อ๊อฟ ฮึดสู้! ยันไม่ใช่คนฆ่าน้องหญิง

ครอบครัวอ๊อฟ ยืนยันน้องหญิง ตกจากรถเทรลเลอร์เอง ไม่ได้ฆ่า!

จากคดีที่เกือบเป็นอุบัติเหตุ แต่ตอนนี้กลายเป็นคดีฆาตกรรมไปเรียบร้อยแล้ว แต่ผู้ต้องหายังยันในความบริสุทธิ์

คดีนี้ เกิดขึ้น 16 ส.ค.2561 ตอนแรกญาติเข้าใจว่า น.ส.นรีกานต์ ยาวิราช หรือน้องหญิง เกิดอุบัติเหตุตกจากรถเทรลเลอร์ในพื้นที่ สภ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยาเสียชีวิต

ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน


ต่อมา พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. และพนักงานสอบสวน พบพยานหลักฐานสำคัญที่ชี้มูลคดีว่า ไม่ใช่อุบัติเหตุ แต่กลายเป็น น้องหญิงถูกฆาตกรรม ตำรวจจึงมีการแจ้งนายสุรพล ดาราคำ หรืออ๊อฟ คนขับรถเทรลเลอร์ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา

ซึ่งนายสุรพล หรืออ๊อฟ ให้การปฏิเสธและยืนยันว่า น.ส.นรีกานต์ หรือน้องหญิง ตกจากรถเทรลเลอร์เอง

ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน


ระยะเวลาผ่านเกือบ 1 เดือน ครอบครัวนายอ๊อฟ ฮึดสู้เตรียมเรียกร้องความยุติธรรมให้กับลูกชาย ที่ตอนนี้ถูกขังอยู่ในเรือนจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยในวันพรุ่งนี้(17 ส.ค.) จะยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมกับพนักงานสอบสวนที่รับผิดชอบคดี

1. ให้พนักงานสอบสวนติดตามหาเจ้าของรถยนต์กระบะ สีขาว มีหลังคา ที่นายสุรพลจอดรถไป และไปขอความช่วยเหลือ ให้ช่วยอุ้มน้องหญิงขึ้นรถ

2. ให้พนักงานสอบสวน ตรวจสอบไปยังแพทยสภาว่า ผู้ชันสูตรมีคุณสมบัติครบสมควร เป็นผู้ ชันสูตรศพน้องหญิงหรือไม่

3. ให้พนักงานสอบสวนรวบรวมผลการชันสูตรครั้งแรก และครั้งที่ 2 และผลเอ๊กเซอร์เรย์ เพื่อส่งให้คณะกรรมแพทย์นิติเวช เพื่อวินิจฉัยผลชันสูตรอีกครั้ง

4. ให้พนักงานสอบสวนประสานตำรวจพิสูจน์หลักฐาน เพื่อขอทราบผลการตรวจ ประตูรถเทรลเลอร์ ด้านคนนั่งว่ามีความแข็งแรงเป็นปกติหรือไม่


นายสมควร ดาราคำ พ่อของนายสุรพล เปิดเผยว่าที่ผ่านมาพูดคุยกับลูกชายแค่ 3 ครั้งโดยครั้ง ล่าสุดเข้าไปเยี่ยมลูกชายในเรือนจำโดยพูดคุยประมาณ 15 นาที ซึ่งทุกครั้งที่พบลูกชายยังยืนยันว่า ไม่ได้ฆาตกรรมน้องหญิงแต่เป็นอุบัติเหตุตกจากรถเทรลเลอร์

ภาพจากอีจัน


“ทุกครั้งที่ไปเยี่ยมครั้งสุดท้ายพูดคุยนานลูกชายยังยืนยันว่าไม่ได้ฆาตกรรม ให้ผมช่วยหากล้องวงจรปิดในเส้นทาง หากล้องวงจรปิดที่ร้านคาราโอเกะ และตามหารถยนต์กระบะสีขาวมีหลังคา ซึ่งลูกชายไปขอความช่วยเหลือให้มาช่วยยก น้องหญิงขึ้นรถเทรลเลอร์เพื่อนำไปส่งโรงพยาบาล ผมพยายามหาหลักฐานเพื่อพิสูจน์ว่าลูกชายไม่ได้ทำผิดตามข้อกล่าวหา และผมต้องเรียกร้องความยุติธรรมให้กับลูกชาย ” นายสมควร ระบุ

นายสมควร กล่าวอีกว่า ประเด็นเรื่องเงินสด 3 แสนบาทที่ตกเป็นข่าว ว่ามีตำรวจเรียกรับเงิน นั้นไม่เป็นความจริง ? แต่ทั้งครอบครัวญาติพี่น้องรวมกันแล้วมีเงินสดแค่หลักหมื่นบาทจะไปหาจากที่ไหนมาให้ ซึ่งการใส่ร้ายนี้ทางครอบครัวยื่นคำร้องต่อศาลจังหวัดเดชอุดม ศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อดำเนินคดีกับบุคคลหนึ่งที่ทำให้ครอบครัววงศ์ ตระกูลเสื่อมเสียชื่อเสียงและจะไม่มีการยอมความใดๆ

ภาพจากอีจัน


ทางด้านนายเวชยันต์ ชมพูบุตร ทนายความ เปิดเผยว่าในช่วงแรกที่เกิดเหตุก็เชื่อตามข่าวที่ปรากฏ แต่เมื่อลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง ทั้งหมด และเข้าไปเยี่ยมพูดคุยกับนายสุรพล ซึ่งบอกว่าตัวเขาเองก็มีภรรยา และลูกทำแบบนั้นเพื่ออะไร ถ้าทำจริงเขายอมรับสารภาพดีกว่าโทษหนักจะได้เป็นโทษเบาลงบ้าง

“ข้อเท็จจริงทางทีมทนายความทราบทั้งหมดแต่คงต้องนำไปต่อสู้ในชั้นศาลเชื่อว่าลูกความ(นายสุรพล) เป็นผู้บริสุทธิ์และต้องได้ความยุติธรรมกลับคืนมา” นายเวชยันต์ ระบุ

รายงานข่าวแจ้งว่านายสมควร และนายเวชยันต์ ยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมกับพนักงานสอบสวนตาม สิทธิที่บัญญัติไว้ในประมวลกฏหมายวิธีพิจารณา ความอาญา โดยให้พนักงานสอบสวนพิจารณา สอบสวนเพิ่มเติมในประเด็นต่างๆเพื่อพิสูจน์ว่านายสุรพล กระทำความผิดตามข้อกล่าวหาฆ่าผู้อื่น โดยเจตนาหรือไม่อย่างไร ???

ภาพจากอีจัน


ส่วนความคืบหน้าคดี ที่ผ่านผลชันสูตรศพน้องหญิงออกมาแล้ว ปรากฏว่า ไม่พบร่องรอยการถูกล่วงละเมิด พบรอยช้ำบริเวณท้ายทอยจากของแข็งไม่มีคม

ส่วนการหาหลักฐานทางคดี ตำรวจค้นรถเทรลเลอร์ พบค้อนแต่ไม่พบดีเอ็นเอของนายสุรพลและการตรวจสอบห้องโดยสารในรถเทรลเลอร์ ก็ไม่พบคราบเลือดแต่อย่างใด พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร.ยืนยันมีหลักฐานเพียงพอที่จะส่งสำนวนสั่งฟ้อง