รักต้องสั่งฆ่า ? เสี่ยหึงโหด ตามยิงคู่รักดับหน้า เขาชีจรรย์ หลังโดนฝ่ายหญิงปฏิเสธรัก

ยิงคู่รักดับหน้า เขาชีจรรย์ คาดเสี่ยภูเก็ตบงการ หลังโดนฝ่ายหญิงปฏิเสธรัก


29 ก.ค.61
เกิดเหตุอุกฉกรรณ์ ไม่เกรงกลัวบาป คนร้ายบุกยิง คู่รักหนุ่มสาว ต่อหน้าพระพุทธรูปแกะสลักเขาชีจรรย์ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ตายคาที่

ทราบชื่อผู้ตายคือ นายอนันตชัย จริตรัมย์ หรือ ฟอส อายุ 20 ปี ถูกยิงเข้าที่ข้อมือซ้าย 1 นัด เอวข้างขวา 1 นัด และขมับด้านซ้าย 1 นัด นอนเคียงข้างศพของ น.ส.ปวีณา นาเมืองรักษ์ หรือ สปาย อายุ 18 ปี เธอถูกยิงเข้าที่หลัง 1 นัด ท้ายทอยด้านขวา 1 นัด ขมับซ้าย 1 นัด และใต้ราวนมอีก 1 นัด นอกจากนี้ใกล้ๆกันมีปลอกกระสุนขนาด 9 มม. ตกอยู่ถึง 7 ปลอก


จากการสอบปากคำ นายนพดล พนักงานขับรถของบริษัทเช่ารถในพัทยา ให้การว่า ทั้งคู่ มากับเพื่อนชายอีก 2 คน รวมเป็น 4 คน ทั้งหมดลงไปเที่ยวที่เขาชีจรรย์ แต่ผู้ตายทั้ง 2 กลับมาที่รถก่อน และขณะที่กำลังจะขึ้นรถ ก็มีเสียงปืนดังสนั่นติดต่อกันหลายนัด แต่ไม่เห็นคนร้าย เพราะหลบอยู่ในรถ

ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน


ส่วน นายวราเทพ หรืออั้ม เพื่อนของผู้ตายที่เดินทางมาด้วยกัน เล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้ฟังว่า วันที่ 27 ผู้ตายทั้ง 2 นัด วราเทพ มาเจอที่กรุงเทพฯ ก่อนจะเดินทางไปเที่ยวพัทยาเนื่องในวันเกิดของ สปาย และเดินทางมาเที่ยวสัตหีบต่อในวันที่ 29 ก.ค.61 ซึ่ง วราเทพ พาเพื่อนชายคนสนิทมาร่วมทริปด้วย


ก่อนเกิดเหตุ วราเทพ และเพื่อนชาย ได้แยกตัวไปซื้อของกินใกล้ลานจอดรถ ส่วน สปายและฟอส ขอกลับไปรอที่รถ แต่ไม่นาน วราเทพก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น จึงรีบกลับมาที่รถ และพบว่าทั้งคู่เสียชีวิตแล้ว


โดยวราเทพให้ข้อมูลสำคัญว่า ก่อนหน้านี้ สปาย และฟอส เคยทำงานอยู่ในสถานบันเทิงใน จ.ภูเก็ต ก่อนที่ทั้งคู่จะพากันย้ายมาทำงานที่ จ.นครปฐม

ภาพจากอีจัน


ซึ่งในวันเดียวกันตำรวจก็ได้เบาะแสจากการสอบปากคำพยานในที่เกิดเหตุว่า คนร้ายใช้รถเก๋งสีขาว เป็นพาหนะ มาจอดเทียบกับรถที่ผู้ตายโดยสารมา เมื่อผู้ตายกลับมาขึ้นรถ คนร้ายก็เปิดกระจก รัวกระสุนปืนใส่ทั้งคู่ และหลบหนีไป


ตำรวจมั่นใจพุ่งประเด็นไปที่ปมชู้สาว เพราะสปาย ทำงานเป็นพนักงานต้อนรับในสถานบันเทิง ส่วน ฟอส เป็นเด็กเสิร์ฟ และทั้งคู่เพิ่งย้ายมาอยู่ที่ จ.นครปฐม ได้ไม่นานก่อนจะเกิดเหตุสลดนี้ขึ้น


….ทั้งคู่คล้ายกับหนีอะไรบางอย่างมาจากภูเก็ต ?

ขอบคุณภาพ : Prapasiri Srithammawong


ตำรวจเร่งหาหลักฐาน จากกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายใช้หลบหนี

และในวันที่ 30 ก.ค.61ตำรวจเชิญญาติของผู้ตายมาให้ปากคำ พร้อมกับเชิญตัว นายสายันต์ ศรีสุข เพื่อนชายของ วราเทพ เพื่อนสนิทของผู้ตาย ที่อยู่ในที่เกิดเหตุด้วย ซึ่งตร.ได้เบาะแสว่า เขามีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของ สปาย และฟอส

และเป็นไปตามคาด นายสายันต์ รับสารภาพ ได้รับค่าจ่าง 20,000 บาท จาก เสี่ยอ้วน เจ้าของสถานบันเทิงใน จ.ภูเก็ต ที่ สปาย เคยทำงาน สั่งให้เขามาตีสนิท วราเทพ และคอยรายงานความเคลื่อนไหวของ สปาย ให้เสี่ยอ้วน แต่ สายันต์ ปฏิเสธรู้เห็นการก่อเหตุยิง สปาย และฟอส


ข้อมูลนี้ค่อนข้างตรงกับ อีกหนึ่งเบาะแสสำคัญที่ตำรวจได้มา เสี่ยอ้วน เจ้าของสถานบันเทิงใน จ.ภูเก็ต มาติดพัน สปาย พนักงานต้อนรับในสถานบันเทิงของเขา แต่เธอไม่เล่นด้วย เพราะเธอมีแฟนแล้ว คือ ฟอส นี่อาจเป็นชนวนเหตุที่ทำให้ทั้งคู่ถูกพรากชีวิตหรือไม่ ?


ตำรวจยังคงหาหลักฐานต่อไป

นายสายันต์ ศรีสุข


ช่วงบ่าย วันที่ 31 ก.ค.61

ศาลจังหวัดพัทยาออกหมายจับ 3 ผู้ต้องหา คือนาย ปัญญา ยิ่งดัง หรือเสี่ยอ้วน อายุ 39 ปี เจ้าของสถานบันเทิงใน จ.ภูเก็ต

นายสายันต์ ศรีสุข อายุ 43 ปี และ นายจิรศักดิ์ อุนัยบัน อายุ 34 ปี ภูเก็ต

ในข้อหา ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ไตร่ตรองไว้ก่อน และ มีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมข้อหาพกพาอาวุธปืนไปในสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควร

ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน


ความคืบหน้าล่าสุด ได้รับรายงานว่า เสี่ยอ้วน อาจจะเข้ามอบตัว เร็วๆนี้