เปิดใจ ภาคิน เจ้าบ่าวทิ้งขันหมาก

ภาคิน เจ้าบ่าวเทงานเเต่ง

จากเรื่องราวของคน 2 คนกลายเป็นเรื่องราวของสังคม เมื่อถูกโพสต์ลงโซเชียล
เช่นเดียวกับเรื่องของเจ้าสาวสุดสตรอง มะนาว ที่เธอกลายเป็นที่รู้จักของคนเกือบทั้งประเทศเพียงชั่วข้ามคืน
จากเหตุการณ์โดนเจ้าบ่าวเทงานแต่งกะทันหัน แต่เธอกลับเข้มแข็งดำเนินงานต่อจนจบงาน โดยไม่แคร์แม้ไร้เงาเจ้าบ่าว

ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน


ก่อนหน้านี้เราได้เปิดเผยถึงความในใจเจ้าสาวและญาติกันไปแล้ว ลองฟังอีกมุม ของ “คิน” เจ้าบ่าวทิ้งขันหมากกันบ้าง
โดยเขายกประเด็นเรื่องค่าสินสอดมาเป็นประเด็นหลักของเหตุการณ์นี้
“ตนกับเจ้าสาวนั้นคบกันและคุยกันประมาณ 1 เดือน ซึ่งพ่อกับแม่ก็ไปสู่ขอให้และเขาเรียกค่าสินสอด 2 แสนบาท กับทองอีก 4 บาท ซึ่งสาเหตุที่ไปขอนั้นก็เพราะเจ้าสาวบอกว่าเขาท้อง จึงต้องให้ญาติผู้ใหญ่เข้าไปสู่ขอ โดยยื่นข้อเสนอว่าจะขอแค่ไปไหว้ผีเท่านั้น แต่ตัวเจ้าสาวไม่ยอม

ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
ตนจึงได้คุยกับเจ้าสาวเรื่องค่าสินสอดว่าทางบ้านไม่ค่อยมีเงิน จึงขอให้เจ้าสาวช่วยหาเงินค่าสินสอดทั้งหมดได้ไหม ซึ่งเจ้าสาวเองก็ตอบตกลง และก็ไม่ได้ติดต่อกันอีกเลย จนใกล้ถึงงานแต่ง เจ้าสาวได้ทักไลน์มาบอกว่า นำเงินค่าสินสอดไปใช้จ่ายในงานหมดแล้ว 9 แสนบาท แล ะให้ทางตนหาค่าสินสอดไปเอง ซึ่งระยะเวลาแค่ 2 วัน หาไม่ได้แน่นอน!!! ซึ่งวันแต่งนั้นก็คิดไม่ออกว่าจะทำยังไงเพราะเงินค่าสินสอดก็ไม่มี และตนก็มีแฟนอยู่แล้ว ประกอบกับไม่มีเงินด้วยจึงตัดสินไม่ไปงานแต่ง และคิดว่ามันเร็วเกินไปที่จะแต่งงานและยอมรับว่ายังไม่พร้อม”
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
ทางด้านนายอเนก พ่อของนายภาคิน เปิดเผยว่า ซึ่งในวันที่ไปสู่ขอก็บอกไปแล้วว่ายังไม่มีเงิน ทางเจ้าสาวก็บอกว่าจะเป็นคนออกเอง ขอให้พ่อพาลูกชายไปอย่างเดียว และขออย่าให้พ่อแม่ของเขารู้ว่าเงินค่าสินสอดนั้นเจ้าสาวจะเป็นคนออกเอง ซึ่งทางบ้านก็ได้จัดเตรียมของในขบวนขันหมากเรียบร้อยแล้ว แต่ในวันแต่ง ไม่สามารถติดต่อกับลูกชายได้ เมื่อไม่มีตัวเจ้าบ่าวก็เลยไม่ได้ไป ทางฝ่ายตนก็เสื่อมเสียชื่อเสียงเหมือนกัน เพราะได้ทำตามที่เจ้าสาวได้ขอมาแล้ว และลูกชายก็เพิ่งจะอายุ 18 ปี แต่เจ้าสาวมากลับคำพูดในเรื่องค่าสินสอดที่บอกว่าจะออกเอง ซึ่งระยะเวลาแค่วันเดียวทำให้หาไม่ทัน ซึ่งได้เสนอไปแล้วว่ามีเงินแค่ หกหมื่น ซึ่งทางฝ่ายเจ้าสาวก็ยินยอมและขอให้ไปงานแต่งจะเพื่อให้งานผ่านไป แต่ทางลูกชายไม่รู้ว่ามีการตกลงเงินกันแค่ หกหมื่นบาท จึงไม่ได้กลับมาแต่งงาน “
ภาพจากอีจัน
นี้คือความจริงจากปากของฝั่งเจ้าบ่าว ซึ่งต่างฝ่ายก็ต่างพูดกันในความจริงส่วนของตนเอง เรื่องนี้จะจบอย่างไร และจบแบบไหน คงต้องติดตามกันต่อไป แต่อย่างไรก็ตาม จันหวังว่า เรื่องนี้จะจบลงด้วยดี อย่างน้อยก็ให้นึกถึงความรักที่เคยมีให้กัน