#กองทัพมดขนไอซ์ครั้งประวัติศาสตร์ภาค9
#โทรศัพท์หล่น
อีจันสืบจนเลยเที่ยงคืน เรื่องก็ยังไม่จบ
เล่าต่อเลย ทวนเรื่องเก่าให้นิดหนึ่ง
รถไฟขบวนรถด่วนพิเศษระหว่างประเทศที่ 35 กรุงเทพฯ – ปาดังเบซาร์ ซึ่งวันนั้นได้กลายเป็นรถขนยาไอซ์( ชั่วคราว)ของกองทัพมดข้ามชาติ ตอนนี้กำลังแล่นเข้าเขตจ.สุราษฎร์ธานีแล้ว
รถไฟขบวนนี้ออกจากสถานีหัวลำโพงตั้งแต่ 5 โมงเย็น เวลาเกือบ 10 ชั่วโมงที่ผ่านมา
จับผู้ต้องหาขนยาไอซ์ไปแล้วถึง 12 คน หลบหนีขณะรถไฟจอด 4 คน
ภาพจากอีจัน
แต่รถไฟก็ยังคงแล่นต่อไป และตอนนี้ขบวนรถไฟแล่นผ่านเข้าสู่เขตจ.สุราษฎร์ธานี ใกล้ตี 2 ผู้โดยสารหลับเกือบทั้งขบวนรถ แต่พนักงานการรถไฟยังคงทำงาน เขาเดินตรวจตราไปตามตู้โดยสาร ความรู้สึกในตอนนั้น คือ เรื่องน่าจะจบ ถ้าคนร้ายยังหลงเหลือก็น่าจะหลบหนีไปหมดแล้ว “ ไม่คิดอะไรแล้ว ไม่น่าเหลือแล้ว คงหมดแล้ว พอดีผมไปรวมกันอยู่ที่ตู้การ์ด แล้วก็ไปคุยกันอยู่ที่นั่น แล้วผมก็เดินกลับมาคนเดียว” พนักงานรถไฟหนุ่มเดินในช่องทางแคบที่มีสองข้างทางเป็นเตียงนอนผู้โดยสารและจังหวะนั้นเอง มีผู้โดยสารทำโทรศัพท์ร่วงจากเตียงนอนชั้นบน “โทรศัพท์มันร่วงปุ๊บ ผมก็จะเก็บโทรศัพท์ให้เขา ตอนจังหวะที่ผม ก้มเก็บโทรศัพท์ แม่ลูกคู่หนึ่ง เขาชี้บอกว่า ไม่รู้ใครมานอนเตียงหนูอยู่ข้างบน ข้างบนเป็นเตียงหนู แต่ไม่รู้ใครมานอน ” อ้าว แย่งเตียงเด็กทำไม ? 
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
ในตอนนั้นเขาคิดว่า คงเป็นเพียงปัญหาผู้โดยสารเปลี่ยนที่นอนโดยถือวิสาสะ
“เราก็เอะใจ คนอื่นมานอนได้ไง ผมก็แง้มม่านดู เขาก็เหมือนโผล่หัวขึ้นมา”
ความเป็นคนช่างสังเกตระดับ 10 ทำให้พนักงานรถไฟหัวใจนักสืบพบพิรุธ
“ปกติผู้โดยสารทุกคน จะมีผ้าห่ม มีหมอนมีอะไรเรียบร้อย แต่อันนี้เขาไม่มี หมอนไม่มี ผ้าห่มไม่มี นอนเตียงเปล่าๆ ไอ้หมอนกับผ้าห่ม แม่ลูกเขาเอา ลงมานอนข้างล่างหมดแล้ว เขานอนเตียงเปล่าๆ ผมก็ใช่ละ ผู้ต้องหาที่เหลือแหง๋ๆ ผมก็วอเลย วอเรียก ทีมมาเลย”
ตอนนี้กำลังตำรวจพร้อมสแตนบายในขบวนรถไฟ ไม่ต้องหาพวกให้เมื่อยตุ้มเหมือนช่วงหัวค่ำ เมื่อมีข่าวแจ้งทางวิทยุ ตำรวจก็รุดมาตรวจสอบอย่างเร็ว
ไม่นานก็พบผู้ต้องหาตกค้างจริงตามที่คิดไว้
ชาย 3 คน นี้ เป็นชายต่างชาติ ชาวมาเลเซีย ซื้อตั๋วไว้ที่ตู้นอนที่ 3 แต่พอรู้ข่าวพรรคพวกถูกจับ จึงกระจายตัวกันแอบนอนในตู้อื่นๆ
ภาพจากอีจัน
โชคดีที่ตรวจสอบจนพบ และเมื่อค้นกระเป๋าเดินทาง ก็พบยาไอซ์ อีก 44 กิโลกรัม!!! สำหรับทั้ง 3 คนนี้ น่าจะเป็นผู้ต้องหาตกค้างชุดสุดท้าย ที่ตรวจสอบพบในขบวนรถไฟขบวนนี้ ตอนนี้ตำรวจรวบตัวผู้ต้องหาได้แล้ว ทั้งหมด คือ 15 นาย ทิ้งกระเป๋าหลบหนีไป 4 นาย ไม่พบร่องรอย 2 นาย ส่วนของกลาง หรือ ยาไอซ์ยึดไว้แล้ว ตอนนี้ยอดทะลุไปเกือบถึง 200 กิโลกรัมแล้วแม่เจ้า อื้อมหาอื้อที่สุดในประวัติศาสตร์ยาเสพติดไทย!!!! 
ภาพจากอีจัน
จบภารกิจสุดระทึกบนรถไฟไว้แค่นี้ แต่เรื่องยังมีต่อ…..ตำรวจกัดไม่ปล่อยนะงานนี้ ย้อนไปช่วงที่ตำรวจส่งตัวผู้ต้องหาลงที่สถานีประจวบคีรีขันธ์ในตอนนั้น มีผู้โดยสารกลุ่มหนึ่งแอบลงจากรถไฟอย่างเงียบกริบ แล้วแฝงกายหายไปในความมืด คงคิดว่า ตำรวจจะปล่อยให้หายไปกับความมืด แต่รุ่งเช้าก็เจอคนร้าย โรคกัดไม่ปล่อยเข้าเต็มๆ ตำรวจสืบรู้จนได้ว่า ชายกลุ่มดังกล่าว เข้าพักที่รีสอร์ทแห่งหนึ่งก่อนที่จะว่าจ้างรถตู้ เดินทางไปจ. สงขลา พ.ต.อ.พุฒิเดช : ทางท่านผู้การก็ได้สั่งการให้ตำรวจทางหลวง ตำรวจกองปราบ และก็ทุกหน่วยในกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ระดมกำลัง ตรวจสแกนทุกเส้นทาง ทั้งบก ทั้งน้ำ ทั้งทุกเส้นทางที่จะออกไปนอกประเทศได้ ก็ปรากฏว่าตำรวจทางหลวงได้พบรถตู้ต้องสงสัย ชาวต่างชาติ เป็นชาวมาเลเซีย ลักษณะตำหนิรูปพรรณ คล้ายกับกลุ่มที่ถูกจับ ก็หลังจากตรวจสอบ ค้นตัว พบตั๋วโดยสารรถไฟ และก็ส่งรูปมาให้ดู " อีจัน : เลยไม่รอดสินะ พ.ต.อ.พุฒิเดช : ใช่ครับเป็นแค่บุคคล มีตั๋ว และก็มีบัตร มีพาสปอร์ต หลังจากการรีเช็คตรวจสอบ แล้วเนี่ยปรากฏว่าชื่อตรงกับขบวนการนั้น อีจัน : เป็นเจ้าของกระเป๋าปริศนาที่ทิ้งไว้ พ.ต.อ.พุฒิเดช : ครับ ประมาณนั้น ผู้ต้องหา 6 คน ที่คาดว่าจะหนีรอด จนมุมตำรวจทางหลวงที่จ.พัทลุง ภารกิจไล่ล่ากองทัพมด จำนวน 21 คน จึงจบได้อย่างไม่มีใครรอดไปได้แม้แต่คนเดียว ตำรวจยึดยาไอซ์ ได้ทั้งหมด 226 กิโลกรัม และเฮโรอีน 8 กิโลกรัม ถือเป็นการจับยาเสพติดครั้งใหญ่สุดในประวัติศาสตร์ของตำรวจไทยก็ว่าได้นะ ขอบคุณทุกคนที่ทำหน้าที่ได้อย่างเยี่ยมยอด และบางคนทำเกินหน้าที่เพื่อดูแลสังคม ดูแลคนไทยอีจันซาบซึ้งใจจริงๆ ที่บ้านเรามีเจ้าหน้าที่ เจ้าพนักงานที่มีความจริงใจกับงานถึงขนาดนี้ สังคมมีคนดีดูแล ใครคิดเป็นคนร้ายหลบไปไกลๆ
ปิดคดีกองทัพมดขนไอซ์ครั้งประวัติศาสตร์เพียงแค่นี้
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
คดีต่อไป สืบเรื่องอะไร ติดตามต่อนะ ความมันส์ยังรออยู่ อีจันสืบปิดคดีค่ะ