ต้านโรคลมแดด ลดเสี่ยงฮีทสโตรก ด้วยอาหาร

อากาศร้อนปรอทแทบแตก หัวแทบระเบิด ยิ่งเดือนเมษายนยิ่งร้อนแตะ 40-43 องศา เพื่อสู้กับอากาศร้อน มากินอาหารที่ช่วยลดความร้อนในร่างกายกันค่ะ

กรมอุตุนิยมวิทยา ระบุว่า ช่วงปลายเดือน มี.ค.ถึง เม.ย.66 จะเป็นช่วงที่มีอากาศร้อนที่สุดของปี โดยอุณหภูมิสูงสุด 40-43 องศาเซลเซียล ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพได้

เรียกว่า ร้อนระอุ!!! จนร่างแทบระเบิด

เช็กลิสต์ อุณหภูมิหน้าร้อนนี้ ระอุเบอร์ไหน เสี่ยงฮีทสโตรก

วันนี้ อีจัน แข็งแรง ขอหยิบเรื่องอาหารการกินที่ช่วยปรับสมดุล เพื่อต้านลมแดด ลดความเสี่ยงฮีทสโตรก มาบอกกันค่ะ

ข้อมูลนี้มาจาก ภญ.อาสาฬา เชาวน์เจริญ เภสัชกรชำนาญการ รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร ซึ่งบอกว่า ประเทศไทยกำลังเข้าสู่ฤดูร้อน อุณหภูมิตอนกลางวันบางวันสูงถึง 40 องศา และอาจมีความร้อนเพิ่มขึ้นในบางพื้นที่ โดยอุณหภูมิที่เพิ่มสูงขึ้นสามารถส่งผลกระทบต่อสุขภาพได้ ทั้งในระยะสั้น ระยะยาว และในหลากหลายระบบของร่างกาย

รวมถึงโรคลมแดด หรือ ฮีทสโตรก (Heat Stroke) คือ ภาวะที่ร่างกายมีความร้อนสูงมากกว่า 40 องศาเซลเซียส เป็นเวลานานเกิน 10-15 นาที และไม่สามารถระบายความร้อนออก หรือขับเหงื่อออกได้ ซึ่งมีสาเหตุหลักมาจากอากาศที่ร้อนสูงขึ้น การใช้แรงมากๆ ในสภาพอากาศที่ร้อน มีโอกาสทำให้เสียชีวิตได้

อาการของโรคลมแดด ที่สามารถสังเกตได้ เช่น ตัวร้อนจัด ผิวสีแดงกว่าปกติ บางรายพบมีผื่นแดง ไม่มีเหงื่อออก ปัสสาวะออกน้อย เวียนศีรษะ มึนงง หายใจเร็ว ใจสั่น อ่อนแรง หน้ามืด เป็นลม แขนขาตะคริว หรือ เมื่ออุณหภูมิสูงขึ้นเรื่อย ๆ

อาจทำให้เกิดอาการรุนแรงได้ เช่น สับสน เพ้อ พูดไม่ชัดเจน กระสับกระส่าย ชัก ช็อก กล้ามเนื้อลายสลาย อวัยวะต่างๆ เกิดการล้มเหลว เช่น ไตล้มเหลว เซลล์ตับตาย กล้ามเนื้อหัวใจตาย หัวใจวาย

หากพบว่าเริ่มมีอาการควรรีบบรรเทาอาการ โดยการอยู่ที่ร่ม อากาศถ่ายเทสะดวก นอนราบ ยกขาสูงเล็กน้อย พยายามทำให้เสื้อผ้าระบายอากาศได้ดี ใช้ผ้าเย็น ผ้าชุบน้ำเย็นเช็ดตามตัว เน้นตามข้อพับ คอ หลัง หากมีสติให้รีบดื่มน้ำสะอาด หากหมดสติควรรีบเรียกรถพยาบาล

หนึ่งในวิธีป้องกันการเกิดโรคลมแดด หรือ ฮีทสโตรก คือ การกินอาหารให้เป็นยา

ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงที่อุณหภูมิในร่างกายจะสูงขึ้น และปรับให้ร่างกายสมดุล ลดไฟธาตุที่จะกำเริบได้ในช่วงนี้

เครื่องดื่มที่ช่วยลดความร้อนในร่างกาย เช่น การเลือกดื่มน้ำสมุนไพรที่ทำจากสมุนไพรฤทธิ์เย็นจาก ใบบัวบก ใบเตย ว่านหางจระเข้ น้ำมะพร้าว รากบัว เก๊กฮวย มะขาม มะตูม กระเจี๊ยบแดง

รับประทานผลไม้ฤทธิ์เย็น แก้ร้อนใน กระหายน้ำ อาทิ แตงโม แตงไทย แคนตาลูป เมล่อน แก้วมังกร กระท้อน ส้มโอ ชมพู่

หรือกลุ่มพืชผักที่มีฤทธิ์เย็น คลายร้อน เช่น ตระกูลฟัก แฟง แตงกวา หัวไชเถ้า  บวบ ตำลึง มะระขี้นก ใบหูเสือ ดอกแค ขี้เหล็ก สะเดา ผักบุ้ง กวางตุ้ง ผักกาด สายบัว รากผักชี

ควรลดการรับประทานผลไม้ฤทธิ์ร้อน เช่น ทุเรียน ขนุน เงาะ ลิ้นจี่ ลำไย ละมุด มะม่วงสุก ยิ่งกินพร้อมข้าวเหนียว จัดเป็นของฤทธิ์ร้อน

อย่างไรก็ตาม เพื่อป้องกันภาวะลมแดด ควรเลี่ยงการสัมผัสกับการอยู่ในสภาพอากาศร้อนสูงเป็นเวลานานๆ และดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอ อย่างน้อย 2 ลิตรต่อวัน หรือเสียเหงื่อมากอาจดื่มน้ำหรือเกลือแร่เพิ่ม และงดหรือลดเครื่องดื่มที่ทำให้ร่างกายเสียน้ำ เช่น ชา กาแฟ แอลกอฮอล์ เนื่องจากอาจทำให้เกิดอาการขาดน้ำได้

ทั้งหมดคือข้อมูลในการกินอาหารให้เป็นยา ปรับสมดุลร่างกาย ลดไฟธาตุที่จะกำเริบได้ในช่วงนี้