
ของใช้ในบ้านก็เสี่ยงโรคร้ายแรงได้นะ ต้องระวัง!
วานนี้ (4 พ.ค.68) นพ.เจษฎ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ เจ้าของเฟซบุ๊ก หมอเจด ได้ออกมาโพสต์เตือนเกี่ยวกับ 5 ของใช้ในบ้านที่ทำให้เสี่ยงมะเร็งปอด จะมีอะไรบ้างเรามาดูรายละเอียดที่คุณหมอระบุไว้คร่าวๆดังนี้…

“หลายคนชอบคิดนะครับว่าไม่ได้ออกจากบ้านไปไหนไม่เสี่ยงมะเร็งปอดหรอก จริงๆแล้วบ้านที่เราคิดว่าปลอดภัยที่สุด อาจมีบางอย่างที่ทำร้ายสุขภาพเราแบบไม่รู้ตัว แต่จริง ๆ แล้ว ของบางอย่างในบ้านก็สามารถปล่อยสารอันตรายหรือสะสมสิ่งที่ไม่ดีต่อปอดเราได้เหมือนกัน วันนี้ผมจะพามาดู 5 สิ่งในบ้านที่คุณอาจมองข้ามไป พร้อมกับวิธีง่าย ๆ ในการดูแลและป้องกันความเสี่ยงและเพื่อสุขภาพปอดดีขึ้น มาดูกันครับว่ามีอะไรบ้าง
1. เครื่องปรับอากาศที่ไม่ได้ล้างทำความสะอาด
เครื่องปรับอากาศที่เราเปิดใช้ทุกวัน แต่ถ้าปล่อยให้สกปรกหรือไม่ได้ล้างนาน ๆ มันก็กลายเป็นแหล่งสะสมฝุ่น เชื้อรา และแบคทีเรียได้ง่าย ๆ นะครับ โดยเฉพาะเชื้อรา Aspergillus ที่เล็กจนเรามองไม่เห็น แต่เมื่อเราหายใจเข้าไปสะสมในปอดทุกวัน อาจเสี่ยงต่อการเกิดโรคทางเดินหายใจเรื้อรังหรือมะเร็งปอดได้
เราลดความเสี่ยงได้ด้วยการ
-ล้างแอร์ทุก 3-6 เดือน เพื่อให้อากาศที่ออกมาสดชื่นและปลอดภัย
-เปลี่ยนหรือทำความสะอาดแผ่นกรองอากาศอย่างสม่ำเสมอ
-อย่าลืมเปิดหน้าต่างหรือปรับการระบายอากาศในบ้านด้วยนะครับ
2. ผ้าม่านที่ไม่ได้ทำความสะอาด
ผ้าม่านในบ้านที่ไม่ได้รับการซักหรือทำความสะอาดนาน ๆ ก็จะกลายเป็นแหล่งสะสมของฝุ่น เชื้อรา และไรฝุ่น โดยเฉพาะในบริเวณที่อากาศไม่ถ่ายเท นอกจากนี้ หากมีการสูบบุหรี่ในบ้าน ควันบุหรี่ที่ลอยในอากาศจะไปเกาะติดที่ผ้าม่าน และสะสมเป็นคราบควันบุหรี่มือสาม (Third-hand smoke) ที่มองไม่เห็น แต่มีสารพิษตกค้างอยูj เมื่อสารพิษเหล่านี้กระจายตัวเข้าสู่ปอดของเราทุกวัน จะเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคทางเดินหายใจเรื้อรัง รวมถึงมะเร็งปอดได้ในระยะยาว
แนะนำว่า
-ซักผ้าม่านทุก 3-6 เดือน เพื่อลดการสะสมของฝุ่นและเชื้อโรค
-ถ้าสูบบุหรี่ในบ้าน ควรเลิกสูบบุหรี่ในพื้นที่ปิด หรือทำความสะอาดผ้าม่านให้บ่อยขึ้น
-ใช้เครื่องดูดฝุ่นหรือแปรงปัดฝุ่นสำหรับผ้าม่านระหว่างการซัก
-เลือกใช้ผ้าม่านที่ทำจากวัสดุที่ทำความสะอาดง่าย และหลีกเลี่ยงการใช้ผ้าม่านหนาในพื้นที่ที่มีความชื้นสูง


3. หมอนและที่นอนเก่า
รู้ไหมครับ หมอนและที่นอนที่เราใช้นอนทุกคืน มันสะสมฝุ่น เชื้อรา และเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วไว้เพียบเลย ถ้าเราไม่ดูแล มันจะกลายเป็นแหล่งของไรฝุ่นและเชื้อโรคที่ปล่อยสารพิษออกมา ตอนที่เรานอนหลับก็จะสูดดมเข้าไปในปอดทุกวัน เสี่ยงต่อโรคปอดอักเสบเรื้อรังหรือมะเร็งปอด
อย่าลืมลดความเสี่ยงด้วยการ
-เปลี่ยนหมอนทุก 1-3 ปี และซักปลอกหมอนทุกสัปดาห์
-สำหรับที่นอน ควรใช้ผ้าปูที่กันไรฝุ่น และกลับด้านที่นอนทุก 3-6 เดือน
-อย่าลืมดูแลความสะอาดในห้องนอนด้วยนะครับ
4. สเปรย์ปรับอากาศและน้ำหอมในบ้าน
หลายคนชอบใช้สเปรย์ปรับอากาศหรือจุดน้ำหอมในบ้านให้กลิ่นหอม ๆ แต่รู้ไหมครับว่าสารเคมีระเหยในพวกนี้ เช่น ฟอร์มัลดีไฮด์ (Formaldehyde) และ เบนซีน (Benzene) ซึ่งเป็นสารที่ได้รับการจัดอันดับว่าเป็นสารก่อมะเร็ง (Carcinogen) จากองค์การอนามัยโลก เมื่อเราสูดดมสารเหล่านี้เข้าไปในระยะยาว สารเคมีจะเข้าสู่ทางเดินหายใจและสะสมในปอด ซึ่งสารฟอร์มัลดีไฮด์สามารถกระตุ้นการระคายเคืองในเซลล์เยื่อบุทางเดินหายใจ ทำให้เกิดการอักเสบเรื้อรัง และนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงของเซลล์ปอดในระยะยาว ซึ่งอาจกลายเป็นมะเร็งปอดได้ นอกจากนี้ เบนซีนที่มักพบในน้ำหอมบางชนิด ยังสามารถส่งผลต่อการทำงานของเซลล์ในปอดและระบบเลือด เพิ่มความเสี่ยงต่อมะเร็งปอดและมะเร็งเม็ดเลือดได้อีกด้วย
ลดความเสี่ยงได้โดย
-ใช้ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติแทน เช่น น้ำมันหอมระเหย
-ลดการใช้สเปรย์ในห้องปิด หรือเปิดหน้าต่างระบายอากาศหลังใช้งาน
5. ควันจากเทียนและธูป
การจุดเทียนหรือธูปในบ้าน โดยเฉพาะในพื้นที่ที่ไม่มีการระบายอากาศจะปล่อย ฝุ่น PM2.5 และสารเคมีอันตราย เช่น พอลิไซคลิกอะโรมาติกไฮโดรคาร์บอน (PAHs) เข้าสู่ปอดโดยตรง ซึ่งสารพวกนี้สามารถกระตุ้นการเกิดมะเร็งปอดและโรคทางเดินหายใจเรื้อรังได้นะครับ
แนะนำว่า
-หากจำเป็นต้องจุด ควรทำในพื้นที่ที่อากาศถ่ายเทได้ดี
-การจุดธูปผมแนะนำใช้ธูปที่สั้นลง หรือเป็นธูปที่เป็นแบบไฟฟ้านะครับ”
บอกเลยว่าของใช้ในบ้านหลายๆอย่างเราก็อาจมองข้ามไป จนลืมไปว่าสิ่งเหล่านี้ส่งผลต่อสุขภาพปอดของเราและคนในครอบครัวได้ เพราะฉะนั้นควรดูแลบ้านให้สะอาด เลี่ยงการใช้สารเคมีที่ไม่จำเป็น เพื่อสุขภาพที่ดีนะคะ ‘อีจัน’ เป็นห่วงค่า
ขอบคุณข้อมูลจาก เพจเฟซบุ๊ก หมอเจด https://www.facebook.com/share/p/1Fj3enhgUB/