อดีตหัวหน้าพนักงานโรงแรม ขโมยข้อมูลบัตรเครดิตลูกค้า ใช้จ่ายช้อปปิ้ง

บุกรวบอดีตหัวหน้าพนักงานโรงแรม จำข้อมูลบัตรเครดิตลูกค้าที่จองห้อง รูดใช้จ่ายช้อปปิ้งกว่า 4 แสนบาท

พล.ต.ต.สันดี ชัยนิรามัย ผบก.สส บชน. สั่งการให้ ชมรมป้องกันทุจริตบัตรเครดิตภายใต้สมาคมธนาคารไทยและเจ้าหน้าที่หน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้อง เร่งติดตามคดีหลังได้รับร้องเรียนจากประชาชนผู้ถือบัตรเครดิตจำนานหลายรายได้แจ้งความว่าถูกคนร้ายได้นำข้อมูลบัตรเครดิตไปซื้อสินค้าทางออนไลน์ เป็นเหตุให้ได้รับความเสียหาย

ล่าสุดวันนี้ (1 พ .ย 2562) เจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันจับกุมตัว นายจิรัฏฐ์ ศิริวัฒนกุล อายุ 35 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ที่ 605/2560 ลงวันที่ 25 พ.ค.52 ความผิดฐานฉ้อโกงโดยการแสดงตนเป็นบุคคลอื่นใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบในประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชนโดย จับกุมตัว ได้ที่ ห้องพักแห่งหนึ่ง ใน จ.เชียงใหม่

ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจาก นายจิรัฏฐ์ (ผู้ต้องหา) เคยประกอบอาชีพเป็นพนักงานของโรงแรมในจังหวัดเชียงใหม่และเพชรบุรีในฝ่ายต้อนรับลูกค้าตำแหน่งระดับหัวหน้างาน มีหน้าที่ต้อนรับลูกค้าและทำการรับจองการสำรองห้องพักของลูกค้าทั้งการจองผ่านเว็บไซด์ของโรงแรมโดยตรงหรือเคาน์เตอร์โรงแรมโดยตรงหรือจองผ่านเว็บไซด์ของตัวแทนการจองห้องพักเช่นพามา www.booking.com
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน

ซึ่งโรงแรมได้ให้สิทธิในการ LOG IN เข้าระบบ และนายจิรัฏฐ์ยังสามารถนำมือถือของตนเองเป็นอุปกรณ์เชื่อมต่อเว็บไซต์ของโรงแรมจึงทำให้สามารถเข้าระบบได้ทั้งในและนอกสถานที่ทำการของโรงแรมและสามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าที่จะต้องมีการบันทึกลงในระบบข้อมูลการสำรองห้องพักของโรงแรมนั้นๆ เช่น ชื่อ-นามสกุล เลขประจำตัวประชาชน หรือพาสปอร์ต วันเดือนปีเกิด หมายเลขมือถือ ที่สำคัญคือเลขบัตรเครดิต วันหมดอายุบัตร รหัสหลังบัตร (CV) ที่จะต้องนำมาใช้ในการชำระและยืนยันการสำรองห้องพัก

จากนั้น นายจิรัฏฐ์ จะลักลอบเอาข้อมูลโดยวิธีใช้มือถือถ่ายภาพหน้าจอระบบข้อมูลหรือจดบันทึกข้อมูลส่วนบุคคลต่างๆออกมาแล้วจะนำชุดข้อมูลหมายเลขบัตรเครดิตดังกล่าวไปทำการสั่งซื้อสินค้าจำพวก โทรศัพท์มือถือราคาแพงและทองคำแท่งผ่านร้านค้าทางออนไลน์โดยจะทำการโทรศัพท์ไปที่คอลเซ็นเตอร์ของธนาคารผู้ออกบัตรเครดิตนั้นๆเพื่อสวมรอยเป็นลูกค้าเจ้าของบัตรเครดิต แจ้งเปลี่ยนแปลงหมายเลขโทรศัพท์มือถือที่ใช้ในการติดต่อเพื่อที่ นายจิรัฏฐ์ จะสามารถใช้มือถือของตนเองรับรหัสรักษาความปลอดภัย (UTP) ได้เมื่อทำการสั่งซื้อสินค้าออนไลน์

ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน

เมื่อนายจิรัฏฐ์ สามารถทำการเปลี่ยนแปลงเบอร์โทรที่ใช้ติดต่อของบัตรเครดิตนั้นๆได้แล้วก็จะทำการสั่งซื้อสินค้าทางออนไลน์โดยในคดีนี้นายจิรัฏฐ์ ได้สั่งซื้อสินค้าหรือบริการออนไลน์คือโทรศัพท์มือถือไอโฟนจำนวน 5 เครื่องและทองคำแท่งน้ำหนัก 1 บาทและ 2 บาทและบริการอื่นๆรวมราคาทั้งหมด 489,569 บาท เมื่อทำการสั่งซื้อสำเร็จนายจิรัฏฐ์ จะระบุที่อยู่ในการจัดส่งสินค้าเป็นโรงแรมต่างๆในเขตกรุงเทพมหานคร โดยนายจิรัฏฐ์ จะทำการจองห้องพักโรงแรมต่างๆไว้สำหรับรับสินค้าที่ได้จากการทำทุจริต (โดยใช้ชื่อบุคคลอื่น) ในรับการของ

ภาพจากอีจัน

ทั้งนี้นายจิรัฏฐ์ จะใช้ชุดเลขบัตรเครดิตของบุคคลอื่นยืนยันการชำระเงินค่าจองห้องพักอีกเช่นกันและนายจิรัฏฐ์ จะสวมรอยอ้างตนเป็น นายศุภกร แก้วมณี เนื่องจากนายจิรัฏฐ์มีบัตรประชาชนตัวจริงของนายศุภกร เก็บไว้เพราะนายศุภกร เคยเข้ามาใช้บริการที่โรงแรมและได้ทำบัตรประชาชนสูญหายไป เมื่อนายจิรัฏฐ์ขโมยเอาบัตรประชาชนตัวจริงของนายศุภกรออกมาจากโรงแรมที่โรงแรมได้จัดเก็บเอาไว้เพื่อคืนให้กับลูกค้ากรณีทำหล่นหรือลืมทรัพย์สินไว้ต่อจากนั้นนายจิรัฎฐ์ จึงใช้ชื่อผู้เข้าพักเป็นชื่อนายศุภกร ในการจองที่พักโรงแรมต่างๆไว้สำหรับรับสินค้าที่เกิดจากการทำทุจริต
ซึ่ง นายศุภกรแก้ว(ผู้เสียหาย) ได้แจ้งความไว้แล้วที่สน. พญาไท อีกส่วนหนึ่ง ที่เราจะแจ้ง ข้อหา คือ เอาไปเสียซึ่งเอกสารในประการที่น่าจะทำให้ผู้อื่นหรือประชาชนเสียหาย

ภาพจากอีจัน

ซึ่งจากการจับกุมนายจิรัฏฐ์ ครั้งนี้ ทาง เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้นายจิรัฏฐ์ พาไปตรวจค้นห้องพัก ผลการตรวจค้นพบบัตรประจำตัวประชาชนตัวจริงของนายศุภกร และบัตรประชาชนของบุคคลอื่น รวมทั้งโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนที่มีการเก็บข้อมูลบุคคลหรือลูกค้าที่ใช้บริการโรงแรม มีภาพถ่ายจากหน้าจอระบบการสำรองห้องพักโรงแรมของบุคคลต่างๆที่ระบุรุตข้อมูลผลขบัตรเครดิตของผู้อื่นกว่า 50 รายการ (ทั้งบัตรเครดิตไทยและต่างชาติ) และข้อมูลชื่อ-นามสกุลเลขประจำตัวประชาชนพาสสปอร์ตวันเดือนปีเกิดหมายเลขโทรศัพท์ที่ใช้ติดต่อรวมทั้งรองบรรจุซิมการ์ดโทรศัพท์หลายลขหมายที่ใช้งานแล้วเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ตรวจยึดไว้เพื่อประกอบการสืบสวนสอบสวนดำเนินคดีและ

ขณะเดียวกัน จากการตรวจสอบข้อมูลในระบบสำนักงานตำรวจแห่งชาติพบว่านายจิรัฏฐ์ ยังมีหมายจับของศาลอาญาที่ จ.1508/2562 ลงวันที่ 3 ต.ค. 62 ในข้อหาร่วมกันรับของโจร ในเขตพื้นที่รับผิดชอบของสน. บางซื่อ

พ.ต.อ. พรศักดิ์ เปิดเผยต่ออีกว่า สำหรับคนร้ายเป็นบุคคลที่สามารถเข้าถึงข้อมูลได้ก่อเหตุกับลูกค้าบัตรเครดิตทั้งคนไทยและชาวต่างชาติที่ใช้บัตรเครดิตในการจองห้องพักของโรงแรมที่เข้ามาท่องเที่ยวในเมืองไทย สร้างความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ

จึงขอประชาสัมพันธ์ไปยังร้านค้า ห้างร้าน โดยเฉพาะผู้ประกอบการธุรกิจท้องพักโรงแรม รีสอร์ทตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆให้เคร่งครัดในมาตรการป้องกันข้อมูลทั่วไปทั้งข้อมูลบุคคลและข้อมูลบัตรเครดิต