รมว.แรงงาน สั่ง กกจ. เร่งเตือนประชาชน ป้องกันถูก โซเชียลหลอกค้ามนุษย์

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ห่วงคนไทยถูกหลอกทำงานประเทศเพื่อนบ้าน ย้ำคนหางานอย่าหลงเชื่อ ผู้ชักชวนไปทำงานต่างประเทศที่แนะนำให้ทำผิดกฎหมาย เสี่ยงถูกหลอกให้เป็นเหยื่อขบวนการค้ามนุษย์

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า จากกรณีที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊ก ซึ่งเป็นคนไทยที่ถูกหลอกลวงไปทำงานในประเทศกัมพูชา ไลฟ์สดขอความช่วยเหลือโดยอ้างว่าตนและคนไทยกว่า 30 คน ตกเป็นเหยื่อการถูกหลอกชักชวนไปทำงานที่ประเทศเพื่อนบ้าน ก่อนถูกบังคับใช้แรงงาน และขายต่อเป็นทอดๆ นั้น ขณะนี้ได้สั่งการกรมการจัดหางานเร่งประชาสัมพันธ์ให้คนหางานทราบถึงอันตรายและกลวิธีที่สาย-นายหน้าเถื่อนใช้หลอกลวงประชาชน โดยระยะหลังพบพฤติการณ์หลอกลวงคนหางานด้วยการประกาศชักชวนไปทำงานในคาสิโนผ่านสื่อสังคมออนไลน์ แลกกับค่าตอบแทนที่สูง จากนั้นจะมีนายหน้าติดต่อเหยื่อผ่านทางแอปพลิเคชัน เมื่อตกลงเรื่องการจ้างงานและนัดหมายเรื่องการเดินทางข้ามชายแดนแล้ว จะพาเหยื่อลักลอบข้ามพรมแดนผ่านช่องทางธรรมชาติ เพื่อเข้าไปในเขตของประเทศเพื่อนบ้านโดยผิดกฎหมาย เมื่อไปถึงจะให้เหยื่อไปทำงานอื่นที่ไม่ได้ตกลงกันไว้และเป็นงานผิดกฎหมาย เช่น การหลอกลวงคนไทยด้วยกันผ่านสื่อสังคมออนไลน์อีกต่อ หรือหลอกชักชวนให้คนไทยลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลผ่านสื่อสังคมออนไลน์ หากไม่ยินยอมอาจถูกขายต่อเป็นทอดๆ ให้กับนายจ้างรายอื่น หรือถูกกักขังและทำร้ายร่างกาย และหากต้องการกลับประเทศไทยจะต้องจ่ายค่าไถ่ เป็นเงินร่วมแสนบาท

ซึ่ง รมว.แรงงาน กล่าวว่า พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งกำกับดูแลกระทรวงแรงงาน ห่วงใยคนไทยที่ถูกหลอกลวงไปทำงานในประเทศเพื่อนบ้าน โดยมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันเร่งช่วยเหลือคนไทยกลับบ้านอย่างปลอดภัย ซึ่งขอฝากถึงคนไทยที่กำลังหางานในต่างประเทศ หากสาย-นายหน้ามีพฤติการณ์แนะนำให้ทำผิดกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นชักชวนทำงานผิดกฎหมาย การลักลอบเข้าประเทศ หรือไปทำงานต่างประเทศโดยไม่แจ้งการทำงาน ให้สันนิษฐานเป็นลำดับแรกว่าท่านกำลังถูกหลอกลวง โปรดอย่าหลงเชื่อเพราะไม่เพียงเสียทรัพย์ แต่อาจถูกบังคับใช้แรงงาน หรือขายต่อให้นายจ้างรายใหม่เป็นทอด ๆ หรือถูกทำร้าย บางกรณีหากไม่สามารถทำงานได้มีกรณีถ่ายเลือด และเอาอวัยวะไปขาย ซึ่งเข้าข่ายการค้ามนุษย์

ด้านนายไพโรจน์ โชติกเสถียร อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวว่า ได้มอบหมายกองทะเบียนจัดหางานกลางและคุ้มครองคนหางาน จับตาสื่อโซเชียลมีเดีย หากพบผู้มีพฤติการณ์โฆษณาจัดหางานโดยไม่ได้รับอนุญาตจากกรมการจัดหางาน หรือหลอกลวงว่าสามารถหางาน และได้เงินหรือทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดจากผู้ถูกหลอกลวงให้เร่งขยายผล หากพบมีความผิดให้ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป นอกจากนี้สำนักงานจัดหางานจังหวัดทั่วประเทศ จะประชาสัมพันธ์ให้ความรู้กับคนหางานในพื้นที่ที่รับผิดชอบอย่างใกล้ชิด เพื่อให้รู้ทันเล่ห์กลของนายหน้าเถื่อน สามารถช่วยสอดส่องผู้มีพฤติการณ์น่าสงสัยที่เข้ามาหลอกลวงคนในชุมชน และแจ้งเบาะแสต่อเจ้าหน้าที่ได้

ทั้งนี้ กรมการจัดหางานมีศูนย์ประสานการปราบปรามผู้เป็นภัยต่อคนหางาน ทำหน้าที่ตรวจสอบ ป้องปราม และปราบปรามการหลอกลวงไปทำงานต่างประเทศ โดยปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 มีการดำเนินคดีสาย/นายหน้าเถื่อนแล้ว 88 ราย พบการหลอกลวงคนหางานทั้งสิ้น 115 คน คิดเป็นมูลค่าความเสียหาย จำนวน 10,730,600 บาท

สำหรับผู้ที่ต้องการแจ้งเบาะแสหรือร้องทุกข์สามารถติดต่อได้ที่ สำนักงานจัดหางานจังหวัดทุกจังหวัด สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-10 หรือ ที่สายด่วนกระทรวงแรงงาน โทร.1506 กด 2 กรมการจัดหางาน หรือสายด่วน 1694 กรมการจัดหางาน หรือแจ้งเบาะแสโดยตรงที่กองทะเบียนจัดหางานกลางและคุ้มครองคนหางาน โทร. 02 354 1729

คลิปอีจันแนะนำ
ขายย่าม ส่งลูกเรียนหนังสือจนจบ