#อีจันปั้นมือนวดEP1
ปัญหาระดับชาติ สำหรับคนทำงานเเละชาวออฟฟิศ ปวดหัว ปวดตาเครียด ปวดสะบัก จนทำให้ประสิทธิภาพการทำงานไม่เต็มที่ เเต่ไม่มีเวลาเเม้จะออกไปนวดหรือออกกำลังกาย
เอกซเรย์ตัวเองหน่อยมั้ย ว่าวันนี้ร่างกายเรา เปลี่ยนไปเเค่ไหน
1. ท่าเดิน,ท่ายืนและท่านั่ง ที่รู้สึกเอง
-ท่าเดินสังเกตว่าเดินเอียงไปด้านไหนอย่างไรไหม เดินเหยียบเต็มเท้าหรือไม่ เพราะแนวข้างที่เอียงมักจะเจ็บ
-ท่ายืนสังเกตว่าแนวบ่าสองข้างเท่ากันไหม คอตั้งตรงไหม เท้าทั้งสองข้างยืนเท่ากันหรือไม่ เพราะข้างที่สูงกว่าคือข้างที่มีอาการตึง และข้างที่ต่ำกว่ามักมีอาการยืด
-ท่านั่งสังเกตว่านั่งเต็มก้นไหม นั่งหลังตรงห่อไหลหรือไม่ เพราะจะบอกได้ว่ามักใช้กล้ามเนื้อมัดใดหนักเยอะเกิน
หาว่าสาเหตุแห่งอาการมาจากอะไร
เช่นอายุ การยึดตึงของกล้ามเนื้อ อุบัติเหตุ หรือการเล่นกีฬา หลักของคำว่ากล้ามเนื้อตึงกับกล้ามเนื้อยืด โดยมัดกล้ามเนื้อมักทำงานกันเป็นคู่ๆ เช่น มัดด้านหน้า-มัดด้านหลัง มัดซ้าย-มัดขวา มัดบน-มัดล่าง
ซึ่งโดยปกติทั่วไปส่วนใหญ่อาการเจ็บ มักมาจากอีกด้านหนึ่งตึงจนเป็นจุดทำให้เจ็บ(trigger point)และอีกด้านหนึ่งยืดจนเป็นบริเวณที่รู้สึกว่าเจ็บ(referred) เช่น ไข้วมือไปด้านหลังแล้วเจ็บ พอไข้วมือมาด้านหน้าไม่เป็นไร ก็แสดงว่า มัดแนวหน้าอกตึง มัดแนวสะบักยืด ฯ
การนวดก็ควรต้องนวดและยืดคลายฝั่งที่ตึงให้เรียบร้อยก่อน แล้วค่อยไปนวดฝั่งที่ยืด
เมื่อประเมินร่างกายตัวเองเเล้ว หากเป็นอาการปวดเมื่อยปกติ สามารถไปหาหมอนวด หรือเรียนรู้การนวดที่ถูกวิธีจากผู้รู้ มาปรับใช้ โดยต้องนวดคลายคลายเส้นก่อน เเล้วค่อยให้หมอนวดรักษาเเก้อาการต่อไป
หากพบสิ่งบ่งบอกอาการมากกว่าที่เจอ เช่น จะนวดแนวแขนต่อด้วยคอ,บ่า,ไหล่ แต่ระหว่างนวดแนวแขนอยู่ มีอาการแสดงว่ามีประเด็นมาจากแนวด้านหลัง ก็ต้องบอกหมอนวดเสมอ
เเละเเนวทางที่สุด หากรู้ว่า ร่างกายเราไม่ไหว ให้ฝึกการบริหารร่างกาย โดยเฉพาะท่าฤๅษีดัดตน ที่สำคัญต้องทำเองเป็นและเข้าใจในหลักการจุดเน้นข้อดีของท่านั้นๆก่อนด้วย เพื่อใช้ในการทำเสริมต่อที่บ้านหรือที่ทำงาน
เช็กร่างกายบ่อยๆ อย่าปล่อยจนสายเกินแก้
คลิปอีจันแนะนำ
ส้มโอนครชัยศรี ดียังไงทำไมต้องจัด!