จับตา! โอมิครอนสายพันธุ์ XBB.1.16.1.1 ติดง่ายขึ้น 50%

ผู้เชี่ยวชาญทั่วโลก เฝ้าจับตา โอมิครอนสายพันธุ์ XBB.1.16.1.1 เนื่องจากเติบโต-แพร่ระบาดสูงกว่า XBB.1.16 ถึง 50% โดยความรุนแรงยังไม่ปรากฏ

รู้ไว้ไม่เสียหาย ข้อมูลพัฒนาการของโควิด-19

วันที่ 17 พ.ค.66 ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก Center for Medical Genomics เกี่ยวกับ จับตาโอไมครอน “FU.1(XBB.1.16.1.1)” หลานของ “XBB.1.16” ว่า…

ผู้เชี่ยวชาญทั่วโลกประสานความร่วมมือเพื่อเฝ้าติดตาม “FU.1” เนื่องจากมีความได้เปรียบในการเติบโต-แพร่ระบาด (relative growth advantage)สูงกว่า XBB.1.16 ถึง 50% โดยความรุนแรงยังไม่ปรากฏ

แม้จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั่วโลกจะลดลงอย่างมีนัยสำคัญ  แต่โควิด-19 ตระกูลโอมิครอนยังมีการกลายพันธุ์แพร่ระบาดอย่างต่อเนื่อง ที่เด่นชัดมี 3 กลุ่มคือ

โอมิครอน XBB.1.5 นามแฝงคือ คราเคน (Kraken) มาจากชื่อปลาหมึกยักษ์ในเทพนิยาย

โอมิครอน XBB.1.16 นามแฝงคือ อาร์คทูรัส (Arcturus) มาจากชื่อดาวฤกษ์

โอมิครอน XBB.1.9.1 นามแฝงคือ ไฮเปอเรี่ยน (Hyperion) มาจากชื่อเทพเจ้าแห่งแสงสว่าง

โดยกลุ่มโอมิครอน XBB.1.5 มีการลดจำนวนลงอย่างต่อเนื่อง ประเมินว่าจะถูกแทนที่โดย กลุ่ม XBB.1.16 และ XBB.1.9.1 ที่พบระบาดมากที่สุดในอินเดีย และมีการกระจายไปทั่วโลก  ส่วนในอาเซียนพบในสิงคโปร์และไทย

ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ รพ. รามาธิบดีติดตามการกลายพันธุ์ในระดับจีโนมของไวรัสโคโรนา 2019 ทั้งในประเทศไทยและทั่วโลกจากการถอดรหัสพันธุกรรมทั้งจีโนมของไวรัสโควิด-19 โดยการเก็บตัวอย่างจากผู้ติดเชื้อในประเทศและข้อมูลรหัสพันธุกรรมจากฐานข้อมูลโควิดโลก “จีเสส (GISAID)” ในช่วง 30 วันที่ผ่านมา (15 เม.ย. -15พ.ค. 2566) พบโอมิครอนสายพันธุ์หลักในประเทศไทยเป็นกลุ่ม XBB ประมาณ 93.5% ประกอบด้วยสายพันธุ์ย่อยอันดับหนึ่งคือ XBB.1.16 ประมาณ 19% อันดับสองเป็น XBB.1.5 ประมาณ 10% และอันดับสามเป็น XBB.1.9.1 ประมาณ 8.4%

สายพันธุ์ย่อยอันดับหนึ่งกลุ่ม XBB.1.16 หรืออาร์คทูรัส (Arcturus) พบการกลายพันธุ์ระบาดไปทั่วโลกถึง 3 รุ่นคือ

รุ่นแรก

โอมิครอน XBB.1.16 (กลายพันธุ์ ณ. ตำแหน่ง S:E180V, S:478R) ทั่วโลกพบ 9,003  ราย  ประเทศไทย 139 ราย

รุ่นลูก

โอมิครอน XBB.1.16.1 (S:T547I) ทั่วโลกพบ  2,714  ราย  ประเทศไทย 26 ราย

โอมิครอน XBB.1.16.2  (ORF3a:V13L, ORF1a:P926H)  ทั่วโลกพบ 666 ราย ประเทศไทยพบ   25 ราย

โอมิครอน XBB.1.16.3 (A2893C) ทั่วโลกพบ 175  ราย ประเทศไทยพบ   5  ราย

โอมิครอน XBB.1.16.4 (S:T678I) ทั่วโลกพบ 177  ราย ประเทศไทยยังไม่พบ

โอมิครอน XBB.1.16.5 (T9991C,C16332T) ทั่วโลกพบ 135  ราย ประเทศไทยยังไม่พบ

โอมิครอน XBB.1.16.6 (S:F456L) ทั่วโลกพบ 23 ราย ประเทศไทยยังไม่พบ

รุ่นหลาน

โอมิครอน XBB.1.16.1.1 (T3802C) นามแฝง FU.1  ทั่วโลกพบ 122 ราย  ประเทศไทยพบ 1 ราย 

โอมิครอน XBB.1.16.1.2 (C8692T)  นามแฝง FU.2 ทั่วโลกพบ  149 ราย ประเทศไทยยังไม่พบ

สายพันธุ์ย่อยอันดับสามคือกลุ่ม XBB.1.9.1 หรือไฮเปอเรี่ยน (Hyperion) พบการกลายพันธุ์ระบาดไปทั่วโลกถึง 3 รุ่นคือ รุ่นแรก รุ่นลูก และรุ่นหลานเช่นกัน ใช้ชื่อเรียกเป็นอักษรย่อ “FL” ตามด้วยตัวเลขทศนิยม ยังไม่มีการตั้งชื่อนามแฝง

สายพันธุ์ย่อยในกลุ่มโอมิครอน XBB.1.16 โดยเฉพาะ “FU.1 (XBB.1.16.1.1)”  ถือได้ว่าเป็น “รุ่นหลาน” ของ XBB.1.16 พบการระบาดมากในนครเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน ผู้เชี่ยวชาญทั่วโลกได้ประสานความร่วมมือให้ช่วยกันเฝ้าติดตามเนื่องจากมีค่าความได้เปรียบในการเติบโต-แพร่ระบาด (relative growth advantage) สูงกว่า XBB.1.16 ถึง 50%

ในขณะที่กลุ่มโอมิครอน XBB.1.16 “รุ่นลูก” คือ  “XBB.1.16.1” พบการแพร่ระบาดในสวีเดน โดยมีโอมิครอนกลุ่ม “XBB.1.9.1” และรุ่นลูกและรุ่นหลาน “FL” กลายพันธุ์แพร่ระบาดตามมาติดๆ คาดว่าอาจเข้ามาแทนที่กลุ่ม XBB.1.16 ในอนาคต

คลิปอีจันแนะนำ
เส้นทางเงินเว็บพนัน 78 ล้าน ของ แอมไซยาไนด์ สั่งตาย!