สามีวอน ปวีณา ช่วยตามหาความจริง ภรรยาดับ หลังคลอดลูกสาว 3 วัน

“ช่วยผมทวงความยุติธรรมให้ภรรยา” สามี ร้อง ปวีณา ช่วยตามหาความจริงสาเหตุการตาย ของภรรยา หลังคลอดลูกได้เพียง 3 วัน

สามี เข้าร้องทุกข์ต่อ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ ช่วยตามหาความจริง ภรรยาเสียชีวิต หลังคลอดลูกสาวได้เพียง 3 วัน

สามี เล่าว่า ภรรยา อายุ 28 ปี ตั้งครรภ์ลูกคนที่ 2 ได้เข้าฝากครรภ์กับคลินิกแพทย์ของรพ.แห่งหนึ่งใน จ.ขอนแก่น และไปพบแพทย์ตามนัดทุกครั้ง ทีแรกตั้งใจจะคลอดเอง แต่พออัลตร้าซาวด์รู้ว่าลูกตัวใหญ่จึงขอผ่าคลอดวันที่ 26 มี.ค. แต่แพทย์บอกว่าไม่ว่าง และไม่มีคิว และกำหนดคลอดวันที่ 4 เม.ย.67 พอวันที่ 3 เม.ย.67 ตนจึงได้พาภรรยาเข้าแอดมิดที่โรงพยาบาลตามที่แพทย์นัดเพื่อเตรียมตัวรอคลอด

การคลอดเป็นไปอย่างยากลำบาก

สามี เล่าให้มูลนิธิปวีณาฯ ฟัง ไล่ตามช่วงเวลาที่เกิดขึ้น

เริ่มจากวันคลอด เมื่อไปถึงโรงพยาบาล แพทย์ได้ทำการกระตุ้นช่องคลอดให้ภรรยาแต่ช่องคลอดเปิดแค่ 1 ซม. และอาการยังทรงตัว จึงรอแพทย์ที่ฝากพิเศษซึ่งมาตรวจในช่วงค่ำ

กระทั่งเวลา 19.00 น. ภรรยาเริ่มมีอาการปวดท้องรุนแรงขึ้นเจ้าหน้าที่ได้พาเข้าไปในห้องคลอด

ต่อมาช่วง 20.00 น. แพทย์ได้เข็นลูกออกมา เป็นเพศหญิงน้ำหนัก 3,400 กรัม พาไปที่ห้องผู้ป่วยวิกฤติเด็ก จากนั้นแพทย์ได้แจ้งกับตนและทางญาติๆ ว่าเด็กมีอาการหายใจผิดปกติ ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ เนื่องจากเด็กหยุดหายใจขณะคลอดไป 5-6 นาที

ส่วนภรรยาตกเลือดไปประมาณ 4 ลิตร และหาสาเหตุไม่ได้ จึงต้องทำการผ่าตัดเอามดลูกออกแล้วใช้ผ้ากอซอุดเลือดไว้ในช่องท้องของภรรยา

แพทย์ยังบอกอีกว่า ภรรยามีภาวะหัวใจโตแทรกซ้อนด้วย

ต่อมาวันที่ 4 เม.ย. ตนและญาติได้เข้าเยี่ยมอาการของภรรยาช่วงเที่ยง ภรรยามีภาวะน้ำท่วมปอด และไตวาย ทางโรงพยาบาลได้ย้ายภรรยาไปอีกตึก

ช่วงแรกที่ย้ายไปทางโรงพยาบาลบอกว่าอาการภรรยาดีขึ้น กรดในเลือดก็เริ่มดีขึ้น ออกซิเจนก็เริ่มดีขึ้น

วันที่ 5 เม.ย. ช่วงเที่ยง ทางโรงพยาบาลแจ้งว่า จะผ่าตัดภรรยาอีกครั้ง เพื่อเช็กดูว่าเลือดหยุดหรือยัง

ซึ่งผลคือ เลือดหยุดแล้ว แพทย์เอาผ้ากอซออกจากช่องท้องภรรยาและทำการเย็บปกติ

แต่ตกดึกประมาณ 21.00 น. ภรรยาก็เริ่มมีภาวะหัวใจเต้นเร็ว

สามี บอกว่า ตอนนั้นตนสังเกตเห็นแพทย์หลายคนรีบมาดูอาการภรรยาและทำการกระตุ้นหัวใจ

แต่ยังไม่มีใครอัปเดตอาการภรรยากับเขา จึงคิดว่า อาการอาจไม่น่าไม่ห่วง

แต่วันที่ 6 เม.ย. ช่วง 10.00 น. แพทย์แจ้งว่า ภรรยามีภาวะแทรกซ้อนหลายอย่าง อยู่ระหว่างกระตุ้นหัวใจ

กระทั่งเวลาประมาณ 11.00 น. แพทย์แจ้งว่า ภรรยาเสียชีวิตแล้ว 

วันที่ 7 เม.ย. หลังจากรับศพภรรยากลับมาตั้งที่บ้าน

แพทย์ที่ทำคลอดรวมทั้งตัวแทนของ ผอ.โรงพยาบาล เดินทางมาร่วมงาน มอบเงินช่วยเหลือ 5,000 บาท และบอกว่าตลอดการรักษาไม่มีค่าใช้จ่ายอะไร

จากนั้นตนได้ไปเขียนคำร้องขอรับสิทธิเยียวยา เจ้าหน้าที่แจ้งว่า กรณีที่ภรรยาเสียชีวิตทาง โรงพยาบาลได้อนุเคราะห์ค่ารักษาไป 200,00 บาท แต่ยังมีค่ารักษาเพิ่มเติมที่ค้างจ่ายอีก 50,000 บาท

“ตนคิดว่าไม่เป็นธรรม ตอนแรกไม่ได้ติดใจอะไร เพราะ โรงพยาบาลบอกว่า ไม่มีค่าใช้จ่ายอะไรแล้ว และจะชดใช้ให้ แต่พอมาวันนี้ไม่มีการเยียวยาอะไร

ส่วนลูกที่เพิ่งคลอดยังรักษาอยู่ในโรงพยาบาล อาการวิกฤติ ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ

แพทย์บอกว่า อาจจะหูหนวก ตาบอด เป็นผู้ป่วยติดเตียง หรืออาจเสียชีวิตได้ และไม่รู้ว่าจะมีค่าใช้จ่ายในการรักษาอีกมากแค่ไหน

จึงตัดสินใจมาร้องทุกมูลนิธิปวีณาฯ เพื่อช่วยหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงของภรรยาเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม และช่วยลูกที่ยังอาการวิกฤติอยู่ที่โรงพยาบาลด้วย”

นี่คือความอัดอั้นตันใจที่ สามีผู้สูญเสียภรรยา และ ทุกข์ใจ เพราะลูกที่เพิ่งคลอด อาการวิกฤตหนัก

เมื่อ นางปวีณา ฟังเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ได้ติดต่อไปยัง พ.ต.อ.ยศวัจน์ แก้วสืบธัญนิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น เพื่อประสานให้สามี และ พี่สาว ผู้เสียชีวิต เข้าพบ แจ้งความประสงค์ขอนำศพส่งชันสูตรที่สถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ

และประสาน พ.ต.อ.ชุมพล บัวชุม ผกก.สภ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น ช่วยประสานรถนำศพจากบ้านผู้ตาย อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น ส่งมาชันสูตรที่สถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริง

การดำเนินการตามหา สาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริง เริ่มต้นทันที หลัง นางปวีณา ประสานเสร็จ

11 เมษายน 2567

ศพผู้เสียชีวิตถูกเคลื่อนมายัง สถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ เพื่อชันสูตรพลิกศพ

นอกจากนี้นางปวีณา ยังได้ประสาน สสจ.ขอนแก่น ให้ครอบครัวผู้เสียชีวิตเข้าพบ และขอให้ตั้งกรรมการตรวจสอบการเสียชีวิตของแม่เด็กที่ รพ. และติดตามอาการของทารกน้อย ที่เพิ่งคลอดให้ผ่านภาวะวิกฤติไปได้

ด้านการชันสูตรพลิกศพเสร็จสิ้น และ นำศพเคลื่อนกลับไปที่บ้าน จังหวัดขอนแก่น ในวันที่ 13 เมษายน 2567

โดย นัด สามีผู้เสียชีวิตเข้าพบ สสจ. ที่ทำการสาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น วันที่ 17 เม.ย. เวลา 10:00 น. เพื่อตรวจสอบสาเหตุการเสียชีวตหลังคลอดลูกสาวของภรรยา

อีจัน ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิตด้วยนะคะ

ขอให้ความจริงปรากำอย่างกระจ่าง และขอให้ลูกสาวตัวน้อย หายดี และแข็งแรงโดยเร็ว