นักวิจัยชาวญี่ปุ่น เผย ฟันผุทำให้ความจำเสื่อม

นักวิจัยชาวญี่ปุ่น เผย โรคเหงือกและฟันผุ เกี่ยวข้องกับการหดตัวของสมองส่วนฮิปโปแคมปัส ซึ่งทำให้เป็นโรคอัลไซเมอร์ได้ มักพบในวัยทำงานและผู้สูงอายุ

ไม่อยากความจำเสื่อม รีบแปรงฟันด่วน! 

‘อีจัน’ เชื่อว่าไม่มีใครที่ไม่เคยแปรงฟัน เพราะเราถูกสอนให้รู้จักแปรงฟันและรักษาสุขภาพช่องปากมาตั้งแต่เด็ก การแปรงฟันและใช้ไหมขัดฟันไม่ใช่เรื่องยากเลย และการทำทั้งสองอย่างอย่างถูกต้องสามารถช่วยป้องกันโรคเหงือกและการสูญเสียฟัน ที่อาจทำให้โรคความจำเสื่อมได้ 

โรคเหงือกเกิดจากแบคทีเรียที่พบในคราบพลัคและหินปูน คราบพลัคเป็นแผ่นฟิล์มเหนียวที่ก่อตัวบนฟัน ส่วนใหญ่ประกอบด้วยแบคทีเรีย เมือก อาหารและอนุภาคอื่นๆ เมื่อคราบพลัคไม่ถูกกำจัดออก มันจะแข็งตัวเป็นหินปูน ซึ่งเป็นที่อยู่ของแบคทีเรีย และทำให้เกิดการอักเสบของเหงือก เรียกว่า โรคเหงือกอักเสบ  

โดยงานวิจัยของ ซาโตชิ ยามากูจิ (Satoshi Yamaguchi) นักวิจัยชาวญี่ปุ่น ค้นพบว่า โรคเหงือกและการสูญเสียฟันนั้น เกี่ยวข้องกับการหดตัวของสมองส่วนฮิปโปแคมปัส ซึ่งเป็นสมองด้านความจำ และมักพบการหดตัวลักษณะนี้ในผู้ป่วยโรคอัลไซเมอร์ 

แม้การศึกษานี้ไม่ได้พิสูจน์ว่ามีความสัมพันธ์เชิงสาเหตุระหว่างโรคเหงือกและการหดตัวของสมอง แต่การศึกษานี้ชี้ชัดว่า จำนวนฟันที่หายไปและการเกิดโรคเหงือกอักเสบ มีความสัมพันธ์กับอัตราการฝ่อของสมองส่วนฮิปโปแคมปัส ซึ่งส่วนใหญ่มักพบในกลุ่มวัยทำงานตอนปลายและกลุ่มผู้สูงอายุ ในวัย 55 ปี ขึ้นไป  

ทั้งนี้ งานวิจัยดังกล่าวได้สอดคล้องกับงานวิจัยของ ดร.แองเจลา คาเมอร์ จากวิทยาลัยทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนิวยอร์ก ที่แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่าง ‘กลุ่มแบคทีเรียที่ไม่สมดุล’ ที่พบอยู่ใต้เหงือก ซึ่งเชื่อมโยงกับสารชีวภาพบางอย่างในน้ำไขสันหลัง ที่บ่งชี้ถึงโรคอัลไซเมอร์ในผู้ใหญ่เช่นกัน 

ซึ่งการค้นพบทั้งสองกรณีนี้กำลังบอกเราว่า ‘ภาวะสมองเสื่อมและโรคอัลไซเมอร์’ ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป แต่อยู่ใกล้ ๆ แค่เพียงการเอื้อมมือไปหยิบแปรงสีฟันในทุก ๆ วัน 

การแปรงฟันนั้นง่ายนิดเดียว แต่จะแปรงยังไงให้มีคุณภาพที่สุดนะ ‘อีจัน’ รวบรวมมาให้แล้วค่ะ 

1. เลือกแปรงสีฟันที่เหมาะสม 

เลือกใช้แปรงสีฟันขนนุ่มเพื่อป้องกันการเสียดสีมากเกินไป และลดการระคายเคืองต่อเหงือก นอกจากนี้ ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าขนาดหัวแปรงเหมาะสมกับการเข้าถึงทุกพื้นที่ในช่องปากอย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่ 

2. การเลือกยาสีฟันที่มีคุณภาพ 

การเลือกยาสีฟันที่เหมาะสม มีความสำคัญกับการรักษาสุขอนามัยช่องปากมากเลยนะ ควรมองหายาสีฟันที่ได้รับการรับรองจากสมาคมทันตกรรม ซึ่งโดยทั่วไปแล้วจะมีฟลูออไรด์ ซึ่งเป็นส่วนประกอบหลักที่จำเป็นสำหรับการต่อสู้กับฟันผุและเสริมสร้างเคลือบฟันให้แข็งแรง  

3. เทคนิคที่เหมาะสม 

– ทำให้แปรงสีฟันเปียกและใช้ยาสีฟันในปริมาณเท่าเมล็ดถั่ว 

– ถือแปรงสีฟันในมุมเล็กน้อย โดยเล็งไปที่ขอบเหงือก 

– เคลื่อนที่เป็นวงกลมเล็กๆ ขณะแปรงฟัน โดยให้ความสนใจเท่ากันกับแต่ละด้านของปาก เวลาแปรงฟันที่เหมาะสมคือ 2-3 นาที 

– แปรงฟันให้ทั่วปาก รวมทั้งพื้นผิวที่ใช้บดเคี้ยวและพื้นผิวด้านใน ด้านนอก 

– อ่อนโยน แต่ใช้แรงกดให้เพียงพอ ที่ขนแปรงจะสัมผัสกับฟันและเหงือก หลีกเลี่ยงการขัดแรงๆ หรือการเคลื่อนไหวไปมา ซึ่งอาจทำลายเคลือบฟันและทำให้เหงือกระคายเคือง 

– อย่าลืมแปรงลิ้นเบา ๆ เพื่อกำจัดแบคทีเรียและรักษาลมหายใจให้สดชื่น 

– หลังจากแปรงฟัน ให้บ้วนปากด้วยน้ำสะอาดเพื่อขจัดคราบยาสีฟันที่ยังหลงเหลืออยู่ ทั้งนี้ สมารถใช้ไหมขัดฟันหรือผลิตภัณฑ์อื่นๆ ร่วมด้วยได้ 

ทั้งนี้ ควรแปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น ควรเดินทางไปพบแพทย์ ทุกๆ 6–12 เดือน เพื่อเช็กปัญหาสุขภาพช่องปาก และขูดหินปูนด้วยนะคะ 

ข้อมูลจาก: https://women.trueid.net/ , https://www.dailymail.co.uk/