ศาลฎีกาแก้คำพิพากษา จำคุกสรยุทธ 6 ปี 24 เดือน

ทีมเรื่องเล่าหลั่งน้ำตา หลังศาลมีคำพิพากษาจำคุกสรยุทธและพวกคดีไร่ส้ม 6 ปี 24 เดือน

21 ม.ค. 63 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง อ่านคำพิพากษาศาลฎีกาในคดีที่ทีการยื่นฟ้อง นางพิชชาภา บุญโต อดีตพนักงานจัดทำคิวโฆษณาของ บมจ.อสมท. , บริษัท ไร่ส้ม จำกัด , นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา ในฐานะกรรมการผู้จัดการ บริษัท ไร่ส้ม และนางสาวมณฑา ธีระเดช พนักงานบริษัท ไร่ส้ม เป็นจำเลยที่ 1-4 ในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานเรียกรับผลประโยชน์โดยมิชอบ , เป็นพนักงานใช้อำนาจหน้าที่โดยทุจริตอันเป็นการเสียหายแก่องค์กร , เป็นพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และสนับสนุนพนักงานกระทำความผิดดังกล่าว ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์กรหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502

ภาพจากอีจัน


จากกรณีที่ นางพิชชาภา พนักงานจัดทำคิวโฆษณาของ บมจ.อสมท ได้ปกปิดไม่รายงานค่าโฆษณาเกินรายการ “คุย คุ้ยข่าว” จำนวน 17 ครั้ง ทำให้ บมจ.อสมท ได้รับความเสียหายกว่า 138 ล้านบาท และยังได้เรียกรับเช็คเงินสดที่ลงลายมือชื่อนายสรยุทธ 6 ฉบับ เป็นเงินกว่า 7 แสนบาท เป็นการตอบแทนเหตุเกิดช่วงระหว่างวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2548 – 28 เมษายน 2549

ภาพจากอีจัน


โดยบรรยากาศก่อนอ่านคำพิพากษา จำเลยทั้ง 4 คน ทยอยเดินทางมาฟังคำพิพากษา โดยนายสรยุทธ เดินทางมาถึงเมื่อเวลา 8.45 นาที ขณะที่เพื่อนร่วมงาน เพื่อนผู้ประกาศข่าว ผู้จัดละคร รวมไปถึงนายประวิทย์ มาลีนนท์ ผู้บริหารสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 เดินทางมาร่วมฟังคำพิพากษาในวันนี้ด้วย

คดีนี้ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาว่า จำเลยทั้ง 4 กระทำผิดจริงตามฟ้อง และลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามคำให้การที่เป็นประโยชน์ ศาลจึงสั่งจำคุกนางพิชชาภา ฐานเป็นเจ้าพนักงานเรียกรับหรือยอมรับทรัพย์สินฯ จำคุก 20 ปี , สั่งปรับ บริษัท ไร่ส้ม รวมเป็นเงิน 80,000 บาท ส่วนนายสรยุทธ และ นางสาวมณฑา ให้จำคุกคนละ 13 ปี 4 เดือน

ขณะที่วันนี้ ศาลฎีกาพิเคราะห์ว่า แม้นางพิชชาภา จะอ้างว่าไม่มีลายลักษณ์อักษรให้ทำหน้าที่รายงานค่าโฆษณาเกิน แต่เมื่อได้รับมอบหมายให้ดำเนินการ แต่กลับปกปิดข้อเท็จจริง โดยมีนายสรยุทธ และนางสาวมณฑา เสนอให้ดำเนินการ จึงไม่สามารถปฏิเสธข้อเท็จจริงดังกล่าวได้ อีกทั้งที่ขอให้ลงโทษสถานเบา หรือรอลงอาญา เห็นว่า นายสรยุทธ เป็นสื่อมวลชนอาวุโส สมควรเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับสังคม แต่กลับกระทำผิดกฎหมายเสียเอง จึงไม่เห็นควรลดโทษตามที่ยื่นฎีกา

ภาพจากอีจัน


แต่อย่างไรก็ตามก็มีฎีกาบางประเด็นที่ฟังขึ้น โดยเฉพาะในประเด็นความผิดตามข้อกล่าวหา ซึ่งพิเคราะห์แล้วเห็นควรพิพากษาแก้และลดโทษตามคำให้การที่เป็นประโยชน์ ให้จำคุกนางพิชชาภาจากโทษ 6 กระทง รวม 18 ปี เหลือเพียง 12 ปี สั่งปรับบริษัทไร่ส้มจาก 108,000 บาท เหลือ 72,000 บาท ส่วนนายสรยุทธ และนางสาวมณฑา ลดโทษจำคุกจาก 12 ปี เหลือ 6 ปี 24 เดือน