จากกรณี ด.ช. 7 ขวบ เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล นานกว่า 2 สัปดาห์ ด้วยอาการไข้สูง หนาวสั่น ก่อนจะมีอาการช็อก และเสียชีวิต เมื่อวันที่ 22 ส.ค. ที่ผ่านมา ในโลกโซเชียลได้เกิดกระแสข่าวลือว่าเด็กเสียชีวิตด้วยโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ H1N1
สอบถาม น.ส.ละออง ผู้เป็นแม่ เล่าว่า ลูกชายเป็นไข้ตั้งแต่วันที่ 2 ส.ค. ที่ผ่านมา ตนเองคิดว่าเป็นไข้หวัดธรรมดาทั่วไป จึงพาไปหาหมอที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล แต่ผ่านไป 2 วันอาการกลับไม่ดีขึ้นเลย … จึงกลับไปที่โรงพยาบาลอีกครั้งและได้ยากลับมาเหมือนเดิม อาการก็ไม่ดีขึ้น จึงตัดสินใจนำตัวลูกชายส่งโรงพยาบาล และพักรักษาตัวอยู่ 4 คืน
ลูกชายมีอาการอ่อนเพลีย แพทย์ได้ใส่เครื่องช่วยหายใจตลอดเวลา พร้อมให้ญาติเช็ดตัวบ่อย ๆ เพื่อไม่ให้ไข้สูง แต่อาการก็ไม่ดีขึ้น กระทั่งน้องเริ่มหายใจไม่ออก และช็อก ทางโรงพยาบาลจึงส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลบุรีรัมย์ ซึ่งต้องรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียูตลอด กระทั่งเวลา 23.55 น. ของวันที่ 22 ส.ค. ลูกชายก็จากไปแบบไม่มีวันกลับ ..
ซึ่งโรงพยาบาลแจ้งเพียงว่าลูกเสียชีวิตจากการติดเชื้อ “เมลิออยโดซิส” ซึ่งรับเชื้อจากน้ำคลำหรือโคลน แต่ก็ยังไม่ได้ให้ใบลงความเห็นสาเหตุการเสียชีวิตกลับมา แม่เล่าทั้งน้ำตาว่า ยังทำใจไม่ได้กับการสูญเสียลูกชายไปด้วยวัยเพียงเท่านี้
ส่วนกระแสโซเชียล ที่บอกว่าลูกเสียชีวิตด้วยโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่นั้น ตนก็ไม่ทราบและครอบครัวก็ไม่ติดใจสาเหตุการเสียชีวิต
ขณะที่ลุงของเด็ก บอกว่า แม้ครอบครัวจะไม่ติดใจสาเหตุการเสียชีวิต แต่ก็อยากให้โรงพยาบาลระบุสาเหตุการตายที่แท้จริงในใบชันสูตรด้วย เพราะครอบครัวไม่สามารถไปแจ้งการตายของน้องได้ เนื่องจากยังไม่ได้รับใบลงความเห็นสาเหตุการตายจากโรงพยาบาล ซึ่งหากเป็นโรคที่ติดต่อกันได้ก็อยากให้แนะนำวิธีป้องกันตนเองอย่างถูกต้องด้วย