ประยุทธ์ อวยพร ให้คนไทยรอด โควิด

ประยุทธ์ จ้อผ่าน podcast อวยพรในเทศกาลสงกรานต์ ขอคนไทยรอด โควิด เผย สั่งเพิ่มเตียงผู้ป่วย เปลี่ยนโรงแรมเป็น รพ.สนาม

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมได้ กล่าวผ่านรายการ PM PODCAST นายกรัฐมนตรีเล่าเรื่อง โดยมีการบอกถึงประเด็นในการพูดคุยผ่านรายการดังกล่าวไว้ว่า PM Podcast นายกรัฐมนตรีเล่าเรื่อง สัปดาห์นี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มาอัปเดตมาตรการควบคุมโควิดและการบริหารจัดการวัคซีน โดยเฉพาะข้อสงสัย ทำไมไม่ให้เอกชนซื้อวัคซีนเอง??

สำหรับเนื้อหาที่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงนั้น เป็นเรื่องมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของ ว่า เรื่องนี้ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นโดยที่ผ่านมาได้มีการร่วมมือกันเป็นอย่างดี และสถานการณ์ต่าง ๆ ก็เริ่มคลี่คลายลงทุกคนอยากพักผ่อนท่องเที่ยว ทานอาหารดี ๆ คลายความเครียดจากการทำงาน แต่อาจจะประมาทหรือละเลย ว่าทุกนาทีคือความเสี่ยงที่จะติดเชื้อได้ทุกเวลา ยืนยันว่า การทำงานของรัฐบาลยังคงเดินหน้าไปตามปกติ ซึ่งไม่ต้องเป็นห่วงเพราะมีระบบต่าง ๆ รองรับไว้อยู่แล้ว

สำหรับมาตรการที่ได้เริ่มตั้งแต่วันที่ 5 เม.ย.ที่ผ่านมา หากพบผู้ติดเชื้อในสถานประกอบการประเภทผับ บาร์ คาราโอเกะ และอาบอบนวด จะ ต้องปิดสถานประกอบการทันที อย่างน้อย 2 สัปดาห์ หรือ จนกว่าการแพร่ระบาดจะคลี่คลาย โดยให้อำนาจผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นผู้พิจารณา ขณะเดียวกันหน่วยงานด้านความมั่นคงและกระทรวงสาธารณสุขจะต้องเพิ่มความเข้มข้นในการตรวจกำกับดูแลความเรียบร้อย

นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ยังได้บอกเล่าด้วยว่า เนื่องจากมีความกังวลของประชาชน ถึงการติดเชื้อที่เพิ่มขึ้น แล้วโรงพยาบาลไม่เพียงพอต่อการรักษานั้น ดังนั้น จึงได้มีการสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดเตรียมโรงพยาบาลสนาม เพื่อรองรับผู้ป่วยให้เพียงพอ ซึ่งเป็นการแบ่งเบาภาระของโรงพยาบาล โดยเฉพาะกทม. และผู้ป่วยอาการหนักในโรงพยาบาล หากป่วยไม่มากให้กระจายไปยังโรงพยาบาลสนาม สำหรับรูปแบบโรงพยาบาลสนามได้กำหนดขึ้นใหม่ เช่น โรงพยาบาลบางขุนเทียน โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ และพื้นที่สนามกีฬา

นอกจากนี้ ยังมีกระทรวงกลาโหม ที่ได้มีการจัดเตรียมไว้ รวมไปถึงโรงแรมที่ใช้สำหรับกักตัวกลุ่มเสี่ยง หรือ ASQ ที่จะปรับ มาใช้ประโยชน์เป็นโรงพยาบาลสนาม โดยได้มีการกำชับกระทรวงสาธารณสุข ปลดล็อคเรื่องกฎระเบียบ การรับผู้ป่วยโควิด และการส่งต่อไปยังโรงพยาบาลอื่น ๆ

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังได้กล่าวถึงกรณีการสั่งการกระทรวงสาธารณสุข ปรับสัดส่วน การจัดสรรวัคซีนที่มีอยู่ให้ตรงกับสถานการณ์ความเสี่ยงให้มากขึ้น เพราะขณะนี้มีการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วต้องพิจารณาปริมาณวัคซีนที่มีในปัจจุบัน เช่น กรุงเทพฯ ที่ต้องเพิ่มจำนวนผู้ได้รับวัคซีน จึงขอให้นำวัคซีนที่จะมีการนำเข้ามาอีก 1 ล้านโดส ฉีดให้กับบุคลากรทางการแพทย์ และสาธารณสุขด้านหน้าทั้งภาครัฐและเอกชน รวมถึง อสม.ทั่วประเทศให้ครบ100% โดยส่วนที่เหลือให้จัดสัดส่วนที่เหมาะสม ครอบคลุมกลุ่มเสี่ยงต่าง ๆ ทั้งผู้สูงอายุและผู้ที่มีโรคประจำตัว

โดยพล.อ.ยุทธ์ บอกเล่าว่า อยากให้มีการสื่อสารสร้างความเข้าใจให้ตรงกัน ส่วนที่มีเอกชนบางรายมีการโฆษณาให้ประชาชนสั่งจองวัคซีน โดยไม่มีวัคซีนอยู่ในมือ ถือว่าผิดกฎหมายการโฆษณายา ซึ่งเจ้าหน้าที่จำเป็นจะต้องมีการตรวจสอบตามกระบวนการ และที่มี โรงพยาบาลเอกชน นำวัคซีนไปฉีดให้กับคนที่อยู่นอกกลุ่มเป้าหมายนั้น ทางกระทรวงสาธารณสุขได้มีการตรวจสอบแล้ว เบื้องต้นสมาคมโรงพยาบาลเอกชน มีการปฏิเสธในเรื่องนี

ทั้งหมดนี้เป็นหลักประกันว่าเราสามารถเข้าถึงวัคซีนในช่วงเวลาที่เหมาะสม และสามารถพึ่งพาตนเองได้ ทั้งในช่วงของการระบาดโควิด 19 และโรคอุบัติใหม่ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

“ให้ประชาชนคนไทยทั้งประเทศ มีความสุข อย่างพอเพียง ในเทศกาลสงกรานต์ หรือวันปีใหม่ไทย คิดหวังสิ่งใด ขอให้สำเร็จผสมความมุ่งมั่นปรารถนาทุกประการ และก้าวข้ามผ่านวิกฤตโควิด ด้วยความปลอดภัย มีสุขภาพร่างกายและจิตใจที่แข็งแรง แข็งแกร่ง ถ้วนหน้ากัน และร่วมพัฒนาชาติบ้านเมืองต่อไป” นายกรัฐมนตรี กล่าวอวยพรเนื่องในเทศกาลสงกรานต์