คดีเริ่มมีความหวัง!!!

จากเหตุการณ์สุดสลดใจ นายศุภชัย ทัฬหสุนทร ดิ่งตึกศาลเสียชีวิต เพราะผิดหวังหลังศาลชั้นตกยกฟ้อง ผู้ต้องหา แทงลูกชายเสียชีวิต เมื่อวันที่ 23 ก.ค. 2561

การเสียชีวิตของ นายศุภชัย บั่นทอนจิตใจของ นางเรวดี ผู้เป็นภรรยาอย่างมาก เนื่องจาก 2 ปีที่ผ่านมา ผู้ที่ดิ้นรนเพื่อต่อสู้คดีให้ลูกชายที่เสียชีวิตก่อนหน้า คือ นายศุภชัย ผู้เป็นพ่อ แต่วันนี้กลับมาด่วนจากไป ทำให้หนทางในการต้อสู้คดีเพื่อลูกชายของ นางเรวดี เกือบถึงทางตัน

จนล่าสุด นางเรวดี ยิ้มออกอีกครั้ง เมื่อได้ ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ยื่นมือเข้ามาช่วย

ทนายอนันต์ชัย คือ ทนายที่ทำคดีให้กับชายพิการ ที่โดน กลุ่มวัยรุ่นลูกตำรวจฆ่าตาย หน้าร้านขนมปัง เขาเดินหน้าโดยไม่เกรงกลัวอิทธิพล จนคดีสิ้นสุด คนร้ายรับโทษตามการกระทำ
ทำให้ นางเรวดี กลับมาฮึดสู้อีกครั้ง ล้มเลิกความคิดฆ่าตัวตาย

อีจันมีโอกาสได้ไปพูดคุยกับ ทนายอนันต์ชัย ถึงแนวทางการต่อสู้ในคดีให้กับครอบครัว นางเรวดี โดย ทนายอนันต์ชัย เล่าให้เราฟังว่า…
ผมได้คุยกับคุณเรวดี ได้บอกเขาว่าไม่อยากให้เขาคิดมาก เพราะว่าคุณศุภชัย ก็เสียไปแล้ว แต่เขาก็บอกว่าถ้าศาลอุทธรณ์แพ้อีก จะกระโดดตึก แกก็จะฆ่าตัวตาย ผมก็บอกเขาว่าอย่าคิดอย่างนั้น เราอย่าไปกดดันศาล เพราะว่าศาลเขาพิพากษา ไปตามข้อเท็จจริง เขาไม่ได้พิพากษานอกสำนวน และครั้งนี้ศาลก็ไม่ผิด เพราะว่าพยานไม่มา

ตอนนี้คดีเป็นคดีสะเทือนวงการยุติธรรม อย่างที่ท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมบอกว่า เป็นวาระเร่งด่วนที่จะต้องนำมาพิจารณา ผมคิดว่าเพื่อให้กระบวนการยุติธรรมมันเดินต่อไปได้ และเพื่อให้เป็นบรรทัดฐาน และก็เป็นคดีตัวอย่าง

ซึ่งตอนนี้มีอยู่ทางเดียวคือ กรณีของนายตง ที่ไม่ได้มาเบิกความ เพราะว่าพยานเป็นคนป่วยทางจิต เราก็น่าจะขอความเมตตาจากศาลอุทธรณ์ ให้เห็นถึงความสำคัญพยานปากนี้ และก็ให้เรียกพยานปากนี้เข้ามาสืบ โดยเอาแพทย์มาสืบด้วย

ซึ่งผมก็ได้ไปคุยกับพนักงานสอบสวน และมีความเห็นเป็นไปในทางเดียวกันว่า เราจะขอสืบพยาน นายตงเพิ่มเติม

ในกรณีที่ศาลอุทธรณ์เห็นควรอนุญาตให้เราสืบพยานเพิ่มเติมได้ เราก็จะเอานายตงเข้ามา และเมื่อเราอุทธรณ์แล้วยื่นคำร้องเข้าไปสำนวนก็จะส่งไปศาลชั้นต้นหรือศาลอุทธรณ์ พิจารณาเองก็ได้ แต่ส่วนใหญ่จะมาสู่ศาลชั้นต้นให้ศาลชั้นต้นออกหมายเรียก ไปที่นายตง

ปัญหาต่อไปว่า นายตง จะมาได้ไหม ในเมื่อป่วยทางจิต ซึ่งติดต่อทางแพทย์ แพทย์ก็ให้ความเห็นว่าสามารถมาให้การได้ ถ้าหากว่าไม่มีอะไรเครียด
ซึ่งตรงนี้เราก็จะให้แพทย์มาสืบ แต่ถ้า นายตงยังไม่มา เราก็จะให้ศาลพิจารณาออกหมายจับตามกระบวนการของมัน เพราะว่าเราก็อยากให้ความเป็นธรรมกับน้องเต้และคุณศุภชัยด้วย

ที่สำคัญก็คือตอนนี้ ประชาชนทั้งประเทศจับตามองอยู่ว่า คดีมันจะไปในทางไหน ทุกคนในตอนนี้รอกระบวนการยุติธรรม

ซึ่งผมอยากจะบอกว่า เรื่องนี้จะโทษใครไม่ได้เลยไม่ว่าจะเป็นศาล พนักงานอัยการ ไม่อยากจะตำหนิใครเพราะมันผ่านไปแล้ว สิ่งที่ทำได้ดีที่สุดก็คือว่าทำอย่างไร ให้ศาลอุทธรณ์เมตตาอนุญาตให้ทำ ที่ท่าน ผบช.น. บอกกับผู้สื่อข่าวว่า พยานหลักฐานอ่อนก็เพราะจุดนี้แหละครับ

ตอนนี้ในรูปคดีสามารถเขียนอุทธรณ์ได้อย่างเดียว ทำอะไรไปมากกว่านี้ไม่ได้แล้ว เพราะฉะนั้นที่บอกว่าจะมีการรื้อฟื้นคดีใหม่นั้น ไม่สามารถทำได้ในกระบวนการ แต่ว่าการรื้อฟื้นคดีใหม่จะเป็นเรื่องของวินัยตำรวจว่าทำไมจึงให้พ่อผู้เสียหายไปหาพยานหลักฐานเอง แล้วทำไมตอนนี้มีประจักษ์พยานถึง 3 ปากทำไมไม่สอบ ต้องดูว่ากระบวนการต้นน้ำก็คือเจ้าพนักงานตำรวจบกพร่องตรงไหน

ผมว่าทุกคนนะอยากจะเอาใจช่วยคุณเรวดีและอยากจะให้น้องเต้ และคุณศุภชัยตายตาหลับ ก็คือหาความจริงให้ได้ และอาจจะเป็นคดีประวัติศาสตร์ก็ได้ ซึ่งผมในฐานะที่เป็นทนายความคนใหม่ก็จะพยายามช่วยจนสุดความสามารถที่จะหาความจริงให้ปรากฏจะช่วยเต็มที่ครับ

ผมก็บอกคุณเรวดีว่าต้องเดินหน้าอย่างเดียว อย่าไปมองข้างหลังนะอย่าไปคิดฆ่าตัวตาย เพราะว่ามีโอกาสชนะก็ได้ เพราะว่าตอนนี้ สังคมและคนทั้งประเทศก็รอลุ้นรอดูสิ่งที่ผมเสนอไป แล้วก็กฎหมายเปิดช่องให้ส่วนแม่เรวดีตอนนี้มีกำลังใจขึ้นมาเยอะมากไม่คิดฆ่าตัวตายแล้ว