ผู้ว่าฯ ประกาศนัดคนร้องเรียนวัดไทร อยากอธิบายให้เข้าใจ

วันนี้ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เดินทางมากราบ เจ้าอาวาสพระอธิการ ปรีชา ปุณณโล เจ้าอาวาสวัดไทร หลังเกิดเหตุเขตบางคอแหลม ส่งหนังสือขอความร่วมมือให้วัด ตีระฆังเบาลง เนื่องจากมีผู้อาศัยในคอนโดใกล้เคียงวัดส่งเรื่องร้องเรียนไปยังเขต

โดยผู้ว่าฯ ชี้แจงแนวทางแก้ปัญหาเรื่องนี้ว่า

“ในฐานะผู้ว่ากรุงเทพมหานคร เมื่อเช้าได้มีการประชุมตั้งแต่เช้า และได้ให้ผู้อำนวยการเขตมากราบหลวงพ่อแล้ว และวันนี้เสร็จจากการประชุมเลยมากราบหลวงพ่อ มาขอทราบเหตุทราบผลต่างๆ

ซึ่งสื่อก็ทราบกันดีอยู่แล้วว่า ปัญหามันก็เกิดจากเรื่องนิดหน่อยๆ คือคนหมู่มากก็เข้าใจว่า มันเป็นจารีตประเพณี ขนบธรรมเนียมประเพณี ตั้งแต่สมัยหลายร้อยปีมาแล้ว ก็ทำกันมาอย่างนี้ตลอด มันเป็นประเพณีดั้งเดิมของพุทธศาสนิกชน ในพระพุทธศาสนาจะต้องมีประเพณีอย่างนี้อยู่แล้ว

วันนี้ที่ผมมาก็มากราบของอภัยหลวงพ่อ ที่ทางส่วนราชการของกทม. คือทางเขตได้ทำหนังสือมาถึงหลวงพ่อ เนื่องจากมีคนมาร้องเรียนว่าให้ช่วยลดเสียง ลดอะไรได้ไหม ผมก็เลยมากราบขออภัยกับท่านเจ้าอาวาส และผมก็ได้บอกกับทางผู้อำนวยเขตไปว่า ผมก็อยากไปคุยกับคนที่ร้องเรียน จะได้ชี้แจ้งให้เข้าใจว่าวัฒนธรรมประเพณีมันมีมาตั้งแต่โบราณ กิจของสงฆ์เป็นศาสนกิจที่จะต้องทำกันอยู่

เมื่อเช้าท่านนายกรัฐมนตรีก็เป็นห่วงมาก พลเอกประยุทธ์ จันโอชา ก็บอกลองมาดูสิมันอะไรกัน ก็เลยเป็นที่มาของการมาในวันนี้

เดี๋ยวผมก็จะให้ทางผู้อำนวยเขตเข้าไปติดต่อ แต่วันนี้ก็คงยังติดต่อคนที่ร้องเรียน ไม่ได้ ก็เลยบอกว่าเดี๋ยวขอพบจะได้อธิบายให้เข้าใจ กลางคืนก็ได้ เช้าก็ได้ เย็นก็ได้ เมื่อไรก็ได้ที่สะดวก ไม่ต้องไปหาผมที่ กทม.หรอก นัดเจอข้างนอกที่ไหนก็ได้ ผมจะได้มาคุยทำความเข้าใจ แบบว่าบางที่เขาอาจจะลืมไปว่าวัฒนธรรมประเพณีมันมีตั้งแต่โบราณ จะได้ทำความเข้าใจกัน

ส่วนเรื่องเสียง หลัง ผู้ว่า ขึ้นไปตีระฆังเพื่อวัดความดังด้วยหูตัวเองแล้ว ก็บอกกับสื่อมวลชนว่า

“ผมจะไม่พูดเรื่องเดซิเบลละ เอาความรู้สึกมาจับกัน ผมจะอธิบายให้เขาฟังว่า มันดังขนาดไหน จนทนไม่ไหว มันก็ต้องมีคนหลายคนที่บอกว่าดัง แต่นี่มีคนนี้คนเดียวที่บอกว่าดัง แต่คนอื่นไม่ได้บอกว่าดัง มันต้องจูนเข้าหากันว่า เอ๊ะทำไมคุณคนเดียวบอกว่าดัง อีกคน 15 คน บอกว่าไม่ดัง เอ๊ะแบบ 15 คนผิดปกติ หรือเราผิดปกติ ถูกไหม”

ส่วนการตีระฆัง ทางวัดยืนยันจะยังคงตีก้องกังวานเช่นเดิม ตามขนบประเพณีของชาวพุทธ