สะเทือนใจ! หนุ่ม 37 ไม่กินเหล้า-ออกกำลังกายประจำ แต่ป่วยมะเร็งตับ

แพทย์แชร์อุทาหรณ์! หนุ่ม 37 ไม่กินเหล้า-ออกกำลังกายประจำ แต่ป่วยมะเร็งตับระยะสุดท้าย รักษาตัวได้ 2 เดือน เสียชีวิต

‘มะเร็งตับ’ เป็นหนึ่งในปัญหาสุขภาพที่สำคัญในประเทศไทย โดยมีอัตราการเกิดและการเสียชีวิตที่สูงเมื่อเทียบกับหลายประเทศ หลายปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดมะเร็งตับในคนไทย ได้แก่ การติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี และซี, การดื่มสุรามากเกินไป, การสัมผัสกับสารพิษในอาหาร และโรคตับอื่นๆ เช่น โรคตับแข็ง การรักษามะเร็งตับอาจรวมถึงการผ่าตัด, การใช้ยา, การฉายรังสี, หรือการรักษาด้วยวิธีอื่นๆ ขึ้นอยู่กับระยะของโรคและสุขภาพโดยรวมของผู้ป่วย

ขณะที่ เฟซบุ๊ก เรื่องเล่าจากโรงพยาบาล ได้โพสต์ภาพเอกซเรย์ พร้อมระบุว่า #ทำความรู้จัก #หน้าตามัจจุราช

สองภาพนี้เป็นของคนไข้ของผมเอง เป็นภาพเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ CT scan จากบริเวณช่องท้องส่วนบน ส่วนใหญ่ของนั่นคือ ตับที่โตผิดปกติ เนื้อตับปกติ หน้าตาจะประมาณมุมซ้ายล่างออกสีขาวเป็นเนื้อเดียวกัน ส่วนที่เหลือเกินครึ่ง ที่มีสีดำกระจาย แทรกไปทั่วๆ ใหญ่บ้างเล็กบ้างนั่นคือ สิ่งผิดปกติ ในที่นี่ คือ มะเร็ง (ใช้คำว่า ในที่นี้ เพราะบางกรณีจุดดำๆ มันก็เป็นอย่างอื่นได้นะครับเช่น ถุงน้ำ หนอง)

เป็นมะเร็งตับที่ทำให้คนไข้ปวดท้องกินไม่ได้ ตัว ตาเหลืองประมาณ 1 อาทิตย์ก่อนมา รพ. ความน่าตกใจของมันก็คือแสดงอาการแค่ 1 อาทิตย์ ก็โผล่มาในระยะที่ รักษาไม่ได้แล้ว ความน่าตกใจข้อที่ สอง ก็คือ คนไข้ อายุเพียงแค่ 37 ปี ความน่าตกใจข้อที่ สาม คือ คนไข้เป็นคนออกกำลังกาย ไม่ดื่มเหล้า

ความน่ากลัว ก็คือ คนไข้เสียชีวิตในเวลาแค่ 2 เดือน หลังตรวจเจอ ครอบครัวพาไปปรึกษาอาจารย์แพทย์ที่ โรงเรียนแพทย์แห่งหนึ่งก็เห็นว่า ร่างกายไม่แข็งแรงพอที่จะรับยาใดๆ ได้แล้ว ในความน่าตกใต ความน่ากลัว มันยังมีความน่าเสียดายซ่อนอยู่

ขอบคุณภาพจาก เฟซบุ๊ก เรื่องเล่าจากโรงพยาบาล

เคสนี้ คือ ตัวอย่างของคนที่เป็นมะเร็งตับ จากการติดเชื้อไวรัสตับโดยที่ไม่เคยมีอาการใดๆ ทางตับไม่มีความเสี่ยงเรื่องการดื่มแอลกอฮอล์ไวรัสตับ ที่ก่อให้เป็นมะเร็งตับหลัก ๆ ก็คือ ไวรัสตับบี และไวรัสตับซี

คนไข้บอกว่า “เคยตรวจเจอเมื่อนานมาแล้ว (> 10 ปี) แต่ตอนนั้น หมอบอกว่ายังไม่เป็นอะไร” ความน่าเสียดาย มันอยู่ที่ตรงนี้ ไวรัสตับบี ไวรัสตับซี ปัจจุบัน รักษาได้ เมื่อรักษาแล้วก็จะลดโอกาส หรือ ป้องกันการเกิดมะเร็งตับได้ แต่คนส่วนหนึ่ง เสียโอกาสนี้ไป ทำไม?

1.กรณีของคนไข้ผม ตรวจเจอแต่ไม่ได้มีการติดตาม จนพลาดโอกาสไปต้องปูพื้นฐานนิดนึง กรณีคนที่มีเชื้อไวรัสตับ ณ ปัจจุบัน ไม่ใช่ทุกคนต้องรักษา ส่วนหนึ่ง มันอยู่ในภาวะสงบ ไม่มีอาการ ค่าการทำงานของตับปกติปริมาณเชื้อในร่างกายน้อย แบบนี้ มันก็อยู่กับเราแบบเงียบๆ ไปตลอดชีวิตของเรา ก็ไม่จำเป็นต้องกินยารักษาใดๆ การตรวจติดตาม จึงเป็นสิ่งสำคัญ มากกกก ผมเองต้องย้ำคนไข้ทุกครั้งที่เจอกันว่าตอนนี้ไม่มีอะไร แต่หมอนัด มาเรื่อยๆอย่าเพิ่งเบื่อกันนะครับ (3 เดือน 6 เดือน ก็ว่ากันไป)

2.หลายคนไม่เคยตรวจเลย จึงไม่รู้และการตรวจสุขภาพทั่วไป หลายกรณี ไม่มีการตรวจหาไวรัสตับ (หากจำไม่ผิด ตรวจสุขภาพของบัตรทอง หรือ ของประกันสังคม ก็ไม่มี) คนไม่เคยเฉียด รพ. ไม่เคยตรวจเป็นเรื่องหนึ่ง แต่บางคนที่เคยตรวจสุขภาพแล้ว หมอบอกว่า ผลตรวจเลือดปกติบางคนก็เข้าใจว่า นั่นแปลว่า เคยตรวจทุกอย่างแล้ว ซึ่งหลายครั้งมันไม่ใช่ ส่วนตัว อยากให้ทุกคนได้ตรวจหาไวรัสตับบี ซี สักครั้งในชีวิตมันราคาไม่สูง และได้ประโยชน์จริง

3.ยังมีข้อที่สาม องค์ความรู้มันเปลี่ยนแต่หมอเรายังไม่เปลี่ยน ไม่ตามความรู้ใหม่ๆ เมื่อ 20 ปีก่อน เจอ ไวรัสตับบี หมออาจจะบอกแค่ว่า ไม่เป็นไร ไม่ต้องรักษาเพราะตอนนั้นความรู้มันแค่นั้นไวรัสตับซี ไม่ต้องทำอะไร เลิกกินเหล้าก็พออะไรทำนองนั้น แต่ปัจจุบันมันไม่ได้แล้ว ผมเองก็ต้อง เติมความรู้เรื่อยๆ ตอนนี้บางกรณียังไม่ต้องรักษาแต่ต่อไป การรักษาอาจจะเร็วขึ้นก็ได้

สรุป สำหรับคนทั่วไป

  • ใครไม่เคยตรวจ ตรวจสักครั้งในชีวิต ต้องบอกด้วยว่าขอตรวจ ไวรัสตับ ไม่ใช่แค่ ตรวจสุขภาพทั่วไป
  • ใครเคยตรวจเจอ หมอบอกไม่ต้องทำอะไรควรไปปรึกษาหมอใหม่อีกครั้งยังไงต้องมีการนัดติดตาม ผลเลือดเป็นระยะ
  • ใครเคยตรวจเจอและ หมอนัดติดตาม แต่เราไม่ได้ไป เพราะขี้เกียจ หรือไม่มีเวลาให้กลับไปหาหมอ ตรวจเป็นระยะๆ เถอะครับส่วนใหญ่ ไม่เป็นอะไร แต่ถ้ามีอะไรขึ้นมารักษาได้ทันดีกว่าจะเสียใจภายหลัง
  • สำหรับหมอ อัพเดทความรู้
  • สำหรับ ระบบ ส่งเสริมการตรวจสุขภาพ ให้ตรวจกันมากขึ้นจะดีมาก

คลิปอีจันแนะนำ

ปิดเกมล่า ไอ้บ๊อบ ฆ่าฝังดินเมีย