
กระทรวงสาธารณสุข เดินหน้าคุมเข้ม สุ่มตรวจร้านกัญชาทั่วกรุงเทพ
ช่วงบ่ายวานนี้ (22 มิ.ย.68) กระทรวงสาธารณสุข บูรณาการร่วมกับ กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) , สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เปิดปฏิบัติการสุ่มตรวจจัดระเบียบร้านกัญชา ลงพื้นที่ 20 จุด ทั่วพื้นที่กรุงเทพฯ เพื่อกวาดล้างสารยาเสพติดประเภทวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทที่ผิดระเบียบให้หมดสิ้น พร้อมจัดระเบียบร้านกัญชาให้อยู่ภายใต้ข้อกฎหมาย

โดย นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เผยว่า ตามนโยบายคำสั่งนายกรัฐมนตรี ได้กำชับให้มีการกวาดล้างตัวยาวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท เช่นสารโรฮิปนอล หรือ แอมพล่าโซแลม ยาวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทที่มักนำมาใช้ในทางการแพทย์ รวมไปถึงสารตั้งต้นสารยาเสพติด เช่น กระท่อมและกัญชา จึงได้เปิดปฏิบัติการสุ่มตรวจจัดระเบียบร้านกัญชา 20 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ ให้ดำเนินการจัดให้อยู่ภายใต้กฎข้อบังคับกฎหมาย
ส่วนปฏิบัติการในครั้งนี้จะเกี่ยวข้องกับการเมืองหรือไม่นั้น นายสมศักดิ์ เผยว่า เป็นการบุกค้นร้านขายกัญชา ไม่เกี่ยวพรรคภูมิใจไทยที่ถอนตัวจากพรรคร่วมรัฐบาลอย่างแน่นอน เป็นเพียงแค่การทำตามนโยบาย ซึ่งมีสารเสพติดหลายชนิดที่ต้องจัดระเบียบให้เป็นสัดส่วน

ตนขอยืนยันว่า ปฏิบัติการในวันนี้ไม่เกี่ยวข้องกับกรณีที่พรรคภูมิใจไทยถอนตัวจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล แต่เพราะมีสารเสพติดหลายชนิดที่ต้องไปดูและจัดระเบียบให้เรียบร้อยว่าอะไรเป็นสารเสพติด อะไรเป็นวัตถุออกฤทธิ์ หรืออะไรที่สามารถค้าขายได้ก็ควรทำให้เป็นสัดส่วน รวมถึงดูเรื่องระเบียบและกฎเกณฑ์ เพื่อรวบรวมและนำมาปรับแก้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ส่วนกระทรวงสาธารณสุข มีองค์การอาหารและยา (อย.) และกรมแพทย์แผนไทยเป็นหลัก ซึ่งพยายามจะปกป้องผู้ประกอบการให้สามารถทำมาหากินได้ แต่จะทำได้แค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับข้อมูลที่ได้มา
ต่อมา นายกองตรี ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ที่ปรึกษาประจำกระทรวงสาธารณสุข ได้นำชุดปฏิบัติการลงพื้นที่แหล่งท่องเที่ยว ย่านสุขุมวิท 33 เพื่อดำเนินการตรวจสอบร้านกัญชาตามนโยบายดังกล่าว โดย นายกองตรี ดร.ธนกฤต เผยว่า ร้านกัญชาทั้งหมด 3 ร้าน ขอใบอนุญาตอย่างถูกต้องตามกฎหมายทั้ง 3 ร้าน แต่พบว่า มีความผิดแอบนำเจลลี่ผสมกัญชา นำมาจำหน่ายภายในร้าน เข้าข่ายความผิดตามพ.ร.บ.อย.และ จำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษปรับเป็นเงินจำนวน 30,000 บาท
นอกจากนี้ ทางเจ้าหน้าที่ยังต้องนำ เจลลี่ผสมกัญชาดังกล่าวนำไปเข้าห้องแลปเพื่อตรวจหาสาร THC ว่ามีค่าเกิน 2.0 หรือไม่ หากพบว่าค่าเกินกว่าที่กำหนดก็จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายอีกหนึ่งข้อหา

ทั้งนี้ ยังพบว่า หนึ่งในร้านดังกล่าวไม่ได้ทำเรื่องส่งให้กับทางกรมแพทย์แผนไทยฯ ในเรื่องว่ามีบุคคลใดเข้ามาใช้บริการกับทางร้าน ซึ่งเป็นกฎหมายที่ควบคุมไม่ให้เยาวชนเข้ามายุ่งเกี่ยวกับสิ่งของมึนเมา หรือสารตั้งต้นยาเสพติด จึงได้สั่งการให้ทำการปิดชั่วคราวเป็นระยะเวลา 10 วัน จนกว่าจะดำเนินการขออนุญาตและส่งรายงานให้เรียบร้อย จึงจะสามารถกลับมาเปิดใหม่ได้
นอกจากนี้ นายสมศักดิ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข อยากได้กำชับให้มีการตรวจตราร้านกัญชาทั่วกรุงเทพมหานคร ทุกๆ 1 สัปดาห์ รวมไปถึงต่างจังหวัด ซึ่งจะมีการวางมาตรการแบบนี้เข้มข้นมากขึ้น เพื่อให้ร้านกัญชากลับเข้ามาอยู่ภายใต้กฎระเบียบอย่างถูกต้องตามกฎหมาย










