จากกรณีที่วานนี้ 5 ก.พ. 67 มีรายงานข่าวชายพิการใจสู้ โยกสามล้อคู่ใจเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อมายืนยันตัวตนกับกรมบัญชีกลาง หลังถูกตัดสิทธิรับเบี้ยความพิการ เนื่องจากหน่วยงานในพื้นที่ไม่สามารถดำเนินการให้ได้นั้น
ก่อนที่ในเวลาต่อมากรมบัญชีกลางรับทราบเรื่องดังกล่าว ก่อนจะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยาเข้าให้ความช่วยเหลือ เนื่องจากคุณลุงพิการอยู่ระหว่างเดินทางผ่าน แต่คุณลุงปฏิเสธรับความช่วยเหลือพร้อมยืนยันจะเดินทางเข้ามาที่กรมบัญชีกลาง กรุงเทพฯ ตามที่ตั้งใจ
ล่าสุด กรมบัญชีกลาง ได้ชี้แจงถึงกรณีดังกล่าว โดย นางสาวทิวาพร ผาสุข รองอธิบดีกรมบัญชีกลาง ในฐานะโฆษกกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า กรมบัญชีกลางขอชี้แจงเพิ่มเติม หลังจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันเจรจากับ นายมลฑล เพ็ชรสังข์ เพื่อหาแนวทางให้การช่วยเหลือร่วมกันในการอำนวยความสะดวกการเดินทาง การทำบัตรประจำตัวประชาชนและบัตรประจำตัวคนพิการที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อดำเนินการลงทะเบียนและยื่นขอรับเงินเบี้ย ความพิการกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตามทะเบียนบ้าน โดยจะได้รับเงินเบี้ยความพิการในเดือนถัดไป แต่นายมลฑลยังไม่ประสงค์รับการช่วยเหลือดังกล่าว ซึ่งจากการสอบข้อเท็จจริง สรุปได้ดังนี้
ขอบคุณภาพจาก : รายการ เรื่องเล่าเช้านี้
1. นายมลฑล เพ็ชรสังข์ เป็นผู้พิการที่ได้รับสิทธิเบี้ยความพิการ ตั้งแต่เดือนมกราคม – กันยายน 2563 และถูกระงับการรับเบี้ยความพิการตั้งแต่เดือนตุลาคม 2563 เนื่องจากผลการตรวจสอบข้อมูลจากกรมการปกครองประจำเดือนตุลาคม 2563 พบว่า นายมลฑล มีรายชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านกลาง (ไม่สามารถทำนิติกรรมใด ๆ ได้) โดยระบบบูรณาการฐานข้อมูลสวัสดิการสังคม (e – Social Welfare) ของกรมบัญชีกลางได้ทำการระงับการจ่ายโดยอัตโนมัติ ในเดือนตุลาคม 2563 พร้อมทั้งแจ้งข้อมูลดังกล่าวผ่านระบบให้แก่กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น
2. กรมบัญชีกลางทำหน้าที่ในการเบิกจ่ายและโอนเงินให้แก่ผู้มีสิทธิรับเงินเบี้ยความพิการแทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตามข้อมูลที่ได้รับจากกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น โดยตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2563 จนถึงปัจจุบัน กรมบัญชีกลางไม่ได้รับข้อมูลการขอเบิกเงินเบี้ยความพิการรายนายมลฑล จากกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นแต่อย่างใด” โฆษกกรมบัญชีกลาง กล่าว
นางสาวทิวาพร ผาสุข รองอธิบดีกรมบัญชีกลาง
ด้านโฆษกกรมบัญชีกลาง ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยหลักเกณฑ์การจ่ายเงินเบี้ยความพิการให้คนพิการขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2559 กำหนดให้คนพิการ ตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมคุณภาพชีวิตคนพิการลงทะเบียนและยื่นขอรับเงินเบี้ยความพิการด้วยตนเองต่อองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ตนมีภูมิลำเนา ณ ที่ทำการองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรือสถานที่ที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นกำหนด และมีสิทธิรับเงินเบี้ยความพิการในเดือนถัดไป โดยมีหลักฐานพร้อมสำเนาที่ผู้ขอรับเงินเบี้ยความพิการลงลายมือชื่อรับรองความถูกต้อง ดังต่อไปนี้ (1) บัตรประจำตัวคนพิการ (2) ทะเบียนบ้าน (3) สมุดบัญชีเงินฝากธนาคาร
อย่างไรก็ตาม คุณลุงพิการยังคงตั้งใจที่จะเดินทางเข้ากรุงเทพมหานคร เพื่อมาติดต่อยื่นเรื่องที่กรมบัญชีกลางด้วยตัวเองให้ได้ โดยเมื่อคืนที่ผ่านมา 5 ก.พ. 67 ได้แวะพักที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งคาดว่าจะเดินทางถึงกรุงเทพฯ ในวันที่ 6 ก.พ. นี้