เปิดรายชื่อ ขรก. พัวพันช่วงเปิดตลาดล้อมบ้านป้า

คกก.สรุป ตลาดไม่มีสภาพความเป็นตลาด เตรียมดำเนินการเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง

เปิดรายชื่อ ขรก. พัวพันช่วงเปิดตลาดล้อมบ้านป้า คกก.สรุป ตลาดไม่มีสภาพความเป็นตลาด เตรียมดำเนินการเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง

วันนี้ (5 มีนาคม 2561) นายนิรันดร์ ประดิษฐกุล รองประธาน สภา กทม. ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการเปิดตลาดในซอยศรีนครินทร์ 55 เขตประเวศ เปิดเผยว่า คณะกรรมการพิจารณาร่วมกันแล้วลงความเห็นว่า การจัดตั้งตลาดทั้ง 5 ตลาด มีการดำเนินการไม่ถูกต้องและไม่มีสภาพความเป็นตลาด

ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
ส่วนผู้ที่เกี่ยวข้องต่อการดำเนินการที่ไม่ถูกต้องนั้น หลัก ๆ มี 6 ราย แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ สำนักการโยธา และสำนักงานเขตประเวศ ส่วนแต่ละรายจะมีส่วนเกี่ยวข้องหรือละเลยในการปฏิบัติหน้าที่มากน้อยเพียงใด ขึ้นอยู่กับแต่ละช่วงเวลา พิจารณาจากความเข้มงวดในการฟ้องร้องหรือดำเนินการเอาผิดที่นำไปสู่การจับปรับ ส่วนเจ้าหน้าที่หรือเจ้าพนักงานรายอื่นๆให้ว่าไปตามหลักฐานที่ปรากฎในผลสรุปข้อเท็จจริง ส่วนเรื่องของความผิดหรือการลงโทษผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง แบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ ความผิดทางวินัย ความผิดทางอาญา และความผิดทางแพ่ง นายนิรันด์ กล่าวต่อว่า สำหรับผู้ที่เกี่ยวข้องแบ่งเป็น 2 ส่วน ได้แก่ 1.สำนักการโยธา ผู้ควบคุมกำกับดูแลในการขออนุญาตก่อสร้างอาคาร ตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 พบดำเนินการไม่ถูกต้องตามกฎหมายขณะนั้น โดยมีผู้เกี่ยวข้อง คือ นายจุมพล สำเภาพล (ดำรงตำแหน่ง วันที่ 1 ตุลาคม 2552-2554) และนายวินัย ลิ่มสกุล (ดำรงตำแหน่ง วันที่ 1 ตุลาคม 2554-ตุลาคม 2556) อดีตผู้อำนวยการสำนักการโยธา นายนิรันดร์ แถลงอีกว่า 2.สำนักงานเขตประเวศ ผู้ให้อนุญาตจัดตั้งตลาดตาม พ.ร.บ.การสาธารณสุขฯ พบดำเนินการไม่ถูกต้องตามกฎหมายเช่นกัน ซึ่งมีผู้เกี่ยวข้องปรากฎตามเอกสารตั้งแต่ปี 2551 เป็นต้นมา คือ นายสมชาย ฉัตรสกุลเพ็ญ เกษียนราชการตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักสิ่งแวดล้อม นางอัจฉรา ห่อสมบัติ เกษียณราชการตำแหน่งรองผู้อำนวยการสำนักการจราจรและขนส่ง นายณรงค์ จงแจ่มฟ้า เกษียณราชการผู้อำนวยการเขตประเวศ และนายธนะสิทธิ์ เมธพันธ์เมือง ผู้อำนวยการเขตประเวศ ปัจจุบัน นอกจากนี้ ยังมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายสิ่งแวดล้อม ฝ่ายโยธา และฝ่ายอื่นที่เกี่ยวข้อง รวมประมาณ 20 ราย “เอกสารปรากฎชัดเจนว่ามีใครเกี่ยวข้องบ้างในช่วงปีใด ส่วนผู้เกี่ยวข้องตามเอกสารได้แยกกลุ่มไว้เพื่อให้ผู้ว่าฯ กทม.ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบเพิ่มเติมว่า กลุ่มดังกล่าวมีใครที่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์บ้างแต่หากให้คณะกรรมการชุดนี้ร่วมตรวจสอบไม่สามารถดำเนินการได้ตามกรอบเวลากำหนด” นายนิรันดร์ กล่าว
ภาพจากอีจัน
ทั้งนี้ นายนิรันดร์ ยังแถลงต่อไปว่า ในส่วนการดำเนินการตามกฎหมายของผู้อำนวยการเขตประเวศในแต่ละช่วงปี พบผู้อำนวยการเขตประเวศได้ดำเนินการตามกฎหมายทุกช่วงปี แต่ต้องไปพิจารณารายละเอียดความหนักเบาของการดำเนินการอีกครั้ง ซึ่งบางปีได้ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเข้มงวด อาทิ ระหว่างปี 2555-2559 ตลาดยิ่งนราถูกดำเนินคดี ตาม พ.ร.บ.อาคารฯ กรณีเปิดตลาดก่อนการใช้อาคาร ถูกพิจารณาปรับ 4.7 แสนบาท มีโทษจำคุก 1 เดือน และรอลงอาญา เมื่อปี 2555 ตลาดรุ่งวาณิชย์ถูกปรับ 157,500 บาท ตามคำพิพากษาศาลจังหวัดพระโขนง ทั้งนี้ ข้อเท็จจริงทั้งหมดจะส่งเอกสารให้ผู้ว่าฯ กทม.ตั้งคณะกรรมการสอบวินัยเพื่อพิจารณาดำเนินการตามข้อกฎหมาย

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากตรวจสอบพบผู้กระทำความผิดได้เกษียนอายุราชการไปแล้วจะดำเนินการตามกฎหมายได้อย่างไรบ้าง นายนิรันดร์ กล่าวว่า แม้จะพ้นตำแหน่งไปแล้ว ตามระเบียบข้าราชการสามารถดำเนินการกับผู้นั้นได้ในส่วนที่เกี่ยวข้อง แบ่งเป็น 1.โทษทางอาญา หากมีผู้ร้องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) หรือสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ให้สอบสวนกรณีดังกล่าว ชี้มูลและส่งสำนวนให้อัยการสูงสุด เพื่อยื่นฟ้องต่อศาล 2.โทษทางวินัย หากผู้บังคับบัญชา เห็นว่ามีหลักฐานสมควรตั้งคณะกรรมการสอบวินัยได้ ซึ่งมีผลต่อเจ้าหน้าที่ที่เกษียณอายุราชการหรือไม่ก็ตาม โดยโทษทางวินัยประกอบด้วย ความผิดร้ายแรง เช่น ทำให้ประเทศชาติเสียหาย ฯลฯ ลงโทษไล่ออก ปลดออก และหากพิสูจน์มีความผิดไม่ร้ายแรง ต้องลงโทษตัดเงินเดือน ภาคทัณฑ์ ซึ่งมีกำหนดไว้ตามระเบียบราชการ
ด้านนายบรรลือ สุกใส ผู้ช่วยปลัด กทม.ในฐานะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า หากพิจารณาการดำเนินการของแต่ละตลาด แบ่งได้ดังนี้


1.ตลาดสวนหลวง
ยื่นขออนุญาตก่อสร้างอาคารเพื่อเป็นตลาดตั้งแต่ปี 2551 โดยยื่นขออนุญาตตามมาตรา 39 ทวิ ที่สำนักการโยธา กทม. ซึ่งได้รับใบอนุญาตก่อสร้างอาคารเพื่อเป็นตลาดถูกต้อง แต่ยังไม่ได้ใบอนุญาตในการจัดตั้งตลาด เนื่องจากยังไม่ผ่านหลักเกณฑ์ เช่น ระบบระบายน้ำ ขยะ ยังไม่เรียบร้อย เป็นต้น ซึ่งที่ผ่านมา ท้องถิ่นก็ให้ดำเนินการแก้ไข เมื่อไม่แก้ไขก็มีการยื่นดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.สาธารณสุข

ภาพจากอีจัน
2.ตลาดเปิ้ลมาร์เก็ต และตลาดยิ่งนรา ยื่นขออนุญาตก่อสร้างอาคารเป็นแบบพาณิชย์ ในช่วงราวปี 2553 โดยยื่นขออนุญาตสำนักงานเขตประเวศ ซึ่งต้องยื่นแบบและได้รับใบอนุญาตก่อนจึงจะก่อสร้างได้ โดยทั้ง 2 ตลาด ได้รับใบอนุญาตในการก่อสร้าง และก่อสร้างอย่างถูกต้อง แต่ไม่ได้ใบอนุญาตจัดตั้งตลาด ดังนั้น ทั้ง 2 ตลาด ต้องระงับการขาย เนื่องจากมีการขายของสด ซึ่งอาคารเชิงพาณิชย์ไม่สามารถขายได้ แต่หากมีการยื่นขอเป็นสถานประกอบการสะสมอาหารและจำหน่ายอาหาร แบบห้างสรรพสินค้า ก็สามารถกลับมาดำเนินการต่อได้
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน


3.ตลาดรุ่งวาณิชย์
เดิมได้ขออนุญาตก่อสร้างอาคารเป็นตลาด โดยยื่นขออนุญาตตามมาตรา 39 ทวิ เช่นกัน ซึ่งการขอตามมาตรานี้สามารถก่อสร้างได้ก่อนที่จะได้รับใบอนุญาต แต่จะต้องมีการยื่นแบบคร่าวๆ ให้สำนักการโยธาฯ พิจารณาก่อน แล้วค่อยยื่นรายละเอียดตามมาภายหลัง ซึ่งสำนักการโยธาฯ จะมีการพิจารณาว่าก่อสร้างเป็นไปตามแบบหรือไม่ โดยตลาดรุ่งวาณิชย์นั้น ไม่ได้แก้ไขตามที่สำนักการโยธาฯ สั่งให้แก้ไข จึงให้ระงับการก่อสร้าง ต่อมาจึงมายื่นขออนุญาตก่อสร้างอาคารเชิงพาณิชย์กับสำนักงานเขตประเวศ ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้รับใบอนุญาตก่อสร้าง และไม่ได้ใบอนุญาตจัดตั้งตลาด

ภาพจากอีจัน


4.ตลาดร่มเหลือง
เป็นตลาดแบบไม่มีอาคาร ยังไม่ได้รับใบอนุญาตจัดตั้งตลาด เนื่องจากยังไม่ผ่านเกณฑ์พิจารณา เช่น เรื่องห้องน้ำ จุดตั้งพักขยะ ทางเดินต้องกว้างไม่น้อยกว่า 2 เมตร เป็นต้น
โดยที่ผ่านมา สำนักงานเขตก็มีการดำเนินการฟ้องศาลเพื่อปรับดำเนินคดี แต่ละช่วงมีความเข้มงวดไม่เท่ากัน แต่ไม่มีใครที่ไม่ได้กระทำหรือละเว้น ยกตัวอย่างเช่น

ภาพจากอีจัน


ตลาดสวนหลวง
ปี 2553-2554 ดำเนินคดีรวม 97 ครั้ง
ปี 2554-2558 ดำเนินคดีรวม 66 ครั้ง



.ตลาดเปิ้ลมาร์เก็ต
ปี 2553-2554 ดำเนินคดี 97 ครั้ง
ปี 2555-2556 ดำเนินคดี 12 ครั้ง


ตลาดยิ่งนราก็มีการดำเนินคดีในหลายปี โดยมีการปรับสูงสุดถึง 4.7 แสนบาท หรือตลาดรุ่งวาณิชย์ ก็เคยมีการปรับไปสูงถึง 1.5 แสนบาท