พญาเสือ เชื่อ! โรงงานแปรรูปไม้ มีนายทุนจีนอยู่เบื้องหลัง

หน่วยเฉพาะกิจปฏิบัติการพิเศษผู้พิทักษ์อุทยานแห่งชาติและสัตว์ป่า (พญาเสือ) ตรวจค้นโรงงานตรวจสอบโรงงานแปรรูปไม้ พบมีนานทุนจีนอยู่เบื้องหลัง เชื่อเป็นขบวนการค้าไม้ข้ามชาติ

จากกรณีเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยศาลาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจำกุมขบวบการลักลอบตัดไม้ได้เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. ที่ผ่านมา

ซุ่มจับ อดีตกำนัน ตัดไม้ประดู่ ส่งขายนายทุนจีน

ต่อมาวันที่ 3 ธ.ค. 66 เจ้าหน้าที่หน่วยเฉพาะกิจปฏิบัติการพิเศษผู้พิทักษ์อุทยานแห่งชาติและสัตว์ป่า (พญาเสือ) กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าตรวจค้นโรงงานแปรรูปไม้ ในพื้นที่ อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ ที่ นายธงชัย สารภาพว่านำไม้ประดู่มาขาย

นายพนัชกร โพธิบัณฑิต ผอ.สยป. และ ผอ.สปพ. เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบบริเวณโรงงานพบไม้ประดู่ขนาดใหญ่จำนวนมาก วางเรียงรายในพื้นที่ของโรงงานเตรียมแปรรูปเพื่อส่งขาย อีกทั้งยังพบไม้ที่ถูกแปรรูปแล้วอีกจำนวนหนึ่ง

จึงขอดูใบอนุญาตประกอบกิจการ รายการนำเข้า และส่งออกไม้ รวมถึงเอกสารต่างๆ ในการแปรรูปไม้ ปรากฏว่าโรงงานแห่งนี้ไม่มีการแสดงผังเครื่องจักรในโรงงาน หรือผังโรงงาน ไม่มีใบควบคุมพนักงาน ไม่มีรายละเอียดการรับไม้เข้า การแปรรูปไม้ หรือการส่งออกไม้ที่เป็นปัจจุบัน

อีกทั้ง ที่ดินโรงงานแห่งนี้ยังตกเป็นทรัพย์สินของทางธนาคาร เนื่องจากเจ้าของโรงงานได้นำไปกู้ธนาคาร ซึ่งทางธนาคารได้มีการประกาศขายทอดตลาดแล้ว ทำให้เจ้าของที่คนเดิมไม่มีสิทธิ์ที่จะปล่อยเช่า แต่ทางเจ้าของเดิมทำการปล่อยเช่าให้กับนายทุนจีน เท่ากับว่าโรงงานแห่งนี้เข้าข่ายโรงงานเถื่อน

ในส่วนของไม้ที่ถูกนำมาขายที่โรงงานแปรรูปไม้ จะต้องมีเอกสารกำกับไม้ว่า ไม้แต่ละต้นมีขนาดกว้างเท่าไหร่ ยาวเท่าไหร่ ถูกตัดในที่ของใคร และต้องแสดงเอกสารสิทธิ์ของเจ้าของที่ (นศ.3) ถึงจะถูกต้องตามกฎหมาย เจ้าหน้าที่จึงขอตรวจสอบเอกสารกำกับไม้ว่าต้นไม้ที่ถูกตัดมาตรงกับเอกสารหรือไม่ ซึ่งการแสดงเอกสารในครั้งนี้ไม่ตรงกับไม้ที่มีอยู่ และเอกสารกำกับไม้มีน้อยกว่าจำนวนไม้ที่มีอยู่ในโรงงาน

นอกจากนี้ภายในโรงงานยังตรวจพบแรงงานชาวลาวอีก 5 คน และนายทุนชาวจีน 2 คน ซึ่งในเอกสารการทำงานระบุว่า ชาวจีน 2 คน เป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านเนื้อไม้ ส่วนแรงงานชาวลาวในเอกสารระบุชัดเจนว่าเป็นแรงงานทำงานร่วมกับโรงงานแปรรูปไม้ ทั้งหมดมีเอกสารการทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมาย แต่เอกสารของโรงงานระบุว่าโรงงานรับแรงงานชาวไทยเข้าทำงานที่โรงงาน ซึ่งไม่สอดคล้องกับข้อเท็จจริง

เบื้องต้น จึงทำการอายัดไม้ไว้ทั้งหมด รวมถึงไม้ที่กำลังแปรรูป ไม้ที่แปรรูปแล้ว และเครื่องจักรในการแปรรูปไม้ ตลอดจนโรงงานแปรรูปไม้แห่งนี้ จนกว่าจะมีการแสดงหลักฐานที่ชัดเจน