ช้างป่า บุรีรัมย์ ใช้งวงฟาดบ้าน พังทั้งหลัง เจ้าของบ้าน หวิดดับ !

นาทีระทึก ช้างป่า บุรีรัมย์ บุกชุมชน ใช้งวงฟาดบ้าน พังทั้งหลัง เจ้าของบ้าน หวิดดับ โชคดี ซากบ้านพัง บังร่างไว้ พรางตาช้าง

นาทีระทึก!

ช้างป่าบุกพังบ้าน สามีภรรยาหวิดดับคู่

โชคยังดี ซากบ้านที่ทำจากบ้านทับร่างไว้ ช่วยพรางตาช้าง

วันนี้ (18 ก.พ. 65) เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าดงใหญ่ อ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ ได้รับแจ้งเหตุ จากผู้นำหมู่บ้านลำนางรอง หมู่ 1 ต.ลำนางรอง อ.โนนดินแดง ว่า “ช้างป่าบุกพังบ้าน” ของลูกบ้านในพื้นที่ เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าดงใหญ่ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง จึงเร่งเข้าตรวจสอบ เพื่อสำรวจความเสียหาย

เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึง พบว่า บ้านหลังดังกล่าว เป็นบ้านของนายประสิทธิ์ อายุ 51 ปี และนางกัลยา โคตรหา อายุ 55 ปี สองสามีภรรยา อยู่เลขที่ 190 หมู่ 1 บ้านลำนางรอง อ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ ได้รับความเสียหาย พังยับทั้งหลัง โชคยังดี ที่เจ้าของบ้าน 2 สามีภรรยารอดมาได้!

นายประสิทธิ์ อายุ 51 ปี ผู้เป็นสามีเล่าว่า เมื่อเวลาประมาณ 02.00 น. (18 ก.พ. 65) นางกัลยา อายุ 55 ปี ผู้เป็นภรรยาลงจากบ้านไปห้องน้ำ ซึ่งอยู่นอกตัวบ้าน (ข้างบ้าน) ห่างจากตัวบ้านประมาณ 10 เมตร ไม่นานนัก นางกัลยาก็วิ่งหน้าตาตื่นกลับมา พร้อมตะโกนบอกตนว่า “ช้างมาๆ”

ขณะนั้นตนกำลังนอนหลับอยู่ เมื่อได้ยินเสียงตะโกนของภรรยา จึงรีบตื่นทันที ก่อนจะตั้งสติ แล้วบอกให้ภรรยาหนีออกไปก่อน ค่อยๆ คลานไป

ส่วนตนก็เร่งเก็บเสื้อผ้าและข้าวของจำเป็นบางอย่าง แต่ไม่ทันเสียแล้ว…เพราะตนได้ยินเสียงฝีเท้าของช้างป่า เดินเข้ามาใกล้เรื่อยๆ เดินวนอยู่รอบๆ บ้าน ตนจึงทำได้แค่นิ่งเงียบ และลุ้นอย่างสุดชีวิต ว่าจะรอดไปจากเหตุการณ์นี้หรือไม่

ด้านภรรยากเล่าว่า หลังจากที่สามีบอกให้เธอคลานหนีไป เธอก็ทำตามที่สามีว่า

โดยตนได้คลานลอดรั้วหนามไป ด้วยความตื่ตระหนก ประกอบกับความมืดที่ปกคลุมทั่วบริเวณ ตนจึงไม่ทันระวัง ทำให้ใบหน้าของตนชนเข้ากับไม้แหลม ได้รับบาดเจ็บบริเวณดวงตา แม้จะเจ็บเพียงใด แต่จำต้องเอาชีวิตรอด จึงทนคลานต่อไปจนถึงบ้านอีกหลังหนึ่งของตน ที่ยังสร้างไม่เสร็จดี จึงได้หลบซ่อนอยู่ในบ้านหลังนั้น ซึ่งห่างจากบ้านที่สามีต้องเผชิญกับช้างป่า ประมาณ ประมาณ 50 เมตร

เวลาผ่านไปเท่าไหร่ ตนไม่อาจรู้ได้ แต่ตนอดทนรอจนแน่ใจแล้วว่า “ช้างป่าน่าจะไปแล้ว”

ตนจึงเร่งออกจากที่ซ่อน เพื่อไปแจ้งให้ผู้นำหมู่บ้านมาช่วยเหลือสามี

ด้านสามีเล่าเสริมว่า ขณะที่ตนกำลังนั่งลุ้นอย่างเงียบๆ ในบ้านนั้นเพียงลำพัง จู่ๆ ช้างป่าตัวดังกล่าว ก็ใช้ง่วงฟาดไป ฟาดมาจนบ้านพังยับทั้งหลัง และยังพยายามใช้งวงควานหาบางอย่างใต้ซากบ้านที่พังนั้นด้วย

โชคดี…บ้านที่ว่า สร้างจากไม้คล้ายกระท่อม เสษไม้เหล่านั้น หล่นลงมาทับร่างตนไว้ ทำให้ช้างป่าหาไม่เจอ ประมาณ 5 นาที ช้างป่าตัวดังกล่าวจึงเดินจากไป ก่อนภรรยาจะไปแจ้งให้ชาวบ้านให้มาช่วยเหลือ

โดยที่ผ่านมา ช้างป่าเคยเข้ามาบริเวณบ้านหลายครั้งแล้ว แต่ครั้งนี้อันตรายที่สุด แต่กลับรอดชีวิตมาราวปาฎิหาริย์

นายสมส่วน รักสัตย์ หัวหน้าเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าดงใหญ่ อ.โนนดินแดง เผยว่า ช้างป่าดังกล่าวตัวนี้ เป็นช้างตัวผู้ อายุประมาณ 40 ปี ทางเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าดงใหญ่ ได้ตั้งชื่อเอาไว้ว่า ”เจ้ารถถัง” เป็นช้าง ตัวใหญ่ 1 ใน 3 ของช้างที่ได้ใส่ ปลอกคอ GPS ติดตัว เพื่อติดตามความเคลื่อนไหว

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ คาด สาเหตุที่เจ้ารถถัง เข้ามาบุกบ้านเรือนชาวบ้าน เป็นเพราะได้กลิ่นขนุนสุก และผลไม้ จึงเดินเข้ามากิน ส่วนแนวทางการแก้ไขปัญหาช้างป่าบุกเข้าชุมชน ทางเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า มีโครงการจะทำแนวคูกันช้าง เสริมด้วยต้นไผ่ เพื่อไม่ให้ช้างปีนข้ามมาได้

นายสมส่วน หัวหน้าเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าดงใหญ่ ได้แจ้งเตือนชาวบ้านในพื้นที่ไว้เบื้องต้นแล้วว่า ให้ระวัง เพราะช้างป่าแทบทุกตัวมีความดุร้ายหมด

อย่างไรก็ตาม อย่างน้อย เรายังรักษาชีวิตตัวเองให้อยู่รอดปลอดภัยได้ นี่คือสิ่งที่น่ายินดีที่สุด แม้ว่าจะเสียบ้านไปก็ตาม

อีจันขอให้ทุกคนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว ดูแลและระวังความปลอดภัยกันด้วยนะคะ

คลิปแนะนำอีจัน
ฟ้อง ส.ต.ต. ชนหมอกระต่าย 72 ล้าน!