เปิดประวัติ บัวขาว บัญชาเมฆ ตำนานยอดมวยไทย ขวัญใจคนไทย

เปิดประวัติ บัวขาว บัญชาเมฆ ตำนานยอดมวยไทย ขวัญใจคนไทยและต่างแดน กับเส้นทางชีวิตนักสู้

วินาทีนี้เชื่อว่าไม่มีใครที่ไม่รู้จัก บัวขาว บัญชาเมฆ ยอดนักมวยอดีตแชมป์ K-1 ที่มีดีกรีไม่ธรรมดาพ่วงตำแหน่งยศร้อยโท และ ดร. ที่ล่าสุดแม้อายุจะขึ้นเลขสี่ แต่ก็ยังคงฟิตเปรี๊ยะเตรียมขึ้นสังเวียนดวลหมัดกับ ยาสุฮิโร่ คิโดะ ในศึก ศึก RWS Legend of Rajadamnern ในวันที่ 9 กันยายน นี้ รวมถึงไฟตท์สำคัญกับ แมนนี่ ปาเกียว ยอดนักชกชาวฟิลิปปินส์ ในเดือนมกราคม 2567

จากที่ก่อนหน้านี้ชื่อของ บัวขาว บัญชาเมฆ กลับมาถูกพูดถึงอีกครั้งหลังได้หวนคืนสังเวียน ในศึกราชดำเนินเวิร์ดซีรีส์ RWS พบกับนักมวยดาวรุ่งสุดหล่อจากญี่ปุ่นอย่าง โคตะ มิอุระ

ก่อนไฟตท์สำคัญที่จะถึง อีจัน ขอพาไปทำความรู้จักกับสุดยอดนักมวยไทยมากฝีมือ เจ้าตัวยังมีความสามารถอะไรที่น่าสนใจอีกบ้าง

เปิดประวัติ ฮีโร่ไทย “บัวขาว บัญชาเมฆ”

ชื่อจริง ร้อยตรี สมบัติ บัญชาเมฆ

เกิดวันที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2525 ปัจจุบัน อายุ 40 ปี

เติบโตจาก อำเภอสำโรงทาบ จังหวัดสุรินทร์ บ้านเกิดของมารดา

ด้านการศึกษา

รับปริญญาบริหารธุรกิจบัณฑิต (ปริญญาตรี) : บธ.บ. คณะบริหารธุรกิจ สาขาการจัดการ มหาวิทยาลัยรัตนบัณฑิต

รับปริญญาวิทยาศาสตรมหาบัณฑิตกิตติมศักดิ์ (ปริญญาโท) สาขาวิทยาศาสตร์การกีฬา มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

รับปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ (ปริญญาเอก) สาขาวิชายุทธศาสตร์ การพัฒนาภูมิภาค (กลุ่มการศึกษาและจัดการภูมิปัญญา) มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ ในปี 2560 ที่ผ่านมา เขาได้เข้ารับ

นอกจากนั้นเขายังเป็น อาจารย์พิเศษ คณะวิทยาศาสตร์การกีฬา มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และยังเป็น อาจารย์พิเศษ มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์อีกด้วย

นอกจากนี้ บัวขาว บัญชาเมฆยังได้เข้ารับราชการทหาร ตำแหน่งร้อยโทที่โรงเรียนกำลังสำรอง หน่วยบัญชาการรักษาดินแดนอีกด้วย ได้เข้ารับการฝึก หลักสูตร ทหารพลร่ม รหัส AB-1 รุ่นที่ 338 ณ โรงเรียนสงครามพิเศษ ศูนย์สงครามพิเศษ จังหวัดลพบุรี ตั้งแต่วันที่ 8 กรกฎาคม ที่ผ่านมา เป็นเวลา 1 เดือน

เส้นทางชีวิต

เริ่มต้นชีวิต นักมวย ตั้งแต่อายุได้ 8 ปี ที่จังหวัดสุรินทร์ พออายุได้ 15 ปีก็ได้เข้ามาสังกัดค่าย ป.ประมุข โดยใช้นามในการชกว่า ” ดำทมิฬ เกียรติอนันต์ ” เขาได้เข้ามา ชกมวยไทย ในกรุงเทพและได้คว้าเข็มขัดแชมป์มาครองหลายเส้น รวมถึงแชมป์เวทีสยามอ้อมน้อย รุ่นเฟเธอร์เวท , แชมป์ประเทศไทย รุ่นเฟเธอร์เวท และแชมป์ที่ เวทีสยามอ้อมน้อย รุ่นไลท์เวท

ในปีพ.ศ. 2545 บัวขาว ได้ชนะเลิศมวยไทยมาราธอนโตโยต้า รุ่น 140 ปอนด์ ที่สนามมวยเวทีลุมพินี ชนะ โคบายาชิ นักมวยชื่อดังจากญี่ปุ่น

ในปีพ.ศ. 2547 บัวขาว ได้ไปชกที่ประเทศญี่ปุ่นใน รายการ K-1 World MAX 2004 ที่จัดขึ้นที่กรุงโตเกียว โดยการชกในรายการ K1 เป็นการชกแบบทัวร์นาเมนต์ น็อคเอาท์ หรือ แพ้คัดออก โดยในรอบแรกบัวขาว พบกับ จอห์น เวย์น พาร์ John Wayne Parr นักมวยไทยชาวออสเตรเลีย ในรอบที่สองพบกับ โคะฮิรุมาคิ ทากะยูกิ และในรอบชิงชนะเลิศพบกับ มาซาโตะ แชมป์เก่าชาวญี่ปุ่น และปรากฎว่า บัวขาว ก็สามารถชนะมาได้แบบไม่ยากเย็น และคว้าเข็มขัดแชมป์ K1 มาครองได้สำเร็จ สร้างประวัติศาสตร์แชมป์คนแรกของไทย หลังจากนั้นชื่อของเขาเป็นที่รู้จักในประเทศญี่ปุน และ ประเทศไทยมากขึ้น

ในปี พ.ศ. 2549 บัวขาว ได้เข้าชิงในรายการ K-1 World MAX เป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน โดยในครั้งนี้ ยอด มวยชาวไทย สามารถคว้าแชมป์ K1 กลับมาครอง ทำให้เขาเป็นนักชกคนแรก ที่สามารถชนะเลิศในรายการนี้ได้ 2 สมัย หลังจากนั้นบัวขาวก็เข้าแข่งขันในรายการ K1 อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปีพ.ศ. 2550-2552 แต่ก็ไม่สามารถชนะเลิศได้ และมีบางครั้งที่ บัวขาว ต้องแพ้คะแนนอย่างน่ากังขา

เส้นทางดราม่า

บัวขาว มีข่าวหายตัวไปจากค่าย ป.ประมุข โดยแผนการชกของ บัวขาว ทั้งในประเทศฝรั่งเศส , อังกฤษ และญี่ปุ่นได้ถูกยกเลิกจนหมด แต่หลังจากนั้น บัวขาว ก็ได้ปรากฏตัว และให้เหตุผลที่หนีออกจากค่ายมาจากความไม่พอใจในเรื่องส่วนแบ่งค่าตัวของตัวเอง และนักมวยรุ่นน้องในค่าย โดยถ้า บัวขาว ยังขึ้นชก มวยไทย ก็จะเป็นการผิดสัญญากับทางค่าย แต่ถึงอย่างนั้น บัวขาว ก็ยังขึ้นชกในรายการ THAI FIGHT ในฐานะแชมป์เก่า เอาชนะน็อก รัสเต็ม ซารีปอฟ นักมวยชาวรัสเซียไปได้ในยกที่ 2 หลังการชก บัวขาว ได้พูดทั้งน้ำตาว่า ตนขึ้นชกโดยไม่กลัวว่าจะผิดกฎหมาย แม้จะต้องติดคุกก็ตาม

โดยที่ บัวขาว ได้ร่วมกับ ดี พุฒหอม (ครูมวยคนแรก) และ ทอง บุรากร (เทรนเนอร์คนแรก) เปิดค่ายฝึกสอนมวยไทย ที่จังหวัดสุรินทร์ บ้านเกิดของเขา โดยใช้ชื่อค่ายว่า บัญชาเมฆ และก็เปลี่ยนมาชกในชื่อ บัวขาว บัญชาเมฆ และได้เซ็นสัญญาค่ายมวย ป.ประมุข อีกครั้ง เป็นระยะเวลา 5 ปี โดยนักมวยชื่อดังในค่ายคือ ซุปเปอร์บอน บัญชาเมฆ และ นารูโตะ บัญชาเมฆ

สำหรับแฟนมวยอย่าลืมติดตามให้กำลังใจไฟตท์สำคัญในวันเสาร์ที่ 9 กันยายน 2566 ที่จะถึงนี้ รวมถึงการดวลหมัดกับ แมนนี่ ปาเกียว ยอดนักมวยระดับโลกในเดือนมกราคม 2567 สำหรับช่องทางการติดตาม บัวขา บัญชาเมฆ อีจัน ขอเปิดวาร์ปให้ตามช่องทางนี้เลย

เพจเฟซบุ๊ก FB: Banchamek Gym (Buakaw Banchamek, บัวขาว บัญชาเมฆ)

IG : buakaw1

คลิปแนะนำอีจัน
น้องเล่นได้สมบทบาท สอนทหารใหม่ CPR