สปสช. บริการ “เจอ แจก จบ” ที่ร้านยา จ่ายชดเชยค่าบริการมีระบบพิสูจน์ตัวตนผู้เข้ารับบริการ บันทึกผลผ่านระบบ A-MED พร้อมใช้วิธีจ่ายตรงร้านยา โดยไม่มีจ่ายผ่านคนกลาง
วันนี้ (10 เม.ย. 65) ทันตแพทย์ อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการ สปสช. ในฐานะโฆษก สปสช. ชี้แจงถึง กรณีที่ได้มีการวิเคราะห์ข่าวในประเด็น “สปสช.ดึง ร้านขายยา 700 แห่ง ดูแลผู้ป่วยโควิด” ของทางสื่อออนไลน์ว่า นโยบายในการดึงร้านยา 700 แห่ง ร่วมดูแลผู้ป่วยโควิด-19 ด้วยการให้บริการแบบ “เจอ แจก จบ”
เนื่องด้วยปัจจุบันมีผู้ติดเชื้อโควิด 19 รายใหม่เพิ่มสูงขึ้น และส่วนใหญ่เป็นผู้ป่วยกลุ่มสีเขียวที่ไม่มีอาการ หรือมีอาการไม่มาก สปสช. ได้ร่วมมือกับ สภาเภสัชกรรม เพื่อให้ผู้ป่วยกลุ่มนี้เข้าถึงระบบบริการรักษาโดยสะดวกและช่วยเพิ่มการรักษา ให้ผู้ป่วยกลุ่มสีเหลือง สีแดงและผู้ป่วยโรคอื่นๆ ที่จำเป็นต้องได้รับการรักษาที่โรงพยาบาล ซึ่งขณะนี้มีร้านยาทยอยขึ้นทะเบียนในระบบกับ สปสช.แล้ว 500 แห่ง
สำหรับร้านยาที่เข้าร่วมให้บริการผู้ป่วยโควิด 19 ตามนโยบายนี้ มีหลักเกณฑ์ระบุชัดเจน ต้องเป็นร้านยาที่มีเภสัชกรประจำ โดยได้รับการเชิญชวนและคำแนะนำจากสภาเภสัชกรรมในการเข้าร่วมให้บริการ
สำหรับขั้นตอนการเข้ารับบริการ “เจอ แจก จบ” ที่ร้านยา จะเหมือนกับการเข้ารับบริการที่โรงพยาบาลและหน่วยบริการอื่นๆ ในระบบ สปสช. มีดังนี้
1. ยืนยันตัวตนด้วยบัตรประชาชน และบันทึกข้อมูลการให้บริการผ่านโปรแกรม AMED Telehealth ระบบบริการการแพทย์ทางไกล ซึ่งพัฒนาโดย สวทช. ในการบันทึกข้อมูลเพื่อส่งเบิกกับ สปสช.
2. ร้ายยา จ่ายยาให้กับผู้ที่ตรวจพบเชื้อโควิด ในงบประมาณ 700 บาทต่อคน (700 บาท คือค่ายา)
ซึ่งบริการ “เจอ แจก จบ” เริ่มให้บริการแล้วตั้งแต่วันที่ 21 มี.ค. 65 และมีผู้มาใช้บริการแล้ว 1,200 ราย
อย่างไรก็ตามร้านยาที่ต้องการเข้าร่วมโครงการสามารถเข้าร่วมได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามโดยตรงที่ สปสช. และหากพบว่ามีการทุจริตหรือมีพฤติกรรมที่ไม่โปร่งใสในขั้นตอนใด ขอให้แจ้งโดยตรงที่เลขาธิการ สปสช. จะดำเนินการตามกฎหมายให้ถึงที่สุด
ข้อมูลจาก : สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
คลิปอีจันแนะนำ
ความในใจลูกสาวสั่งแฟนฆ่าเเม่