หมออาสา สะท้อนปัญหา คนไข้โควิด Home isolation แต่ไม่ได้รับยา

ไร้เตียง ไร้ยา ไร้ทางดูแลตัวเอง! หมออาสา สะท้อนปัญหา คนไข้โควิด Home isolation แต่ไม่ได้รับยา ไรเดอร์ส่งต้องควักเงินค่าน้ำมันเอง วอนหน่วยงานรีบมาดูแล

วิกฤตโควิดในไทยยังไม่มีวี่แววว่าจะคลี่คลาย ทั้งตัวเลขที่สูงขึ้น และตอนี้หลายโรงพยาบาล ไม่มีเตียงรักษาคนนไข้ จนทำให้คนไข้จำนวนมาก ต้องรักษาและสังเกตอาการตัวเองอยู่ที่บ้าน และจะมีการโทรติดตามอาการ และจ่ายยาให้ถึงบ้าน โดยแพทย์ หรือเรียกว่า Home isolation

แต่เหมือนกับว่า วิธีนี้ไม่ได่ราบรื่น มีคไข้และแพทย์อาสาออกมาสะท้อนปัญหาว่า ไม่ได้รับยาบ้าง ยาไปไม่ถึงบ้าง ทำให้พวกเขาไม่รู้จะดูแลตัวเอง และปฎิบัติตัวยังไง

ล่าสุดวานนี้ 31 ก.ค. 2564 เพจเฟซบุ๊กคุณหมออาสาท่านหนึ่ง ที่ทำงานช่วยเหลือสังคม และช่วยเหลือวิกฤตโควิดนี้ ออกมาโพสต์ว่า

จากหมออาสา ทำ Home isolation คนหนึ่ง

ปัญหา ที่ยังแก้ไม่ได้ คนไข้อีกจำนวนมาก ยังไม่ได้รับยา

Home isolation แต่ยาไปไม่ถึงทัน

รัฐใช้การ Home isolation เข้ามาแก้ไข ระบบ เตียง ที่ไม่พอ

แต่เรายังทำได้ไม่ดีพอ ที่จะให้คนไข้ได้รับยาได้ทัน

เราเฝ้าติดตามอาการคนไข้ หลายคนดีขึ้น หลายคนหาย

แต่มีอีกหลายคน จากสีเขียว เป็นสีเหลือง และเป็นสีแดงและเสียชีวิต

ทุกคนอยากได้ยาเร็ว หมอก็อยากให้ยาถึงเร็ว แต่มันไปไม่ถึง

เพราะระบบ เพราะกำลังพล เพราะปริมาณคนไข้ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้เราส่งยาให้ถึงได้ไม่ทัน

เฉพาะพริบตาคลินิค คนไข้เข้าระบบ 2 หมื่น คน หมอ ประมาณ 1 พันคน ช่วยกัน call แต่ด้วยประมาณคนไข้ กับระบบ ที่ใหม่ ทำให้ปริมาณยาค้างที่ต้องส่งเยอะ จนทำให้ พริบตาคลินิค ต้องลดปริมาณคนไข้เข้าระบบ ลงแต่ เคสผู้ป่วยเพิ่มขึ้นทุกวัน แล้ว เคสใหม่เหล่านั้น จะไปลงที่ไหน ?

ทุกอย่างกลายเป็นระบบจิตอาสา แม้แต่ Rider ยังต้องควักเงินออกค่าน้ำมันเอง ไม่มีเงินใดๆมาสนับสนุน

ผมบอกได้เลยว่า ถ้าปริมาณคนไข้ติดเชื้อใหม่ ยังสูงขนาดนี้

เราไม่มีทางใช้ ระบบ Home isolation กระจายให้ยาได้ทันท่วงทีแน่ คนไข้จะเสียชีวิตอีกเยอะมาก เพราะยาไปช้า

ยาเรามีเยอะมาก แต่ไม่ได้เอาออกมาใช้ เพราะให้ไม่ทัน ระบบการกระจายยาของรัฐทำช้าไป เข้าถึงยาก และมีช่องทางน้อย

ทำงานแล้วมันอึดอัด ที่เรายังไปได้ไม่สุด ช่วยคนไข้ได้ไม่มากพอ ที่เราต้องการ

ทางที่จะทำให้ ลดการตายได้มากที่สุด

ต้องเปิดศูนย์รับยา หลายๆเขต ให้ ญาติคนไข้ สามารถรับยาแทนได้ ให้ผู้ป่วยได้รับยาและกินที่บ้าน และจัดระบบคิวการรับดีๆ ไม่ให้โกลาหล และประชาสัมพันธ์ให้ทราบ

ส่วนเคสที่ ไม่มีญาติ ต้องกักตัว ใช้การ โทร call แบบที่พริบตาคลินิคทำ แล้วจัดระบบ ระดมกำลัง ให้ส่งยาได้ เกินวันละ 1,000 เคสให้ได้

ทุกนาที ทุก ชม. ที่คนไข้ไม่ได้ยา เราจะมีคนเสียชีวิตมากขึ้น

อยากให้คิดว่า ทุกนาทีที่เสียไป ที่คนไข้สีเหลืองไม่ได้ยาถึงจุดนึง จะย้อนกลับไม่ได้ เป็นจุดที่น่าเข้าไปสะกัดไม่ให้เคสแดง ล้น รพ มากที่สุด

ถ้าขยับช้า แบบนี้ เราจะมีคนเสียชีวิตสูงขึ้นทุกวัน มีคนเสียชีวิตคาบ้านอีกมากมาย

ฝากผู้มีอำนาจในการสั่งการ ต้องขยับอย่างเร็วแล้วครับ

ข้อความนี้ถูกแชร์ต่อไปวงกว้าง เพราะมันคือความจริงที่เกิดกับประเทศไทยตอนนี้ เราจะทำอย่างไร เราจะแก้อย่างไ ก่อนที่มันจะสายเกินไป