“พล.ต.อ.เพิ่มพูน” ชูทักษะ “3+1 ภาษา” ไทย จีน อังกฤษ และดิจิทัล ยกระดับการศึกษาไทยเข้าสู่ยุคใหม่ 

“พล.ต.อ.เพิ่มพูน” นำ ศธ.จับมือ อว.-ไมโครซอฟท์ ร่วมขับเคลื่อนโครงการ THAI Academy – AI in Education ชูทักษะ “3+1 ภาษา” ไทย จีน อังกฤษ และดิจิทัล ยกระดับระบบการศึกษาไทยเข้าสู่ยุคใหม่

เดินหน้ายกระดับระบบการศึกษาไทยเข้าสู่ยุคใหม่  

วานนี้ (9 มิ.ย.68) ในงานแถลงข่าวความร่วมมือระหว่าง กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และบริษัทไมโครซอฟท์ ประเทศไทย “AI in Education : พลิกโฉมการศึกษาไทยด้วย AI จาก พันธมิตรระดับโลก”  ณ พิพิธภัณฑ์การศึกษาไทย โถงชั้น 1 อาคารราชวัลลภ กระทรวงศึกษาธิการ 

พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) ได้เป็นประธานในโครงการ THAI Academy – AI in Education มุ่ง ยกระดับระบบการศึกษาไทยเข้าสู่ยุคใหม่ วางรากฐานพร้อมสร้างโอกาสการเรียนรู้ด้วย AI ให้กับคนไทยทุกช่วงวัย เพื่อส่งเสริมการปฏิรูปการศึกษาด้วยแพลตฟอร์มและเครื่องมือดิจิทัลแห่งอนาคต โดยมีนายศุภชัย ปทุมนากุล ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม นายธนวัฒน์ สุธรรมพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ไมโครซอฟท์ ประเทศไทย พร้อมด้วย นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงศึกษาธิการ นายสุเทพ แก่งสันเทียะ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการ กพฐ. นางเกศทิพย์ ศุภวานิช ฃรองเลขาธิการ กพฐ. นางภัทริยาวรรณ พันธุ์น้อย ผู้ช่วยเลขาธิการ กพฐ. สื่อมวลชน และผู้เกี่ยวข้อง เข้าร่วมงาน  

ภายใต้วิสัยทัศน์ของ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในการขับเคลื่อนประเทศไทยสู่สังคมดิจิทัลที่มีศักยภาพในการใช้เทคโนโลยี AI อย่างทั่วถึงและยั่งยืน รัฐบาลได้กำหนดเป้าหมายชัดเจนในการสร้างระบบนิเวศ AI ที่เชื่อมโยงกัน อย่างบูรณาการ โดยตั้งเป้าผลิตบุคลากรเฉพาะทางด้าน AI จำนวนกว่า 30,000 คน และพัฒนาทักษะการใช้งานใน ระดับประชาชนทั่วไปให้ได้อย่างน้อย 10 ล้านคนภายในปี 2570 เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต เพิ่มขีดความสามารถใน การแข่งขันของประเทศ และลดความเหลื่อมล้ำในทุกมิติ ซึ่งแผนขับเคลื่อนดังกล่าวอยู่ภายใต้การดูแลของบอร์ด AI แห่งชาติที่มีท่านนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน 

พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ได้ประกาศนำนโยบายดังกล่าวมาปฏิบัติจริงผ่านการกำหนดยุทธศาสตร์ด้านการศึกษา โดยเน้นการสร้างทักษะ “3+1 ภาษา” ได้แก่ ภาษาไทย ภาษาจีน ภาษาอังกฤษ และภาษาดิจิทัล เพื่อให้เยาวชนไทยมีทักษะที่จำเป็นในการดำรงชีวิตและทำงานในยุคดิจิทัล การดำเนินงานด้านการศึกษานี้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ AI แห่งชาติทั้ง 5 ด้าน ได้แก่  

(1) การส่งเสริมจริยธรรมและ กฎหมายด้าน AI  

(2) การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล  

(3) การพัฒนาศักยภาพบุคลากรและการศึกษา  

(4) การวิจัยและนวัตกรรม AI  

(5) การส่งเสริมการใช้ AI ในภาคเศรษฐกิจและสังคม  

มีเป้าหมายเพื่อร่วมกันในการยกระดับประเทศสู่การเป็นผู้นำในภูมิภาคด้านเทคโนโลยีและการเรียนรู้แห่งอนาคต โครงการ THAI Academy – AI in Education จึงเป็นโครงการที่มุ่งสร้างความเท่าเทียมทางการศึกษา และยกระดับ ทักษะ รวมทั้งเตรียมความพร้อมให้คนไทยเข้าสู่เศรษฐกิจดิจิทัลที่ขับเคลื่อนด้วย AI โดยกระทรวงศึกษาธิการได้ต่อยอดแนวคิดการเรียนรู้แบบ Anywhere Anytime ผ่านแพลตฟอร์มการศึกษาระดับชาติ หรือ National Digital Learning Platform (NDLP) นำเนื้อหาเกี่ยวกับปัญญาประดิษฐ์มาบูรณาการ โดยเน้นความกระชับ เข้มข้น และต่อเนื่อง  

ผู้เรียนสามารถเลือกเรียนรู้ตามความสนใจได้อย่างยืดหยุ่น โดยในระยะแรกมุ่งสร้างทักษะครอบคลุม นักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลายกว่า 600,000 คนทั่วประเทศ นอกจากนี้ ยังมีแผนพัฒนาแพลตฟอร์ม NDLP ให้ทันสมัยยิ่งขึ้น ด้วยการนำเครื่องมืออัจฉริยะอย่าง AI Chatbot และ AI Agent มาให้บุคลากรทางการศึกษาษาได้ใช้งานเพื่อปรับบทเรียนให้เหมาะสมกับผู้เรียน และยกระดับ มาตรฐานการสอนให้เป็นหนึ่งเดียวทั่วประเทศ 

พลตำรวจเอก เพิ่มพูน กล่าวว่า “ความร่วมมือในโครงการ AI in Education นี้ไม่ใช่แค่การนำเทคโนโลยีเข้ามาเติมเต็ม แต่คือการเปลี่ยนแปลงเชิงระบบ ยกระดับทั้งผู้เรียนและผู้สอนทั่วประเทศ เราเชื่อว่า AI จะช่วยให้เด็กไทยเข้าถึงทักษะที่พวกเขาสนใจอยาก เรียน ส่วนครูเองก็มีเครื่องมือที่พร้อมสนับสนุนให้ การสอนมีคุณภาพ ทันสมัย และเท่าเทียม เพื่อให้ทุกคนสามารถเรียนรู้ได้ทุกที่ ทุกเวลาอย่างแท้จริง” 

ทั้งนี้ กระทรวง อว. ได้ร่วมกับไมโครซอฟท์ สนับสนุนหลักสูตรที่เปิดโอกาสให้นักศึกษา และประชาชนทุกกลุ่มสามารถเข้าถึงการเรียนรู้ AI ได้ฟรี ตั้งแต่ระดับพื้นฐานไปจนถึงระดับสูง โดยมีเส้นทางการเรียนรู้ที่ออกแบบมาอย่างเป็นระบบภายใต้ชื่อโครงการ Developer AI Skills Journey ซึ่งจะเตรียมความพร้อมให้บัณฑิตไทยสามารถเข้าสู่อาชีพ ที่กำลังเติบโตในอนาคต เช่น วิศวกร AI นักวิทยาศาสตร์ข้อมูล และผู้เชี่ยวชาญด้าน Prompt Engineering เป็นต้น  

นอกจากนี้ ยังสนับสนุนการพัฒนาระบบ micro-credentials ที่เอื้อให้นักศึกษาจากหลากหลายสาขา สามารถเลือกเรียนบทเรียนทักษะ AI ที่ตนเองสนใจ เพื่อเติมเต็มความรู้ และสามารถสะสมเป็นหน่วยกิตในรายวิชาศึกษาทั่วไป ผ่านแพลตฟอร์ม GETS ที่นำเนื้อหาจากหลักสูตรของไมโครซอฟท์ ไปเป็นส่วนหนึ่งของระบบการจัดการเรียนรู้ 

นายศุภชัย ปทุมนากุล ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กล่าวว่า “เรากำลังก้าวเข้าสู่ยุคเศรษฐกิจดิจิทัลที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีอย่างเต็มรูปแบบการพัฒนากำลังคนจึงต้องทันกับความเปลี่ยนแปลง กระทรวง อว. มีบทบาทสำคัญในการปั้นคนไทยในระดับอุดมศึกษาให้มีทักษะที่ตลาดต้องการ ผ่านการเรียนรู้ตลอดชีวิต โดยไม่จำกัดอายุหรือสถานะทางการศึกษา ความร่วมมือในวันนี้จึงเป็นจุดเริ่มต้นของระบบที่ทุกคนจะมีสิทธิ์เข้าถึงความรู้ใหม่ และสามารถกำหนดอนาคตของตัวเองได้ 

ในโครงการนี้ ไมโครซอฟท์ได้มีบทบาทสำคัญในการเสริมทักษะ AI ให้กับคนไทย ผ่านหลักสูตรออนไลน์ภาษาไทย ให้เรียนรู้ได้ฟรี ถึง 200 หลักสูตร ตั้งแต่ขั้นพื้นฐาน ไปจนถึงหลักสูตรเฉพาะทางสำหรับบุคลากร เช่น ครู ผู้บริหาร หรือนักพัฒนาซอฟต์แวร์ โดย นายธนวัฒน์ สุธรรมพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ไมโครซอฟท์ ประเทศไทย กล่าวว่า “วันนี้ คือจุดเริ่มต้นของการวางรากฐานด้านการศึกษาที่แข็งแกร่ง โดยนำทักษะ AI มาให้เยาวชนไทยได้เรียนรู้ อย่างทั่วถึง ซึ่งจะเป็นกุญแจสำคัญในการเปิดประตูสู่โอกาสใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นการยกระดับทักษะภาษา การลดช่อง ว่างระหว่างผู้สอนและผู้เรียน รวมถึงส่งเสริมประเทศไทยให้ยกระดับจากการเป็นผู้ใช้งานไปสู่ผู้สร้างสรรค์ ด้วยการ ทำงานร่วมกันกับกระทรวงศึกษาธิการและกระทรวง อว. เพื่อพัฒนาศักยภาพครูด้วยทักษะ AI ตั้งแต่ระดับพื้นฐาน และขั้นสูง และในอนาคต เรามีการวางแผนระยะยาวร่วมกันเพื่อสร้างระบบนิเวศการเรียนรู้ที่ยั่งยืนให้กับ ประเทศไทย” 

ความร่วมมือในครั้งนี้ ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการผนึกพลังระหว่างกระทรวงศึกษาธิการ กระทรวง อว. และภาคเอกชน ในการขับเคลื่อนการใช้ AI เพื่อการเรียนรู้ในสังคมไทย ทั้งสองกระทรวงมีความมุ่งมั่นที่จะเปิดกว้างต่อความร่วม มือกับหน่วยงานต่างๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นองค์กรเทคโนโลยี มหาวิทยาลัย หรือภาค อุตสาหกรรม เพื่อร่วมกันสร้างระบบนิเวศแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิตที่มีคุณภาพ เท่าเทียม และตอบโจทย์อนาคตของ ประเทศไทยอย่างแท้จริง  

โครงการ THAI Academy – AI in Education ยังครอบคลุมถึงการพัฒนาทักษะ AI เพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิต ตั้งแต่ระดับประถมศึกษา มัธยมศึกษา อุดมศึกษา อาชีวศึกษา ไปจนถึงการเรียนรู้นอกระบบ นอกจากนี้กระทรวงศึกษาธิการและกระทรวง อว. ยังอยู่ระหว่างการพัฒนาคลังหน่วยกิต กลาง หรือ National Credit Bank System ซึ่งจะ เป็นระบบที่รวบรวมผลการเรียนรู้ในทุกช่วงวัยเข้าสู่ฐานข้อมูลเดียว และยังมีแอปพลิเคชันพอร์ตโฟลิโอ ที่ช่วยให้ผู้เรียนสามารถวางแผนเส้นทางการศึกษาและอาชีพของตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ การศึกษาจึงไม่จำเป็นต้องจำกัดอยู่ในห้องเรียนหรือกรอบของอายุอีกต่อไป แต่จะเป็นระบบที่เชื่อมโยงการเรียนรู้ กับโอกาสการทำงานในอนาคตอย่างเป็นรูปธรรม