอนของกฎหมาย เนื่องจากเป็นคดีการกระทำผิดของเจ้าหน้าที่รัฐ  ทั้งนี้เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ 8 คน ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ป่าไม้ 3 คน  ผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และพนักงานรวม 2 คน  เจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งเป็นผู้นำชุมชน และผู้นำหมู่บ้าน  3 คน พร้อมทั้งแจ้งข้อกล่าวหาในเบื้องต้น คือ เป็นเจ้าพนักงานรัฐมีหน้าที่จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังเอาทรัพย์เป็นของตนหรือทุจริต หรือยอมให้คนอื่นเอาทรัพย์นั้นไป

“สำหรับพฤติกรรม จากการสอบสวนพบว่า มีการนำไม้พะยูงของกลางมาเก็บรักษาไว้ที่หน้าเสาธงสำนักงานเทศบาลตำบลอิตื้อ ก็จะมีนายหน้าเข้ามาดูไม้เหมือนกับมีการเปิดประมูล จากนั้นมี 1 ในกลุ่มบุคคลที่กระทำความผิด ได้ขนย้ายไม้ไปจำหน่าย โดยมีพยานหลักฐาน ทั้งการโอนเงิน และเส้นทางการเงิน ภาพบุคคลที่เกี่ยวข้องก่อนเกิดเหตุไม้พะยูงหาย ซึ่งยังไม่สามารถให้รายละเอียดได้มากกว่านี้ แต่ตำรวจมีพยานหลักฐานทำให้เชื่อได้ว่า มีการกระทำความผิดเกิดขึ้น ซึ่งหลังจากตำรวจส่งเรื่องไปยัง ป.ป.ช.พิจารณา ขั้นตอนต่อไปทาง ป.ป.ช. จะมีอำนาจสอบสวนตามขั้นตอนกฎหมาย ซึ่งหากพิจารณาแล้วจะสอบสวนเอง หรืออาจจะให้ฝ่ายพนักงานสอบสวน ร่วมสอบสวนด้วยก็ได้ ขึ้นอยู่กับ ป.ป.ช.” พล.ต.ต.สุวรรณ์ กล่าว

ทั้งนี้ มีงานรายงาน รายชื่อ 8 ข้าราชการที่ถูกส่งดำเนินคกีกับ ป.ป.ช.จ.กาฬสินธุ์ ประกอบด้วย

1.นายประเทือง นายกเทศมนตรีตำบลอิตื้อ อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์

2.นายวีระชัย พนักงานขับรถนายกเทศมนตรีตำบลอิตื้อ

3.นายประจัน ผู้อำนวยการศูนย์ป่าไม้กาฬสินธุ์

4.นายบุญธรรม เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าฯ

5.นายปฐมพงษ์ เจ้าหน้าที่ป่าไม้ กส.1(ดงมูล)

6.นายทองคำ กำนัน ต.อิตื้อ

7.นายวิชิต ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 8 ต.อิตื้อ อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์

8. นายณัฐนนท์ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 10 ต.อิตื้อ อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์

ส่วนกรณีไม้พะยูง 22 ต้น กับอีก 2 ตอ ของโรงเรียนคำไฮวิทยา อ.หนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์ ทำสัญญาประมูลขายกับนายหน้าค้าไม้ในราคาถูกเพียง 153,000 บาท ถือเป็นการปฏิบัติฝ่าฝืนข้อสั่งการของจังหวัดกาฬสินธุ์ ซึ่งห้ามตัดไม้หวงห้าม ไม้พะยูง ซึ่งนายศุภศิษย์ กอเจริญยศ ผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ ได้มอบหมายให้ นายธวัชชัย รอดงาม รองผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ นำทีมเฉพาะกิจ เข้าสอบสวน พบข้อสงสัยและพบพิรุธหลายอย่าง โดยเฉพาะการประเมินราคาซื้อขายที่ต่ำ และการขออนุญาตตัดไม้พะยูง และได้สั่งตั้งกรรมการสอบสวนด้านวินัยไปแล้ว ส่วนการตรวจสอบเพื่อดำเนินคดี ได้ตั้งนิติกรและได้เชิญ 3 องค์กรอิสระ ประกอบด้วย ป.ป.ช. – ป.ป.ท. และ สตง. ที่ทราบว่าได้เข้าตรวจสอบแล้ว

ทั้งนี้ นายธวัชชัย รอดงาม รอง ผวจ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า กรณีตัดไม้ในโรงเรียนคำไฮวิทยา อ.หนองกุงศรี ถือเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนข้อสังการณ์ของทางจังหวัด แม้ว่าพื้นที่ป่าไม้จะอยู่ในพื้นที่ของธนารักษ์ แต่ก็มีหนังสือจากอธิบดีกรมธนารักษ์ มอบแนวทางปฏิบัติมายังทุกจังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งก็ให้ทางผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้พิจารณา โดยเนื้อหาต้องร่วมกันอนุรักษ์ป่าไม้ แต่หากจะตัดต้องมีความจำเป็น หรือ เป็นต้นไม้ที่สุ่มเสี่ยงจะทำให้ได้รับอันตรายที่จะต้องขออนุญาตและมีการตั้งคณะกรรมการพิจารณา โดยสรุปการตัดไม้แม้จะมีการทำเอกสารก็ใช่ว่าจะตัดได้ง่ายๆ กรณีนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับหลักฐานแต่ที่แน่ๆ ต้นไม้พะยูงที่ถูกประมูลขายครั้งนี้ ไม่ควรที่จะตัดด้วยซ้ำ แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้วคนที่ร่วมกันกระทำความผิดก็ต้องรับผิดชอบต่อการกระทำตามกฎหมายที่นอกเหนือจากด้านวินัย ก็จะต้องถูกดำเนินคดีทางอาญาและแพ่งต่อไป