ย้อนรอย ตำนานคืนมรณะ ไฟไหม้ ซานติก้า ผับ กับบทเรียนที่ควรเรียนรู้

สุดสลดกับบทเรียนที่ควรเรียนรู้ ชวน ย้อนรอย ตำนานคืนมรณะ ไฟไหม้ ซานติก้า ผับ ดังกลางเมืองกรุง

จากเหตุเพลิงไหม้ สถานบันเทิงผับ “เมาท์เทน บี ผับ” ( MOUNTAIN B ) ริมถนนสาย สุขุมวิทบางนา-ตราด ม.7 ตั้งอยู่บริเวณปากซอยเขาหมอน ต.พลูตาหลวง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตล่าสุด 13 ราย และบาดเจ็บ อย่างน้อย 41 ราย เป็นเรื่องแสนเศร้าที่น่าหดหู่ใจในสภาพถูกไฟคลอกร่างไหม้เกรียมทั้งตัว จากเหตุการณ์นี้ทำให้หลายคน นึกถึงเหตุการณ์ “ไฟไหม้ซานติก้าผับ” โศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ใจกลางเมืองหลวงคืนมรณะส่งท้ายปีที่ย่างสดนักท่องเที่ยว จนเป็นตำนานและบทเรียนอันมีค่าไม่รู้ลืม

มาเริ่มย้อนตำนานผับดังย่านเอกมัย “ซานติก้า” เริ่มต้นคืนเคาท์ดาวน์เข้าสู่ปีใหม่ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 ท่ามกลางความสนุกสนานได้เกิดเรื่องราวไม่คาดฝันขึ้น ในคืนนั้นนักท่องเที่ยวมีการจุดไฟเย็น ดื่มเหล้า รับประทานอาหารและแสดงดนตรี จำนวนคนร่วมงานคาดการณ์ว่ามากถึง 1,000 คน ซึ่งเกินกว่าขีดจำกัดของทางผับที่รับได้ประมาณ 500 คน นักท่องเที่ยวทั้งหมดเข้ามาจากทางประตูหน้าที่มีความกว้างสองเมตรครึ่ง จำนวนคนในผับแน่นเอียดทั้งสองชั้นและบริเวณบันได รวมทั้งประตูหนีไฟก็ถูกปิดสนิท เนื่องจากกลัวว่าจะมีคนแอบเข้า

เป็นคืนที่แสนสนุกผู้คนต่างเข้าไปใช้บริการดื่มกินอย่างสนุกสนาน และในช่วงการแสดงดนตรี มีการจุดพลุไฟหน้าเวที มีการแจกพลุกระดาษให้แก่นักท่องเที่ยว แม้ว่าเกิดเพลิงไหม้ขึ้น นักท่องเที่ยวยังไม่ทราบว่าเกิดเหตุคิดว่าเป็นเอฟเฟกต์จากทางร้าน จากกล้องที่ตกอยู่เป็นหลักฐานที่บันทึกภาพการแสดงในช่วงเวลาที่เกิดเหตุไฟไหม้ได้ เผยให้เห็นภาพการแสดงของวงเบิร์น ที่เมื่อแสดงจบนักร้องนำคนดังกล่าวก็ได้เดินออกไปข้างเวที ก่อนที่สเปเชียลเอฟเฟกต์จะถูกจุดขึ้นกลางเวที ในตอนนั้นที่นักร้องคนใหม่เดินเข้ามา ก่อนที่จะเกิดเพลิงไหม้ขึ้น ซึ่งภาพดังกล่าวเป็นสิ่งที่ยืนยันได้ว่าเพลิงที่ไหม้ซานติก้าผับ ความจริงแล้วเริ่มจากสเปเชียลเอฟเฟกต์ของเวที ซึ่งเกิดจากระบบไฟฟ้าและความสูงของเพดานเพียง 5 เมตร เป็นเหตุให้เกิดไฟลุกไหม้ ก่อนจะลุกลามอย่างรวดเร็วในตัวอาคาร ทำให้ผู้คนด้านในพยายามวิ่งหนีตายออกมา

หลังเกิดเหตุไฟฟ้าในอาคารได้ดับลง กว่าจะทราบว่าเป็นเพลิงไหม้ เพลิงก็ได้ลุกไหม้จากบริเวณชั้นสอง ทำให้โครงสร้างถล่มลงมา เนื่องจากภายในผับมีวัตถุที่เอื้อต่อการเกิดเพลิงไหม้ อาทิ ผนังโฟม สุรา ฯลฯ เพลิงจึงลุกไหม้อย่างรวดเร็ว นักท่องเที่ยวพยายามหนีออกมาทางประตูด้านหน้า ซึ่งมีขนาดเพียงสองเมตรครึ่ง เนื่องจากไม่ทราบทางออกอื่น แต่ไม่สามารถออกมาได้เนื่องจากคนแน่นขนัดมาก และประตูมีขนาดเล็ก คนที่ล้มลงในสถานที่เกิดเหตุไม่สามารถลุกขึ้นมาได้และถูกเหยียบซ้ำ สภาพศพหลายศพถูกทับกันอย่างน่าสลด โดยเหตุการณ์ครั้งนั้น ทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 67 ราย บาดเจ็บสาหัส 45 คนบาดเจ็บอีก 72 คน

ต่อมาฝ่ายงานที่ดูแลเข้าตรวจสอบ พบหลายจุดที่เป็นเหตุ สถานบันเทิงแห่งนี้ ไม่มีแบบแปลนแผนผังอาคารติดตั้งแสดงไว้ ไม่มีป้ายบอกเส้นทางหนีไฟ รวมทั้งไม่ติดตั้งไฟฉุกเฉินให้มีจำนวนเพียงพอที่จะสามารถเปิดส่องสว่างแก่ลูกค้าเพื่อการหลบหนีออกจากตัวอาคาร และรับบริการลูกค้าเกินอัตตราที่อาคารจะรองรับ ซึ่งทำให้ฝ่ายงานเกี่ยวข้องทำการฟ้องร้องเอาผิด เจ้าของและผู้บริหารสถานบันเทิง รวมไปถึงผู้เกี่ยวข้องด้านต่าง ๆ โดยศาลฎีกามีคำพิพากษให้จำคุก นายวิสุข เสร็จสวัสดิ์ ผู้บริหารซานติก้าผับ และ นายบุญชู เหล่าสีนาท กรรมการผู้มีอำนาจ บ.โฟกัสไลท์ ซาวน์ซิสเต็ม จก. รับจ้างติดเอฟเฟกต์ คนละ 3 ปี จากการกระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย พร้อมชดใช้เงินญาติคนตาย ผู้บาดเจ็บกว่า 5 ล้านบาท

บทเรียนในยุคนั้นคงอาจจะผ่านมานานเกินไป ทำให้สถานบันเทิงในยุคนี้ขาดความตระหนักในด้านบริการ ใส่ใจ คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้มาใช้บริการ จึงทำให้ฝันร้ายได้หวนกลับมาอีกครั้ง จันขอแสดงความเสียใจกับทุกการสูญเสียด้วยนะคะ พร้อมเป็นกำลังใจให้ผู้บาดเจ็บปลอดภัย

คลิปแนะนำอีจัน
นาทีไฟไหม้ผับชลบุรี