
จากกรณี นายบุญเที่ยง หรือธง อายุ 50 ปี ชาวบ้านโนนแดง ต.หนองกะทิง อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ ก่อเหตุขโมยลูกชิ้นยืนกิน มูลค่าประมาณ 300 บาท ไปให้ครอบครัวยากจน แม่ป่วยติดเตียง และพ่อป่วยอัลไซเมอร์ กินประทังชีวิต จนถูกตำรวจ สภ.เมืองบุรีรัมย์ จับกุมแล้วตั้งข้อหาลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะ จนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์สนั่นโซเชียล และบีบหัวใจหลายคนไม่น้อย ซึ่งอีกคนโดนทัวร์ลง คือ เจ้าของร้านลูกชิ้นยืนกินที่เข้าแจ้งความดำเนินคดี
ล่าสุดวันนี้ (12 ก.ค.67) น.ส.ณิชชาวีณ์ เจ้าของร้านลูกชิ้นดังกล่าว ได้ออกมาเปิดใจ และชี้แจงเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวว่า…
เหตุการณ์ที่มีคนมาขโมยลูกชิ้นหน้าร้าน เกิดขึ้นเวลาประมาณ 21.39 น. วันที่ 24 พ.ค.67 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นลูกชิ้นที่ลูกค้าสั่งซื้อไว้ 2 ถุง และจ่ายเงินให้กับทางร้านแล้ว โดยทางร้านได้วางถุงลูกชิ้นไว้ให้ลูกค้าบนโต๊ะหน้าร้าน เพราะลูกค้าจะมารับเพื่อนำไปทอดขายตอนกลางคืน แต่พอลูกค้ามารับเหลือลูกชิ้นแค่ถุงเดียว จึงติดต่อมาทางร้าน เมื่อเปิดกล้องวงจรปิดดูพบว่ามีผู้ชายคนหนึ่งขี่จยย.มาขโมยไป

ต่อมา วันที่ 25 พ.ค.67 ตนจึงไดเนำหลักฐานไปแจ้งความที่ สภ.เมืองบุรีรัมย์ ซึ่งตอนนั้นก็ไม่ได้รู้เลยว่าผู้ก่อเหตุเป็นใคร มีฐานะอย่างไร
กระทั่งช่วงบ่ายวันที่ 25 ก.ค.67 ตำรวจชุดสืบสวน แจ้งว่า สามารถจับกุมตัวคนที่ขโมยลูกชิ้นได้แล้ว ให้ตนไปชี้ตัวที่โรงพัก ซึ่งตำรวจชุดสืบสวน บอกกับตนเองว่า ตอนไปจับกุมเห็นสภาพบ้านของผู้ก่อเหตุยากจนมาก พร้อมกับเอารูปให้ดู แต่ตอนนั้นยังไม่ได้เจอตัวผู้ก่อเหตุ กระทั่งตำรวจนำตัวผู้ก่อเหตุมาถึงโรงพักและติดต่อให้ตนไปชี้ตัวผู้ต้องหาอีกครั้ง

พอตนเห็นสภาพผู้ก่อเหตุ ก็รู้สึกสงสารไม่อยากเอาเรื่อง พอกลับมาถึงบ้าน ร้อยเวรฯ ก็ยังโทรศัพท์มาสอบถามว่าจะดำเนินการอย่างไร ตนก็แจ้งกับร้อยเวรฯ ไปว่าขอถอนแจ้งความ เพราะสงสารไม่อยากเอาเรื่อง ก็คิดว่าไม่มีอะไรแล้ว แต่ต่อมาสักพักร้อยเวรฯ โทรมาแจ้งว่าผู้บังคับบัญชาบอกว่าถอนแจ้งความไม่ได้เพราะเป็นคดีอาญาแผ่นดิน และเกรงจะไปก่อเหตุอีก ตำรวจก็จะโดนฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ด้วย ดังนั้น ทางตำรวจจึงต้องดำเนินการไปตามขั้นตอน



กระทั่ง มีการออกข่าวล่าสุด ว่าตำรวจนำสำนวนและผู้ต้องหาส่งอัยการ ทำให้ร้านโดนทัวร์ลง กระทบกับการค้าขายและสภาพจิตใจ ทั้งที่เป็นผู้เสียหาย จึงขอให้เห็นใจทางร้านด้วย เพราะการค้าขายก็มีต้นทุน ที่ผ่านมาก็ร่วมกับญาติพี่น้องตอบแทนสังคมด้วยการจัดโรงทานเลี้ยงผู้ยากไร้เป็นประจำทุกปี