อีจันเข้าป่า เกาะติดการหาจุดยิงเสือดำ

วันนี้อีจันเข้าป่า เกาะติดการหาจุดยิงเสือดำ

หลังนั่งรถโฟล์วิลหัวโยกหัวคลอนนาน 4 ชม. ห่างจากสภ.ทองผาภูมิ เข้าสู่ทุ่งใหญ่นเรศวร ในระยะทาง ประมาณ103 กิโลเมตร ก็ถึงจุดเกิดเหตุที่พบไส้เสือดำ

จุดนี้เจ้าหน้าที่ป่าไม้สันนิษฐานว่า น่าจะเป็นจุด ชำแหละเสือหลังยิง ก่อนเอาไปทำอาหารที่เต้นท์พักซึ่งตั้งห่างไปประมาณ 700 เมตร

ณ จุดนี้ นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าพญาเสือและทีมงานได้เคยตรวจสอบที่นี่อย่างละเอียด โดยไล่จากถนน เริ่มจากตำแหน่งที่พบปลอกกระสุนปืนลูกซองเบอร์ 20 สำรวจห่างไปประมาณ 2 เมตร ใกล้ริมถนน เป็นตำแหน่งที่พบอุจาระและทิชชู่ เมื่อสำรวจเข้าไปข้างทางด้านซ้ายมือ ตรงข้างทาง เป็นร่องน้ำที่ตอนนี้ไม่มีน้ำมีแต่โขดหินสลับลาดบ้าง ลึกบ้าง สภาพคล้ายลานหิน

หน.พญาเสือพาอีจันดูพื้นที่บริเวณนี้โดยรอบ พบเบาะแสที่น่าเกี่ยวข้องกับคดีอยู่หลายจุด ชี้จุดแรก คือ ตำแหน่งที่พบขนเสือ และรอยตะปบเล็บที่ดินตรงซอกหิน ถัดไปด้านขวา เป็นจุดที่พบไส้เสือ กระจุกขนเสือ และถุงเกลือ จึงเชื่อว่าตรงนี้เป็นจุดชำแหละ

และเมื่อทีมงานพญาเสือขยายจุดสำรวจกว้างออกไปอีก ถัดจากตำแหน่งพบขนเสือจุดแรก ไปประมาณไม่ถึง 10 เมตร ที่กิ่งสแกวัลย์ พบรอยฉีกขาด สันนิษฐานว่า อาจเป็นรอยกระสุนปืน

เดินลึกเข้าไปไกล 4-5 เมตร ด้านซ้ายมือพบรอยกระเทาะที่โขดหิน 2 รอย ด้านขวาซึ่งเป็นไม้ยืนต้นตาย พบรอยฉีกอีก 1 รอย

จากนั้นสำรวจกว้างขึ้นอีก พ้นจากโขดหิน ด้านขวามือเป็นป่า เดินไปสัก 10 เมตร พบรอยอุจจาระเสือ คาดว่า เสือน่าจะถูกยิงแล้วหนีมาทางนี้ในสภาพใกล้ตาย อุจจาระจึงราดเพราะธาตุไฟแตกแล้ว

ข้อมูลที่พบทั้งหมดนี้เชื่อว่า เป็นเบาะแสสำคัญในคดี หน.พญาเสือได้แจ้งให้ทางพฐ.ภาค 7 เข้าตรวจสอบ เพื่อพิสูจน์ว่า ร่องรอยที่พบเป็นหลักฐานที่พอจะประมวลหาจุดยิงเสือได้หรือไม่

วันนี้ พล.ต.ต.กฤษณะ ทรัพย์เดช รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 และทีม พฐ. ภาค 7 ได้เข้าตรวจพท. โดยมี หน.พญาเสือเป็นผู้ให้ข้อมูลร่องรอยต่างที่พบในที่เกิดเหตุ

เบื้องต้น สรุปได้เพียงว่า รอยฉีกที่เถาสะแกวัลย์เป็นรอยกระสุน แต่ไม่สามารถหาแนววิถียิงเสือได้ เพราะไม่มีจุดเชื่อมโยงอื่นประกอบ แต่หลักฐานที่พบก็มีความเป็นไปได้ว่า การยิงเสือ และชำแหละเสือ เกิดขึ้นตรงนี้แน่นอน

ตอนนี้การรวบรวมหลักฐานจึงมีเพียงวิถีกระสุนที่ตัวเสือที่สามารถสรุปได้ว่า ยิงจากหน้าไปหลัง กระสุนลูกปรายเข้า 8 จุด มี 1 เม็ด วิถีเข้ากลางหน้าผากเสืือพอดี แต่ตำแหน่งของคนร้ายขณะลั่นไก ยังไม่สามารถระบุได้

ข้อมูลเสือล่าสุด สรุปแล้ว เป็นตัวเมีย จึงไม่พบตัวเดียวอันเดียวในซากที่ชำแหละ เจ้าหน้าที่ป่าไม้เล่าว่า หลังจากวันจับนายเปรมชัย 1 วัน ขณะที่มาตรวจสอบที่เกิดเหตุ ก็เห็นเสือดำ อีกตัววิ่งอยู่หน้ารถ สันนิษฐานน่าจะเป็นเสือตัวผู้ที่อยู่คู่กับตัวที่ตาย เนื่องจากก่อนหน้านี้เคยจับภาพ เสือดำ 2 ตัว และเสือดาว 1 ตัวในบริเวณนี้ได้ ซึ่งสือดำมีพฤติกรรมมักอยู่เป็น กลุ่ม ตัวผู้ 1 ตัว คุมตัวเมียหลายตัว เมื่อตัวเมียหายไป ตัวผู้อาจออกตามหา



พรุ่งนี้พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผบ.ตร.จะบินมาเร่งรัดการทำคดียิงเสือดำที่ สภ.ทองผาภูมิ อีจันจะรอรายงานสดความคืบหน้าคดีต่อไปนะคะ