ออกอาละวาดอีกแล้ว! สำหรับแก๊งก่อเหตุอาชญากรรมทางไซเบอร์ ซึ่งในปัจจุบันต้องยอมรับว่า ทุกคนสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีได้ง่ายในคลิกเดียว ล่าสุด ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ แถลงการณ์จับกุมผู้ต้องหา ซึ่งครั้งนี้เป็นการก่อเหตุอาชญากรรมทางไซเบอร์ โดยหลอกลวงลงทุนผ่านแอปพลิเคชันไทยเดลี่
เมื่อวานนี้( 27 ต.ค.64) เวลา 10.30 น. พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. ผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) หรือ PCT พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดวิเคราะห์ PCT ร่วมกันแถลงผลการจับกุมแก๊งหลอกลงทุนแอปพลิเคชันไทยเดลี่ (Thai dairy) ผู้ต้องหา 2 คน ผู้เสียหาย 53 ราย มูลค่าความเสียหายรวม 30 ล้านบาท
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ ผอ. PCT เผยว่า ผู้เสียหายทั้ง 53 ราย ได้รับข้อความชักชวนร่วมลงทุนทำธุรกิจหารายได้เสริมที่บ้าน ผ่านแอปพลิเคชั่น Thai dairy เช่น การอ่านโฆษณาของแบรนด์สินค้า เช่น Lazada , Alibaba เพื่อรับผลตอบแทนเป็นเงิน โดยจะโอนผ่านบัญชีธนาคาร ซึ่งผู้เสียหายบอกว่า ได้เงินจริงในช่วงแรก แต่พอลงทุนเยอะขึ้น ปรากฏว่าไม่ได้เงินคืน จึงเข้าแจ้งความเพื่อให้ตำรวจตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี
หลังได้รับแจ้งความตำรวจ PCT สืบสวนจนทราบว่า คนร้ายรับซื้อบัญชีมาจากที่ต่างๆ ประมาณ 200 บัญชี จึงรวบรวมพยานหลักฐานจนสามารถจับกลุ่มคนร้ายที่ตั้งฐานอยู่ในไทยได้ 2 กลุ่ม คือ กลุ่มนายหน้าหาคนเปิดบัญชี 6 คน และกลุ่มบริหารบัญชี 3 คน จากนั้นตำรวจได้ขยายผลการจับกุมจากผู้ต้องหารายหนึ่ง จากกลุ่มบริหารบัญชี ทราบชื่อ น.ส. สุพรรษา จนสามารถเชื่อมโยงไปหาตัวผู้บงการหลักได้ทั้ง 2 คน คือ นายรุ่งโรจน์ และนายกฤษ พักอยู่ประเทศกัมพูชา โดยนายรุ่งโรจน์เป็นสามีของ น.ส. สุพรรษา เบื้องต้นตำรวจออกหมายจับตัวผู้บงการหลักทั้ง 2 คนแล้ว ส่วนตำรวจจะสามารถนำตัวผู้บงการหลักมาดำเนินคดีตามกฎหมายไทยได้เมื่อไหร่ ต้องให้ทางกัมพูชาพิจารณาก่อนว่าจะส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนได้หรือไม่ เนื่องจากไทยและกัมพูชามีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนกันอยู่
ส่วนพฤติการณ์ที่ผู้ต้องหาใช้ในการหลอกลวงนี้ จะดำเนินงานกันเป็นขบวนการ มีการแบ่งกลุ่มการทำงานกันอย่างชัดเจน คนร้ายจะสร้างลิงค์ขึ้นมาบนสื่อออนไลน์ ให้คนที่สนใจคลิกเข้าไป ลิงค์จะเปิดไลน์ของกลุ่มคนร้ายขึ้นมา จากนั้นจะชักชวนให้ร่วมลงทุนทำธุรกิจหารายได้เสริมที่บ้าน ผ่านแอปพลิเคชัน Thai dairy เป็นการลงทุนง่ายๆ แค่อ่านโฆษณาของแบรนด์สินค้า เช่น Lazada , Alibaba ฯลฯ ผ่านแอปพลิเคชัน หากใครสนใจ คนร้ายก็จะให้โอนเงินเข้ามาเพื่อซื้อโฆษณาไปอ่าน โดยบอกว่าจะรับผลตอบแทนจากเงินที่โอน 10-20% ภายใน 10 นาที ซึ่งช่วงแรกคนร้ายจะโอนเงินให้จริงๆ เพื่อลวงให้เหยื่อเชื่อใจ ว่าหากลงทุนไปแล้วจะได้กลับมาจริงๆ เพื่อทำให้เหยื่อลงทุนเพิ่มขึ้น แต่เมื่อเหยื่อลงทุนเพิ่มมากขึ้น คนร้ายกลับไม่โอนเงินให้ โดยอ้างว่าต้องโอนเพิ่มอีก เพื่อที่จะได้รับผลตอบแทนที่เยอะกว่า เหยื่อก็ต้องยอมโอนเพราะอยากได้เงินคืน
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ ผอ. PCT กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง มีคำสั่งให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เร่งปราบปรามอาชญากรรมที่สร้างความเดือดร้อนให้ประชาชน โดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ซึ่งมีการหลอกลวงประชาชนโดยใช้ Social Media เป็นจำนวนมาก
พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้กำชับให้ทุกหน่วยเร่งระดมปราบปรามอย่างจริงจังและต่อเนื่อง ทั้งนี้ ความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกง ถือเป็นความผิดมูลฐานตามกฎหมายฟอกเงิน หลังจากนี้จะได้แจ้งสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ให้ตรวจสอบเพื่อยึดทรัพย์ของผู้ต้องหาและผู้ที่เกี่ยวข้อง และดำเนินคดีฐานฟอกเงินต่อไป
หากใครพบเบาะแส หรือคิดว่าอาจจะตกเป็นเหยื่ออาชญากรรมทางไซเบอร์ สามารถแจ้งเข้ามาได้ที่ สายด่วน PCT 1599 ตลอด 24 ชม. หรือสายตรง 081-8663000 หรือ www.pct.police.go.th