ดื่มน้ำสู้อากาศร้อน ตับไม่แตก

เมษา หน้าร้อน ร้อนจริงจัง ร้อนระดับที่อุณหภูมิพุ่งทะลุ 40 องศา แทบทุกวัน

จนทำให้ได้ยินคำว่า “ร้อนตับแตก” กันอยู่บ่อยครั้ง

“ร้อนตับแตก”  เป็นคําโบราณ ที่หมายถึง ใบจากที่ใช้มุงหลังคาเรียงกันเรียกว่า “ตับจาก” เมื่อโดนแดดจัด ๆ ร้อน ๆ ก็จะทำให้ตับจากแตกหรือโก่งตัวเบียดกัน

ที่เขียนไปข้างบนเพื่ออธิบายว่า เมษายน ช่างร้อนเสียยิ่งกระไร และร้อนตับแตกก็เป็นการเปรียบเปรย

เอาเป็นว่าร้อนขนาดนี้ เราต้องดูแลสุขภาพ สร้างสมดุลให้ร่างกาย เพื่อสู้กับอากาศที่ร้อน

หนึ่งในการรักษาสมดุลที่ดีเยี่ยม คือ การดื่มน้ำให้พอดีกับความต้องการของร่างกาย

ร่างกายคนทั่วไปต้องการน้ำวันละ 8 แก้ว อาจมากบ้างน้อยบ้างตามกิจกรรมที่ทำในแต่ละวัน และควรจิบบ่อยๆ ไม่ต้องรอให้กระหายน้ำ ไม่ควรดื่มน้ำแบบครั้งเดียวเยอะๆ เพราะจะเกิดภาวะน้ำเป็นพิษได้

อ๊ะ! ภาวะน้ำเป็นพิษ (Water intoxication or Water poisoning) คือ การที่ดื่มน้ำมากจนเกินไป ส่งผลให้ปริมาณน้ำในเลือดมาก และภาวะโซเดียมในเลือดน้อยเกินแบบเจือจาง จึงส่งผลให้ปวดศีรษะ ตะคริว ชัก หรือกล้ามเนื้ออ่อนแรง คลื่นไส้ อาเจียน บวม ส่งผลกระทบต่อเซลล์สมอง ซึ่งอาจอันตายจนถึงขั้นเสียชีวิตได้ 

ดังนั้น จึงต้องดื่มน้ำพอดี ๆ กับความต้องการของร่างกาย

ส่วนในผู้สูงอายุ ลูกๆ หลานๆ ต้องดูแลเป็นพิเศษหน่อย เนื่องจากผู้สูงอายุเสี่ยงภาวะขาดน้ำได้ง่าย เพราะของเหลวสำรองในร่างกายที่ลดลง การตอบสนองต่อความกระหายน้ำลดลง รวมทั้งความเสื่อมของร่างกาย  เช่น กลั้นปัสสาวะไม่ได้ ซึมเศร้า สมองเสื่อม และการได้รับยาบางชนิดเพื่อรักษาโรคประจำตัว ทำให้ผู้สูงอายุ มีความเสี่ยงต่อการขาดน้ำมากกว่ากลุ่มวัยอื่น ๆ

การสังเกตว่าผู้สูงอายุขาดน้ำหรือไม่ ดูได้จากริมฝีปากแห้ง ความยืดหยุ่นของผิวหนังลดลง รู้สึกอ่อนเพลีย ปัสสาวะลดลงหรือมีสีเข้มขึ้น รวมถึงการเป็นตะคริวได้ง่าย

หากผู้สูงอายุขาดน้ำรุนแรง จะพบว่ามีชีพจรเร็วกว่า 120 ครั้งต่อนาที ความดันโลหิตต่ำขณะเปลี่ยนท่า ทำให้เกิดอาการวิงเวียนศีรษะ เป็นลมง่าย มีภาวะสับสน  หมดสติ จนกระทั่งเข้าสู่ภาวะหัวใจล้มเหลวและไตวายได้

ดังนั้น ต้องค่อยสังเกตและกระตุ้นให้ผู้สูงอายุดื่มน้ำบ่อยๆ ทุกชั่วโมงอย่างสม่ำเสมอ ไม่ต้องรอกระหาย และควรให้ผู้สูงอายุงดดื่มชา กาแฟ แอลกอฮอล์ และเครื่องดื่มที่มีปริมาณน้ำตาลสูง เพราะจะยิ่งทำให้ร่างกายขาดน้ำมากยิ่งขึ้น

ในกรณีที่ผู้สูงอายุมีโรคประจำตัว อาทิ ไตวายเรื้อรัง โรคหัวใจ ควรดื่มน้ำตามปริมาณที่แพทย์ผู้รักษาแนะนำ

นี่คือการดื่มน้ำให้พอดีกับร่างกาย ดื่มน้ำสะอาดเพื่อรักษาสมดุลของร่างกาย บางคนอาจดื่มเกิน 8 แก้ว บางคนอาจดื่มน้อยกว่า 8 แก้ว ขึ้นอยู่กับปัจจัยที่กล่าวไปข้างต้น ที่สำคัญดื่มแบบค่อยๆ จิบ อย่าดื่มรวดเดียวเยอะๆ

หน้าร้อนนี้เราจะผ่านอากาศที่ร้อนสุดๆ ไปได้ ด้วยการดูแลสุขภาพให้ดีนะคะ

ที่มา :

https://multimedia.anamai.moph.go.th/news/140365-2/

https://nutrition2.anamai.moph.go.th/th/rrhlnews/209505