“ไทย” ลุยเอาผิด “มือชกทหารกัมพูชา”

ศบทก. ยัน ไทยสั่งเอาผิด “อดีตทหารพราน” ปรี่ชกทหารกัมพูชา อย่างเต็มที่ พร้อมเคลียร์ใจแล้ว หวั่นเกิดรอยร้าว 2 ประเทศ – พร้อมประท้วง UNESCO ปมกัมพูชาอ้าง “วัดภูม่านฟ้า” เหมือนนครวัด

วันนี้ (14 ก.ค. 68) นางมาระตี นะลิตา อันดาโม รองอธิบดีกรมสารนิเทศและรองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมด้วย พล.ร.ต.สุรสันต์ คงสิริ โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย ร่วมแถลงการณ์ศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.)

พล.ร.ต.สุรสันต์ กล่าวว่า ในวันนี้มี 2 ประเด็นหลัก ได้แก่ 1. เรื่องการขอบคุณพี่น้องประชาชนชาวไทย หลังจากในช่วงวันหยุดที่ผ่านมา ประชาชนได้เดินทางไปเยี่ยมชมที่ปราสาทตาเมือนธม โดยยอดรวม 1 สัปดาห์ มีจำนวนกว่า 18,000 คน ขณะที่ปราสาทตาควาย มียอดนักท่องเที่ยว 2,800 คน ถือเป็นการช่วยเหลือเศรษฐกิจในพื้นที่ได้เป็นอย่างดี รวมถึงเปิดโอกาสให้ได้เรียนรู้ถึงประวัติศาสตร์ความเป็นมาในโบราณสถานของประเทศไทย

2. กรณีการทำร้ายร่างกายของเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชา ชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม จ.สุรินทร์ ล่าสุดเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าหน้าที่ทั้ง 2 ประเทศ ขณะที่ผู้ก่อเหตุ ได้ส่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการตามกฎหมาย โดย ศบ.ทก. ไม่สนับสนุนการกระทำความรุนแรง ไม่ว่าจะฝ่ายใดก็ตาม

ส่วนมาตรการเยียวยาบรรเทาทุกข์ ของประชาชน ผู้ประกอบการ ผู้ขนส่งสินค้าตามชายแดนนั้น พล.ร.ต.สุรสันต์ กล่าวว่า ศบ.ทก.ได้มีมาตรการมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการจัดหาช่องทางกระจายสินค้า และจำหน่ายสินค้า และในส่วนผู้ประกอบ กรมศุลกากร ได้ชี้แจงมาตรการต่าง ๆ ในการช่วยเหลือกรณีที่สินค้าไม่สามารถจัดส่งที่กัมพูชาได้

ขณะที่ นางมาระตี ได้กล่าวถึงประเด็นความตึงเครียดข้อพิพาทของชายแดนไทยและกัมพูชา ระบุว่า สถานการณ์ความมั่นคงในพื้นที่ชายแดนทุกแห่ง ยังคงเป็นอย่งาเรียบร้อย ซึ่งฝ่ายไทยยังคงเข้มงวดในการควบคุมจุดผ่านแนด เพื่อความมั่นคงปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่ เน้นย้ำว่าไม่ใช่การปิดด่านแต่อย่างใด

ในส่วนการดำเนินการด้านต่างประเทศ นางมาระตี กล่าวว่า ในเรื่องของการรักษาและปกป้องผลประโยชน์ของท่าทีประเทศไทย ได้แก่การส่งเสริมภารกิจการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ ซึ่งรัฐบาลได้จัดตั้งกลไกหลักเรื่องนี้แล้ว ซึ่งเมื่อวันที่ 4 ก.ค. ที่ผ่านมา ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้เดินทางไปประชุมร่วมกัน 3 ฝ่าย ได้แก่ ไทย เมียนมา และจีน เพื่อประสานงานด้านการปราบปรามการโทรคมนาคม และเป็นการกระชับความร่วมมือต่อกัน

ในส่วนประเด็นฝ่ายกัมพูชา หยิบยกในประชุมคณะกรรมการมรดกโลก สมัยสามัญครั้งที่ 47 ที่ระบุว่า วัดภูม่านฟ้า จ.บุรีรัมย์ เลียนแบบนครวัด นั้น นางมาระตี กล่าวว่า ภายหลังหัวหน้าคณะผู้แทนไทย แถลงโต้ตอบแสดงความผิดหวังต่อถ้อยแถลงกัมพูชา ซึ่งเห็นว่าการกระทำดังกล่าว มีการเมืองแอบแฝง และควรมีการหารือระดับทวิภาคีมากกว่า ซึ่งฝ่ายไทยได้ส่งหนังสือประท้วงอย่างเป็นทางการ ไปยัง UNESCO เป็นที่เรียบร้อยแล้ว