จากกรณีที่สาวท้อง 5 เดือน ปวดท้องรีบไปโรงพยาบาลใกล้บ้าน แต่ถูกไล่ให้ไปโรงพยาบาลตามสิทธิ จนสุดท้ายเธอแท้งลูกนั้น
เกี่ยวกับเรื่องนี้ (5 พ.ย. 62) อีจันได้โทรศัพท์สอบถามเจ้าของเรื่อง โดยเธอเล่าว่า เธออายุ 22 ปี กำลังตั้งครรภ์ได้ประมาณ 5 เดือน วันเกิดเหตุ ช่วงประมาณตี 3 ตนปวดท้อง แต่สักพักก็หาย พอช่วงตี 5 เกือบตอน 6 โมงเช้า ตนก็สะดุ้งเนื่องจากจู่ๆ ก็ปวดท้องขึ้นมาอีกรวมถึงมีอาการน้ำเดิน จึงปลุกให้แฟนพาไปส่งที่โรงพยาบาลซึ่งโรงพยาบาลนี้ไม่ใช่โรงพยาบาลตามสิทธิประกันสังคม แต่เป็นโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดในเวลานั้น พอไปถึงโรงพยาบาลก็ให้เข้าห้องฉุกเฉิน จากนั้นหมอในห้องฉุกเฉินก็วัดความดัน วัดไข้ แล้วให้ตนเดินขึ้นเตียงก่อนเข็นเธอไปอัลตร้าซาวด์
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
ซึ่งในตอนที่ตรวจนั้นหมอก็บอกว่าหัวใจน้องเต้นดี แต่น้ำคร่ำน้อย ถ้าจะยื้อชีวิตเด็กต้องฉีดยาระงับคลอด แล้วนอนให้ยายาว แต่พอขึ้นตึกไปนอนรอ หมอคนหนึ่งเดินมาบอกว่า ทำไมไม่ไปโรงพยาบาลตามสิทธิจะได้ไม่เสียเงิน ขณะที่พยาบาลก็บอกให้ใส่เสื้อผ้า แล้วติดต่อญาติให้มารับไปโรงพยาบาลตามสิทธิ แล้วให้รถเข็นมาทิ้งไว้ข้างๆ โรงพยาบาล ระหว่างนั้นเลือดตนก็ไหลไม่หยุด รวมถึงยังมีอาการปวดท้องสุด
ภาพจากอีจัน
เธอเล่าต่อว่า พอพี่สะใภ้มาถึงก็โวยวายว่า ทำไมไม่มีรถโรงพยาบาลไปส่ง กระทั่งต้องนั่งรถแท็กซี่ไปโรงพยาบาลตามสิทธิ
สุดท้ายลูกของก็เสียชีวิต ส่วนตนอาการปลอดภัยแล้ว แต่ยังรู้สึกเศร้าเสียใจอย่างมาก สำหรับสาเหตุที่ลูกเสียชีวิตนั้น ขณะนี้ตนก็ยังไม่ทราบ
ภาพจากอีจัน
"ถามว่าอยากเรียงร้องอะไรไหมก็อยากเรียกร้อง แต่หนูไม่รู้ว่าจะเรียกร้องจากไหนตรงไหน ตนอยากให้เขาปรับปรุง ทำไมถึงเมินคนไข้ ทำไมถึงไม่รักษา จะมาสนใจเรื่องสิทธิเรื่องเงินมันไม่ใช่ ตอนนี้ที่แย่คือสภาพจิตใจมันไม่โอเค จากที่นอนแล้วคลำท้องแล้วลูกดิ้น แต่ตอนนี้มันไม่มีแล้ว น้ำตามันก็ไหลออกมาเอง" หญิงสาว กล่าว