ภัยร้ายจากยุงลาย! หมอ เตือน ช่วงนี้ยุงเยอะ “ไข้เลือดออก” เริ่มระบาดแล้ว 

ยุงลายมันร้ายมาก! หมอเจด เตือน “ไข้เลือดออก” เริ่มระบาดแล้ว พร้อมชี้กลับว่า ส่วนใหญ่ ยุงลายชอบกัดช่วงกลางวัน ซึ่งเป็นความเข้าใจผิดของคนว่า ยุงลายชอบกัดตอนกลางคืน

ฝนตกชุก ยุงก็มาเยอะ! 

เมื่อวันที่ 9 มิ.ย.68 ที่ผ่านมา นพ.เจษฎ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ได้โพสต์เตือนภัยเกี่ยวกับ ภัยร้ายจากยุงลาย อย่าง “ไข้เลือดออก” ที่ต้องระวังมากๆในช่วงนี้ ผ่านเพจเฟซบุ๊ก หมอเจด ระบุว่า…  

ไข้เลือดออกตอนนี้เริ่มระบาดแล้วนะครับ สารพัดโรคเลยช่วงนี้ 

1. ไข้เลือดออกไม่ติดต่อจากคนสู่คน เราไม่ติดจากการจับมือ กอด หรือหายใจรดกัน การติดเชื้อมาจาก “ยุงลายตัวเมีย” ที่ไปกัดคนที่มีเชื้อไวรัสเดงกี แล้วมากัดเราอีกที 

2. ยุงลายชอบกัดกลางวัน นี่คือสิ่งที่คนส่วนใหญ่ยังเข้าใจผิด ยุงลาย ไม่ได้กัดกลางคืน เหมือนยุงก้นปล่อง แต่มันออกหากินช่วงกลางวัน โดยเฉพาะ เช้า–เย็น เพราะฉะนั้นกลางวันก็ต้องทายากันยุง ใส่เสื้อแขนยาวด้วย 

3. ไม่ใช่ทุกคนที่จะมีผื่น คนชอบจำว่าต้องมีผื่นแดงเต็มตัวถึงจะเป็นไข้เลือดออก จริง ๆ แล้วบางคนไม่มีผื่นเลย แต่มี ไข้สูงลอย ปวดหัว ปวดกระบอกตา ปวดเมื่อย ปวดข้อ ซึม เหนื่อยง่าย 

4. ไข้สูงลอย คือจุดต้องระวัง ถ้าอยู่ดี ๆ เป็นไข้สูง 39-40 องศา กินยาลดไข้ก็ไม่ค่อยลง หรือดีลงแป๊บเดียวแล้วกลับมาขึ้นใหม่ ให้สงสัยไข้เลือดออกไว้ก่อนโดยเฉพาะในช่วงที่มีระบาดแบบนี้ 

5. กินยาแก้ปวดผิด ชีวิตเปลี่ยน ถ้าไม่รู้ว่าใช่ไข้เลือดออกรึป่าว ห้ามรีบกินยาแก้ปวดกลุ่ม NSAIDs เช่น ไอบูโพรเฟน แอสไพริน เด็ดขาด เพราะจะทำให้เลือดออกง่ายขึ้น อันตรายถึงชีวิตได้ ยาพาราเซตามอลคือทางเลือกที่ปลอดภัยกว่า 

6. อาการที่ต้องรีบพบแพทย์ ถ้าเป็นไข้ 2-3 วันแล้วยังไม่ดีขึ้น หรือมีอาการเหล่านี้ต้องรีบมา รพ.ทันที อาเจียนมาก เบื่ออาหาร ซึม เหนื่อย หอบ ปวดท้องมาก จุดเลือดออกตามตัว เลือดกำเดาออก อาเจียนเป็นเลือด หรือถ่ายดำ 

7. ระยะวิกฤตซ่อนอยู่ช่วงไข้ลด คนส่วนใหญ่นึกว่าไข้ลดคือดีแล้ว แต่ไข้เลือดออกจะมีช่วงอันตราย หลังไข้เริ่มลดลงในวันที่ 4-6 เพราะเป็นช่วงที่เส้นเลือดรั่วง่าย เลือดออกในช่องท้องและปอดได้ เพราะฉะนั้นถ้าไข้ลดแล้วคนไข้กลับซึมลงต้องรีบกลับมารพ. 

8. การรักษาไม่มี “ยาเฉพาะ” ปัจจุบันยังไม่มี “ยาฆ่าเชื้อไวรัสเดงกี” โดยตรง การรักษาเป็นแบบประคับประคอง ดูแลสมดุลน้ำเกลือในร่างกายอย่างใกล้ชิด ต้องดูแลโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ เพราะถ้าระบายของเหลวในเส้นเลือดผิดเวลาอาจทำให้ช็อกได้ 

9. วัคซีนมี แต่ต้องใช้แบบจำกัด ตอนนี้ในไทยมีวัคซีนไข้เลือดออก ที่เริ่มใช้ได้ในบางกลุ่ม แต่ ยังไม่ใช่วัคซีนที่ฉีดกันได้ทั่วทั้งประเทศทุกคน และต้องพิจารณาเป็นรายบุคคล ฉีดแล้วก็ยังต้องกันยุงเหมือนเดิม เพราะไม่ครอบคลุม 100% 

10. คนเสียชีวิตทุกปีเพราะประมาท อย่าคิดว่าไข้เลือดออกเป็นแค่ “ไข้หวัดธรรมดา” ปี ๆ หนึ่งคนไทยเสียชีวิตหลักร้อย–พันคน บางคนเป็นคนแข็งแรงมาก่อน ไม่รู้ว่าตัวเองเสี่ยง พอไป รพ.ช้า เสียชีวิตจากภาวะช็อกได้ง่ายมาก 

ทั้งนี้ เว็บไซต์เจาะลึกระบบสุขภาพ ได้ออกมาเเจ้งยอดป่วยเเละรายงานสถานการณ์โรคไข้เลือดออกของประเทศไทยในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา (ตั้งแต่ 2565 – 2567) พบผู้ป่วยปีละ 45,145 – 158,620 ราย เสียชีวิต 29 – 181 ราย และตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 4 มิถุนายน 2568 พบผู้ป่วยแล้ว 13,079 ราย เเละเสียชีวิตอีก 15 ราย  

ช่วงนี้น่าห่วงมากๆ โรคเยอะมากจริงๆค่ะ อย่างไรก็ตามพยายามอย่าให้ ยุงลาย กัดนะคะ พยายามใส่กางเกงขายาว-เสื้อแขนยาว ป้องกันไว้ จะได้ไม่เป็น  “ไข้เลือดออก”ค่ะ  

ที่มา: เพจเฟสบุ๊ก หมอเจด https://www.facebook.com/share/p/16DSEpDjtb/  , เว็บไซต์เจาะลึกระบบสุขภาพ