สมุยพลัส ตั้งการ์ดสูง เปิดต้อนรับนักท่องเที่ยว แล้ว

นักท่องเที่ยวชุดแรกมาถึงแล้ว สมุยพลัส เปิดรับนักท่องเที่ยว คาดสมุยพลัส สร้างรายได้ 180 ล้านบาท

เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วสำหรับโครงการ สมุยพลัส ( SAMUI Plus ) โครงการที่หวังว่าจะทำให้มีเงินหมุนเวียนภายในประเทศมากขึ้น ควบคู่ไปกับมาตรการควบคุมที่เข้มงวด

สำหรับเกณฑ์การรับ นักท่องเที่ยวทั้งชาวต่างชาติที่เดินทางจากต่างประเทศเพื่อเข้าโครงการ SAMUI Plus คือ ต้องมาจากประเทศหรือพื้นที่ที่ได้รับอนุมัติจาก ศบค. ซึ่งพิจารณาจากหลักเกณฑ์ประกาศของกระทรวงสาธารณสุข และ ททท. โดยมีหนังสือรับรองว่าเป็นบุคคลที่เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรได้ (COE) มีใบรับรองแพทย์ยืนยันว่าปลอดเชื้อ โควิด19 โดยวิธี RT-PCR ไม่เกิน 72 ชม. ก่อนการเดินทาง มีกรมธรรม์ประกันภัยที่ครอบคลุมค่าใช้จ่ายในการดูแลสุขภาพและรักษาพยาบาล หรือหลักประกันอื่นใด ซึ่งรวมถึงกรณีโรค โควิด19 ในวงเงินไม่น้อยกว่า 100,000 เหรียญสหรัฐฯ รวมทั้ง มีเอกสารหรือหลักฐานรับรองการรับ วัคซีน ครบตามเกณฑ์ที่ผู้ผลิต วัคซีน กำหนด ไม่น้อยกว่า 14 วันก่อนเดินทาง สำหรับผู้มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ที่ไม่อยู่ในเกณฑ์การได้รับวัคซีนต้องเดินทางมาพร้อมกับผู้ปกครองหรือผู้ดูแลและให้มีใบรับรองแพทย์ เมื่อนักท่องเที่ยวเดินทางมาถึงประเทศไทยจะต้องถูกตรวจคัดกรองโดยวิธี RT-PCR อีก 3 ครั้ง ครั้งแรก ในวันที่เดินทางมาถึง ครั้งที่ 2 ในวันที่ 6 – 7 และครั้งที่ 3 ในวันที่ 12 – 13 โดยเมื่ออยู่ครบ 14 วัน จึงจะเดินทางไปพื้นที่อื่นของประเทศไทยได้ ส่วนนักท่องเที่ยวที่ต้องการออกจากประเทศไทยก่อนอยู่ครบ 14 วัน จะต้องเดินทางออกนอกราชอาณาจักรเท่านั้น

ในส่วนการพำนักภายในโครงการ SAMUI Plus นั้น นักท่องเที่ยวต้องเข้าพักในโรงแรมที่ Samui Extra Plus Hotels ซึ่งเป็นโรงแรมระดับมาตรฐาน AQ บนเกาะสมุยเท่านั้น หากผลการตรวจครั้งแรกเป็นลบ จึงสามารถออกจากห้องพักและทำกิจกรรมภายในบริเวณของโรงแรมได้ (Chill at Hotel) ในวันที่ 4 – 7 สามารถเดินทางท่องเที่ยวในเส้นทางตามโปรแกรมท่องเที่ยวโดยบริษัทนำเที่ยวที่ผ่านการอบรม ในเส้นทางที่กำหนดเป็นการเฉพาะ หรือ Sealed Route มี 3 เส้นทาง ได้แก่ หาดถ้ำร้าง อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง การล่องเรือ กิจกรรมเชิงสุขภาพ ( Wellness and Spa ) ในวันที่ 8 – 14 นักท่องเที่ยวสามารถเปลี่ยนโรงแรมได้ แต่เป็นโรงแรมได้รับเครื่องหมาย SHA Plus ทั้งบนเกาะสมุย เกาะพะงัน และเกาะเต่า

โดยนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี นายแพทย์มนู ศุกลสกุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด สุราษฎร์ธานี และนายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) นายนฤชัย นินนาท ผู้อำนวยการกองคุ้มครองและดูแลผลประโยชน์คนไทยในต่างประเทศ กรมกากงสุล นายนิจพัฒน์ ปิยะพันธ์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ฝ่ายสนามบิน บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) และนายรัชชพร พูลสวัสดิ๋ นายกสามคมส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาะสมุย พร้อมด้วยคณะผู้บริหารของแต่ละหน่วยงาน ร่วมกันต้อนรับสื่อมวลชนจาก เยอรมนี สหราชอาณาจักร และ ฝรั่งเศส จำนวน 5 คน ที่เดินทางร่วมโครงการ สมุยพลัส ( SAMUI Plus ) ซึ่งเดินทางด้วยเที่ยวบินปฐมฤกษ์ของบางกอกแอร์เวย์สเที่ยวบิน PG 5125 กรุงเทพฯ – สมุย เวลา 11.10 น. จำนวน 5 คน โดยทางสนามบินมีการตรวจคัดกรองอย่างแน่นหนา และช่วงเย็นก็มีเที่ยวบินที่พานักท่องเที่ยวจากประเทศความเสี่ยงต่ำ และปานกลาง มาลงที่ เกาะสมุย อีกหนึ่งเที่ยวบิน รวมทั้งได้ตรวจเยี่ยมและสังเกตการณ์มาตรการคัดกรองผู้เดินทางเข้า เกาะสมุย ผ่าน ท่าเทียบเรือซีทรานเฟอร์รี่ ซึ่งเป็นท่าเรือหลักในการสัญจรเข้า-ออก เกาะสมุย อีกด้วย

ก่อนจะร่วมกันแถลงถึงความพร้อมของพื้นที่เกาะสมุย เกาะพะงัน และ เกาะเต่า ในการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติตามโครงการ สมุยพลัส ( SAMUI Plus ) เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจด้วยการท่องเที่ยว หลังซบเซาจากการระบาดของเชื้อ โควิด19 มาเป็นเวลายาวนาน

ซึ่ง นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า ” จากนโยบายของนายกรัฐมนตรี ที่ต้องการให้เปิดประเทศให้ได้ภายใน 120 วัน โดยทยอยเปิดในพื้นที่ที่มีความพร้อมก่อน อย่าง ภูเก็ต และตามมาด้วย จังหวัด สุราษฎร์ธานี เฉพาะ เกาะสมุย เกาะพะงัน และเกาะเต่า โดยวางมาตรการทั้งด้านสาธารณสุข การเดินทาง และการตลาดไว้อย่างรัดกุม เพื่อให้การเปิดพื้นที่ในครั้งนี้ สามารถสร้างความประทับใจและดึงดูดความสนใจนักท่องเที่ยวให้เดินทาง สร้างความเชื่อมั่นด้านสาธารณสุขให้กับคนในพื้นที่อีกด้วย “

ด้าน นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ” มีการเตรียมความพร้อมด้านบุคลากรที่เกี่ยวข้องกับ SOP (Standard Operation Procedures) เช่น พนักงานขับเรือ/รถ ร้านอาหาร บริษัทนำเที่ยว กิจการ Wellness พนักงานโรงแรมส่วนหน้า SHA Plus Manager อาสาสมัครโรงแรม เป็นต้น จังหวัดได้สนับสนุนงบพัฒนาจังหวัดให้วิทยาลัยนานาชาติ เพื่อการท่องเที่ยวเกาะสมุย จัดอบรมให้ความรู้ในการดูแลความปลอดภัยด้านสาธารณสุข การต้อนรับ ดูแลนักท่องเที่ยวและการให้บริการที่ดีด้วย และได้มีคำสั่งจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติ Command Center จำนวน 4 ศูนย์ โดยมีทั้งศูนย์ปฏิบัติการระดับจังหวัดและอำเภอ มีการกำหนดมาตรการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของโรค สำหรับผู้ได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรในพื้นที่อำเภอเกาะสมุย อำเภอเกาะพะงัน และเกาะเต่า โดยออกคำสั่งจังหวัดเพื่อควบคุม กำกับ ได้แก่ มาตรการก่อนเดินทางเข้าไปในพื้นที่ รวมถึงการเดินทางในพื้นที่ต้องเป็นไปตามรูปแบบ Samui Plus Model มีการกำหนดท่าเทียบเรือ เพื่อมิให้ใช้ร่วมกับเรือสาธารณะ จำนวน 3 ท่าเทียบเรือ คือ ท่าเทียบเรือหน้าพระลาน ท่าเทียบเรือท้องศาลา และท่าเทียบเรือบ้านแม่หาด และได้มีแผนเผชิญเหตุไว้ 3 ระดับ คือ รุนแรงน้อย กรณีพบประชาชนในพื้นที่ติดเชื้อมากกว่า 20 ราย รุนแรงปานกลาง กรณีพบกระจายเชื้อ 3 คลัสเตอร์ ที่เกี่ยวเนื่องภายใน 2 สัปดาห์ และรุนแรงสูงสุด กรณีนักท่องท่องเที่ยวติดเชื้อจากโครงการมากกว่า 40 คน ภายใน 2 สัปดาห์ และมีการระบาดวงกว้างยากต่อการควบคุมให้กลับสู่สภาวการณ์ปกติ และได้ขอความร่วมมือประชาชน ผู้ประกอบการเป็นเจ้าบ้านที่ดีในการต้อนรับนักท่องเที่ยวและให้ทุกคนปฏิบัติตามมาตรการที่กำหนด “

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า โครงการ SAMUI Plus เริ่มดำเนินการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติในวันที่ 15 ก.ค. 64 เป็นพื้นที่ที่ 2 ถัดจากจังหวัดภูเก็ต โดยดำเนินการใน 3 เกาะ ได้แก่ เกาะสมุย เกาะพะงัน และเกาะเต่า ซึ่งมีความสวยงาม ทั้งนี้ ททท. ประสานกับภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องในการวางแผนและดำเนินการดำเนินการอย่างเป็นขั้นตอน 10 ขั้นตอน ซึ่งได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วนเป็นอย่างดี ซึ่งมั่นใจว่าแผนดำเนินการดังกล่าว จะสามารถทำให้โครงการ SAMUI Plus ประสบผลสำเร็จทั้งเชิงรายได้ ความมั่นใจด้านสาธารณสุข และการจัดการสิ่งแวดล้อม โดยคาดการณ์ว่าเมื่อผ่านไป 1 เดือน คือ ตั้งแต่วันที่ 15 ก.ค. – 15 ส.ค. 64 จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาประมาณ 1,000 คน สร้างรายได้ประมาณ 180,000,000 บาท