ตำรวจ PCT บุกจับ Scammer ลวงเหยื่อลงทุนผ่านแอปฯ เสียหายร่วม 30 ล้าน!

ตำรวจ PCT แถลงจับกุมแก๊ง Scammer ลวงเหยื่อลงทุนผ่านแอปพลิเคชัน กว่า 50 คน มูลค่าความเสียหายร่วม 30 ล้านบาท เบื้องต้น สืบจนรู้ตัวผู้บงการแล้ว

ออกอาละวาดอีกแล้ว! สำหรับแก๊งก่อเหตุอาชญากรรมทางไซเบอร์ ซึ่งในปัจจุบันต้องยอมรับว่า ทุกคนสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีได้ง่ายในคลิกเดียว ล่าสุด ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ แถลงการณ์จับกุมผู้ต้องหา ซึ่งครั้งนี้เป็นการก่อเหตุอาชญากรรมทางไซเบอร์ โดยหลอกลวงลงทุนผ่านแอปพลิเคชันไทยเดลี่

เมื่อวานนี้( 27 ต.ค.64) เวลา 10.30 น. พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. ผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) หรือ PCT พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดวิเคราะห์ PCT ร่วมกันแถลงผลการจับกุมแก๊งหลอกลงทุนแอปพลิเคชันไทยเดลี่ (Thai dairy) ผู้ต้องหา 2 คน ผู้เสียหาย 53 ราย มูลค่าความเสียหายรวม 30 ล้านบาท

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ ผอ. PCT เผยว่า ผู้เสียหายทั้ง 53 ราย ได้รับข้อความชักชวนร่วมลงทุนทำธุรกิจหารายได้เสริมที่บ้าน ผ่านแอปพลิเคชั่น Thai dairy เช่น การอ่านโฆษณาของแบรนด์สินค้า เช่น Lazada , Alibaba เพื่อรับผลตอบแทนเป็นเงิน โดยจะโอนผ่านบัญชีธนาคาร ซึ่งผู้เสียหายบอกว่า ได้เงินจริงในช่วงแรก แต่พอลงทุนเยอะขึ้น ปรากฏว่าไม่ได้เงินคืน จึงเข้าแจ้งความเพื่อให้ตำรวจตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี

หลังได้รับแจ้งความตำรวจ PCT สืบสวนจนทราบว่า คนร้ายรับซื้อบัญชีมาจากที่ต่างๆ ประมาณ 200 บัญชี จึงรวบรวมพยานหลักฐานจนสามารถจับกลุ่มคนร้ายที่ตั้งฐานอยู่ในไทยได้ 2 กลุ่ม คือ กลุ่มนายหน้าหาคนเปิดบัญชี 6 คน และกลุ่มบริหารบัญชี 3 คน จากนั้นตำรวจได้ขยายผลการจับกุมจากผู้ต้องหารายหนึ่ง จากกลุ่มบริหารบัญชี ทราบชื่อ น.ส. สุพรรษา จนสามารถเชื่อมโยงไปหาตัวผู้บงการหลักได้ทั้ง 2 คน คือ นายรุ่งโรจน์ และนายกฤษ พักอยู่ประเทศกัมพูชา โดยนายรุ่งโรจน์เป็นสามีของ น.ส. สุพรรษา เบื้องต้นตำรวจออกหมายจับตัวผู้บงการหลักทั้ง 2 คนแล้ว ส่วนตำรวจจะสามารถนำตัวผู้บงการหลักมาดำเนินคดีตามกฎหมายไทยได้เมื่อไหร่ ต้องให้ทางกัมพูชาพิจารณาก่อนว่าจะส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนได้หรือไม่ เนื่องจากไทยและกัมพูชามีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนกันอยู่

ส่วนพฤติการณ์ที่ผู้ต้องหาใช้ในการหลอกลวงนี้ จะดำเนินงานกันเป็นขบวนการ มีการแบ่งกลุ่มการทำงานกันอย่างชัดเจน คนร้ายจะสร้างลิงค์ขึ้นมาบนสื่อออนไลน์ ให้คนที่สนใจคลิกเข้าไป ลิงค์จะเปิดไลน์ของกลุ่มคนร้ายขึ้นมา จากนั้นจะชักชวนให้ร่วมลงทุนทำธุรกิจหารายได้เสริมที่บ้าน ผ่านแอปพลิเคชัน Thai dairy เป็นการลงทุนง่ายๆ แค่อ่านโฆษณาของแบรนด์สินค้า เช่น Lazada , Alibaba ฯลฯ ผ่านแอปพลิเคชัน หากใครสนใจ คนร้ายก็จะให้โอนเงินเข้ามาเพื่อซื้อโฆษณาไปอ่าน โดยบอกว่าจะรับผลตอบแทนจากเงินที่โอน 10-20% ภายใน 10 นาที ซึ่งช่วงแรกคนร้ายจะโอนเงินให้จริงๆ เพื่อลวงให้เหยื่อเชื่อใจ ว่าหากลงทุนไปแล้วจะได้กลับมาจริงๆ เพื่อทำให้เหยื่อลงทุนเพิ่มขึ้น แต่เมื่อเหยื่อลงทุนเพิ่มมากขึ้น คนร้ายกลับไม่โอนเงินให้ โดยอ้างว่าต้องโอนเพิ่มอีก เพื่อที่จะได้รับผลตอบแทนที่เยอะกว่า เหยื่อก็ต้องยอมโอนเพราะอยากได้เงินคืน

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ ผอ. PCT กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง มีคำสั่งให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เร่งปราบปรามอาชญากรรมที่สร้างความเดือดร้อนให้ประชาชน โดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ซึ่งมีการหลอกลวงประชาชนโดยใช้ Social Media เป็นจำนวนมาก

พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้กำชับให้ทุกหน่วยเร่งระดมปราบปรามอย่างจริงจังและต่อเนื่อง ทั้งนี้ ความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกง ถือเป็นความผิดมูลฐานตามกฎหมายฟอกเงิน หลังจากนี้จะได้แจ้งสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ให้ตรวจสอบเพื่อยึดทรัพย์ของผู้ต้องหาและผู้ที่เกี่ยวข้อง และดำเนินคดีฐานฟอกเงินต่อไป

หากใครพบเบาะแส หรือคิดว่าอาจจะตกเป็นเหยื่ออาชญากรรมทางไซเบอร์ สามารถแจ้งเข้ามาได้ที่ สายด่วน PCT 1599 ตลอด 24 ชม. หรือสายตรง 081-8663000 หรือ www.pct.police.go.th

คลิปอีจัน แนะนำ