คิด เดอะริปเปอร์ ฆ่าเหยื่อรายที่ 6 ในวันที่จะเข้าพิธีสู่ขอ

ญาติ เผยเหตุสุดเศร้า วันตายฝ้าย คือวันที่เธอ จะเข้าพิธีสู่ขอกับ คิด เดอะริปเปอร์

ศพของนางรัศมี มุลิจันทร์ หรือฝ้าย อายุ 51 ปี เหยื่อรายที่ 6 ของ “คิด เดอะริปเปอร์ ” หรือนายสมคิด พุ่มพวง ฆาตกรต่อเนื่อง ถูกเผาไปแล้วเมื่อช่วงบ่ายวันนี้ (17 ธันวาคม 62) ที่วัดศรีสว่าง ต.หนองโก อ.กระนวน จ.ขอนแก่น ท่ามกลางความโศกเศร้าเสียใจของครอบครัวและญาติๆ ที่เดินทางมาร่วมแสดงความไว้อาลัยเป็นครั้งสุดท้ายให้กับเหยื่อฆาตกรต่อเนื่อง

ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน

นายจักกฤษ์ เชือกพรม อายุ 25 ปี ลูกชายของนางรัศมี ผู้ตาย เปิดใจกับอีจัน ว่า วันที่ 5 ธันวาคม 62 แม่โทรมาหาบอกว่ากำลังจะแต่งงานใหม่กับทนายความ เป็นคนภาคใต้ แต่ขอสำเนาบัตรประชาชนของตัวเองเพื่อไปซื้อรถกระบะ โดยแฟนใหม่ของแม่จะเป็นคนออกเงินดาวน์ให้ทั้งหมด จึงเริ่มแปลกใจว่าเป็นถึงทนายความทำไมต้องใช้ชื่อคนอื่นซื้อแทน จึงตอบกลับไปว่าไม่มีสลิปเงินเดือนคงทำเรื่องซื้อรถไม่ผ่านเลยไม่ได้ให้ไป จนวันที่ 14 ธันวาคมที่ผ่านได้โทรติดหาแม่ เพื่อจะขอเอกสารไปทำวีซ่าไปทำงานต่างประเทศ ซึ่งแม่บอกว่าจะจัดการให้ หลังจากนั้นก็ติดต่อไม่ได้ มารู้ทีหลังว่าแม่ถูกฆ่าตายในบ้าน ส่วนนายสมคิด ฆาตกรที่กำลังหนีอยู่อยากให้ตำรวจเร่งจับให้ได้ และไม่ขอให้อภัยฆาตกรซ้ำซากรายนี้เพราะโหดเหี้ยมเกินมนุษย์

ภาพจากอีจัน

ด้าน นางมารี ถนิมกาญ พี่สาวของผู้ตาย เล่าว่า น้องสาวโทรไปหาเพื่อขอสำเนาบัตรประชาชนไปทำเรื่องซื้อรถเช่นกัน โดยบอกว่าตอนนี้กำลังจะแต่งงานใหม่กับทนายความเขาจะเป็นคนออกเงินดาวน์รถให้แน่เพิ่งคบกันได้ประมาณ 2 อาทิตย์ จึงเกิดความสงสัยว่าทำไมต้องใช้ชื่อคนอื่นซื้อแทนทั้งที่เป็นถึงทนายความ ตอนนั้นน้องสาวเล่าว่ารู้จักกับผู้ชายคนนี้ผ่านเฟซบุ๊กตอนทำงานที่กรุงเทพฯ พอกลับมาทำงานอยู่ที่บ้านผู้ชายเดินทางมาหาที่รีสอร์ทที่ทำงานอยู่ ช่วงต้นเดือนธันวาคม และพาเข้าบ้านก่อนจะพาไปพบกับพี่สาวอีกคนเพื่อพูดคุยกันเรื่องแต่งงาน มาทราบภายหลังว่าผู้ชายคนที่น้องสาวพาเข้าบ้านคือนายสมคิด ฆาตกรต่อเนื่อง รู้สึกเสียใจที่น้องสาวถูกฆ่าอย่างโหดเหี้ยมในบ้านของตัวเอง อยากให้คนร้ายตายตกไปตามกัน พร้อมตั้งข้อสงสัยว่านายสมคิดเป็นฆาตกร ฆ่าคนมาแล้ว 5 ศพ ถูกปล่อยตัวออกมาจากคุกได้อย่างไรและมาก่อเหตุซ้ำซากอีก ถ้าตำรวจยังตามจับไม่ได้กลัวว่าจะมีเหยื่อเพิ่มขึ้นเป็นรายที่ 7 หากยังตามจับไม่ได้

ภาพจากอีจัน
ทีมข่าวอีจันเดินทางไปพบกับพี่สาวของผู้ตายอีกคนซึ่งเป็นลูกคนละแม่ ชื่อนางบุญเรือง อาจศักดิ์ ซึ่งเป็นคนที่เคยพบหน้ากับนายสมคิดเมื่อประมาณวันที่ 10 ธันวาคม โดยนางรัศมี ผู้ตายพานายสมคิดเข้ามาที่บ้านเพื่อพูดคุยเรื่องแต่งงานกัน นางบุญเรือง จึงถามว่าชื่ออะไรทำงานอะไรฟังภาษาอีสานรู้เรื่องใช่ไหม ตอนนี้นายสมคิดบอกว่าชื่อนายแขก ทำงานเป็นทนายความอาสาฯ เป็นชาวจังหวัดนครศรีธรรมราช อยากพาน้องสาวไปอยู่ด้วยเพราะเห็นทำงานลำบาก โดยจะออกรถกระบะให้ 1 คัน พร้อมกับเงินผูกข้อไม้ข้อมือ 30,000 บาท และจะไปกลับไปอยู่ภาคใต้ด้วยกัน นางบุญเรือง เล่าต่อให้ทีมข่าวฟัง ว่า ตอนที่นายสมคิดเดินเข้ามาใส่หมวกและเวลาพูดพยายามหลบหน้าหลบตาผิดสังเกต และดูจากการแต่งตัวคิดว่าไม่ใช่ทนายความแน่นอน สวมกางเกงขาสั้นและขับรถมอเตอร์ไซต์ทนายความที่ไหนจะมาแบบนี้จึงไม่เชื่อและไม่ยอมให้น้องสาวแต่งงานด้วย แล้วบอกว่าให้คบหาดูใจกันไปก่อนเพิ่งรู้จักกันได้ไม่นาน จากนั้นนายสมคิดออกอาการคล้ายกับคนโมโห และเดินทางกลับไปก่อนจะบอกว่าวันที่ 14 ธันวาคม จะให้ผู้ใหญ่และญาติๆมาสู่ขอ
ภาพจากอีจัน
หลังนั้นทราบจากเพื่อนบ้านน้องสาวพานายสมคิด เข้าไปอยู่ในบ้านหลังเกิดเหตุตั้งแต่วันที่ 2 ธันวาคม ซึ่งนายสมคิดมีนิสัยไม่คบหากับใครและไม่ยอมให้น้องสาวคุยกับเพื่อนบ้านหรือใช้โทรศัพท์ติดต่อใคร ช่วงวันเกิดเหตุเพื่อนบ้านเล่าให้ฟังว่าได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือ ก่อนที่เพื่อนบ้านจะพบว่าน้องสาวนอนตายกลายเป็นศพอยู่ในบ้าน ซึ่งขณะนี้ยังจับคนร้ายไม่ได้และกลัวว่าคนร้ายจะมาฆ่า เพราะนายสมคิดโมโหที่ไม่ยอมให้น้องสาวแต่งงานด้วย​

อ่านข่าวเพิ่มเติม