คดีอาม่าฮวย ศาลฎีกาพิพากษายืนจำคุก 12 ปี ลูกสาว ฐานลักทรัพย์บุพการี 24 ล้าน

คดีอาม่าฮวย ฟ้องลูกสาวลักทรัพย์ ถอนเงินจากธนาคาร 24 ล้าน ล่าสุด ศาลฎีกาพิพากษายืน จำคุก 12 ปี

จำคดี อาม่าฮวย ได้ไหมคะ?
ย้อนกลับไปเมื่อประมาณปี 2562 นางฮวย ศรีวิรัตน์ หรือ อาม่าฮวย ในตอนนั้น อาม่า อายุ 82 ปี ได้เข้าร้องขอความช่วยเหลือกับ ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช หลังถูก นางมาวดี ศรีวิรัตน์ ลูกสาวแท้ๆ ปลอมเอกสารเปลี่ยนเงื่อนไขการเบิกถอนเงิน จากการลงลายมือชื่อ เป็นการพิมพ์ลายนิ้วมือ โดยร่วมมือกับพนักงานธนาคาร เบิกถอนเงินออกจากบัญชีธนาคารหลายบัญชี และเงินในกองทุนไปอีกเป็นจำนวนมากต่อมา อาม่าฮวย มารู้ทีหลังว่าเงินในบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง หายไป 24 ล้านบาท และเมื่อตรวจสอบไปยังบัญชีอื่น ก็พบว่าเงินในบัญชีธนาคารอีกแห่ง หายไปอีก 2 บัญชี เป็นเงิน 111 ล้านบาท และ 97 ล้านบาท และเงินในกองทุนเปิดของบริษัทหลักทรัพย์ หายไปอีก 30 ล้านบาท รวมเป็นเงินที่หายไปกว่า 260 ล้านบาทแต่เรื่องนี้ นางมาวดี ลูกสาวของอาม่าฮวย เธอก็ยืนยันว่า เงินที่หายไปไม่ใช่การลักทรัพย์ แต่เป็นการรับทำธุรกรรมทางการเงินแทน เนื่องจากอาม่าฮวยป่วย และเรื่องนี้ก็ได้รับความยินยอมจากอาม่าฮวย ผู้เป็นแม่ของตนเองแล้ว ส่วนเงินในบัญชี นางมาวดี ยืนยันว่ามีแค่ประมาณ 120 ล้านเท่านั้น ซึ่งก็ได้นำเงินดังกล่าวไปใช้รักษาแม่ และแบ่งกับพี่ชายเป็นมรดก

เรื่องที่เกิดขึ้น ในตอนนั้น ทางดดี ถูกแยกออกเป็น 2 สำนวนคดีค่ะ โดยคดีแรก คือ คดีที่นางมาวดี ถอนเงินในบัญชี อาม่าฮวย 24 ล้านบาท เข้าบัญชีตัวเอง ไปซื้อกองทุนและประกันในนามของตัวเอง และลงทุนรีสอร์ต ซึ่งศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาจำคุก 12 ปี โดยไม่รอลงอาญาส่วนคดีเกี่ยวข้องกับการปลอมแปลงเอกสารธนาคาร ทยอยเบิกถอนเงินหลายครั้ง รวมความเสียหาย 238 ล้านบาท คดีนี้ศาลอาญาพระโขนง พิพากษาว่ามีความผิดจริงเช่นกัน สั่งจำคุก นางมาวดี ฐานลักทรัพย์ และปลอมเอกสาร รวม 88 กระทง เป็นเวลา 176 ปี จำคุกจริง 20 ปี ตามกฎหมาย และให้ชดใช้เงินคืนกว่า 123 ล้านบาทส่วนพนักงานธนาคาร อีก 4 คน ศาลพิพากษาให้จำคุกจำเลยที่ 4 เพียงคนเดียว คือ นางทิพย์ภาพร แดงสวัสดิ์ ที่มีส่วนในการประทับลายนิ้วมือของอาม่าฮวย ให้จำคุก 2 ปี, ส่วนจำเลยที่เหลือ ยังไม่มีพยานหลักฐานชัดเจน ให้ยกฟ้องจากจุดเริ่มต้นของเหตุการณ์ มาจนถึงวันนี้ (3 เม.ย. 67) สู้กันมาจนถึงชั้นศาลฎีกา และถึงบทสรุป!!!

ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช เดินทางมาฟังคำพิพากษาศาลฎีกาในคดีที่ อาม่าฮวย เป็นโจทก์ ฟ้อง นางนางฐินีย์ มณีนนทเศรษฐ์ หรือ นางมาวดี ศรีวิรัตน์ ปมลักเงิน อาม่าฮวย จากธนาคารแห่งหนึ่ง จำนวน 24,757,400 บาท โดยคดีนี้ศาลชั้นต้น สั่งจำคุกนางมาวดี 12 ปี จำเลยได้ยื่นอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น

จากนั้นทนายจำเลย จึงได้ยื่นฎีกาและขอประกันตัว ศาลอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวระหว่างฎีกา ตีราคาประกัน 2.4 ล้านบาท โดยไม่ได้กำหนดเงื่อนไข เมื่อวันที่ 1 พ.ย. 2565

ทนายอนันต์ชัย กล่าวว่า จำเลยขอต่อสู้ในข้อกฎหมาย ประเด็นว่าคดีลักทรัพย์บุพการี เป็นคดียอมความได้ รวมถึงจะต้องร้องทุกข์ภายใน 3 เดือน ซึ่งทางอาม่าก็ร้องทุกข์ภายใน 3 เดือน คดีจึงไม่ขาดอายุความ ศาลฎีกาจึงพิพากษายืนจำคุกนางมาดี 12 ปี โดยไม่รอลงอาญา และยังถือเป็นบรรทัดฐานใหม่ ที่ไม่เคยมีฎีกามาก่อนในคดีเกี่ยวกับการลักทรัพย์บุพการี ที่จะต้องร้องทุกข์ภายใน 3 เดือน

ซึ่งก็ได้แจ้งผลคำพิพากษาให้แก่นางฮวยทราบแล้ว และนางฮวยดีใจมาก และไม่กังวลใดๆ