เมื่อวันที่ 8 ธ.ค. 66 ที่ผ่านมา เฟซบุ๊ก Pisit K Rapitpunt ซึ่งเป็นของ นายพิสิฐ ระพิทย์พันธ์ เจ้าของร้านทองเยาวราช ในตำบลระแหง อำเภอเมือง จังหวัดตาก โพสต์ระบุถึงเหตุการณ์ที่ตนเองถูกปล้นร้านทอง ห้างทองเยาวราช จ.ตาก ในวันเดียวกันเมื่อปีที่แล้ว (2565)
ซึ่งโพสต์ดังกล่าวระบุว่า คดีได้สิ้นสุดลงแล้ว ทางอัยการมีคำสั่งไม่ฟ้อง ในคดีที่พยายามฆ่า และตนต้องการเล่าเหตุการณ์ในวันนั้นให้ฟัง เพื่อเอาไว้เป็นกรณีศึกษาสำหรับร้านค้า และควรที่เราจะต้องมีอาวุธที่จะเอาไว้ต่อสู้ พร้อมกับเข้าอบรมเรียนรู้วิธีการใช้อาวุธที่ถูกต้องและฝึกฝนอยู่อย่างสม่ำเสมอ
นอกเหนือจากเคสนี้แล้ว ลองค้นดูให้ลึกกว่านี้ ยังมีเคสอีกหลายๆเคส ที่เกิดขึ้นในลักษณะเดียวกันนี้ อีจันจะเริ่มยกตัวอย่างที่เคสในเขต สภ.สาขลา จ.สมุทรปราการ ซึ่งเคยมีเหตุคล้ายๆกันเกิดขึ้น โดยเมื่อวันที่ 22 พ.ค. 66 ที่ผ่านมา คนร้ายชายรายหนึ่ง บุกเดี่ยวเข้าไปในร้านทอง ในตลาดรวยมาร์เก็ต ซอยประชาอุทิศ 90 หมู่ 2 ต.บ้านคลองสวน อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ และชิงทองน้ำหนัก 174 บาท หลังจากที่คนร้ายใช้ปืนจี้พนักงานในร้านทอง กวาดแหวนทองในร้าน และกำลังจะหลบหนี แต่ประตูกระจกถูกล็อกอัตโนมัติ ทำให้คนร้ายต้องใช้ปืนที่เตรียมมา กระหน่ำยิงใส่ประตูกระจก จำนวน 4 นัด จนกระจกแตกเพื่อเปิดทางหลบหนี
คนร้ายพยายามหอบทองขึ้นรถจักรยานยนต์ที่ขี่มาจอดข้างร้าน แต่ในจังหวะนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจของ สภ.สาขลา ที่เข้าเวรหลังออกตรวจพื้นที่ และนั่งทานข้าวในตลาด ได้ยินเสียงปืนจึงเดินออกมาดู พอคนร้ายเห็นตำรวจจึงกราดยิงใส่หลายนัดหวังเปิดทางหนี แต่กระสุนไม่ถูกใคร และถูกตำรวจสายตรวจชักปืนพกประจำกายยิงสวนใส่คนร้าย ในจังหวะที่คนร้ายกำลังคร่อมรถจักรยานยนต์ ทำให้กระสุนที่ตำรวจยิงสวนไปนั้นพุ่งเข้าท้ายทอยของคนร้ายล้มลงได้รับบาดเจ็บ
อีกรายเกิดในพื้นที่ สน.บางโพงพาง เกิดเหตุชายคนหนึ่งใช้เหล็กชิงทรัพย์ร้านทอง เมื่อวันที่ 3 พ.ย. 66 ที่เกิดเหตุเป็นห้างทอง ประตูกระจกหน้าร้านแตกเสียหาย กระจกตู้โชว์แตก โดยคนร้ายเป็นชาย 1 ราย ชื่อนายสมบัติ อายุ 33 ปี คนร้ายเดินไปมาอยู่ที่ฝั่งตรงข้ามร้าน จากนั้นได้ไปนั่งอยู่ที่วินรถจักรยานยนต์ แต่ทางคนขี่รถ จยย. เห็นท่าทางมีพิรุธ จึงได้ไล่ให้ออกไปจากวิน แต่คนร้ายชักมีดขึ้นมาขู่ จากนั้นก็ข้ามถนนมาที่ร้าน เพื่อทำทีนำทองมาขาย แต่ทางร้านรู้ว่าทองที่คนร้ายนำมาเป็นของปลอมจึงปฏิเสธไป จึงได้ขอให้คนร้ายออกจากร้าน เนื่องจากขณะนั้นสุนัขที่เลี้ยงไว้เริ่มเห่าเสียงดัง คนร้ายโมโหหยิบอาวุธ เป็นเหล็กยาวสามเหลี่ยม ยาวประมาณ 1 ฟุต ออกมา ใช้ด้ามกระแทกที่ตู้กระจกโชว์สินค้า และหยิบแหวนทอง 1 สลึง ไป 1 วง จากนั้นคนร้ายพยายามจะหลบหนี โดยประตูกระจกเป็นประตูไฟฟ้า ปิดล็อคอัตโนมัติ คนร้ายจึงใช้เหล็กกระแทกประตูกระจกจนแตกละเอียด ก่อนหลบหนีออกไป
จากนั้นคนร้ายได้วิ่งหลบหนีไปทางถนนพระรามสาม ตนและชาวบ้านจึงได้วิ่งตาม ไปกว่า 1 กิโลเมตร ก่อนไปล้อมจับไว้ได้ที่บริเวณหน้าวัดดอกไม้ แต่แหวนของกลางก็หายไปแล้ว
นี่เป็น 3 เคสที่บอกกับเราชัดเจนว่า กรรมมันติดจรวดจริงๆ และเตือนใจเราว่า จงอย่ากลัวที่จะสู้ เพื่อปกป้องตัวเอง หากต้องกลายเป็นเหยื่อ แต่จงสู้อย่างมีสตินะครับ
คลิปอีจันแนะนำ
รวมเหตุการณ์ กรรมตามทัน โจรปล้นทอง