
เป็นที่ถูกพูดถึงในโซเชียลไม่น้อย กับกรณีของ ทราย สิรณัฐ สก๊อต หรือเจ้าของฉายา มนุษย์เงือก ที่ได้ประกาศยุติบทบาท ที่ปรึกษาอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช หลังได้รับตำแหน่งเมื่อวันที่ 2 มกราคม 2567 และทำหน้าที่ในการสื่อสารทำความเข้าใจกับนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ ในการปฏิบัติตามกฎระเบียบของการท่องเที่ยวทางทะเลภาคใต้ในพื้นที่อุทยานฯ


โดยทราย ได้โพสต์รูปภาพข้อความที่ส่งหา นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช พร้อมระบุว่า
“ผมเลือกที่เสียสละงานที่ผมรักกับตำแหน่งของผม เพื่อโอกาสที่จะสะท้อนเรื่องจริงของปัญหาทะเลทางภาคใต้ เหนือกว่าตำแหน่งผมคือความรักที่ผมมีต่อทะเล ขอบคุณสำหรับทุกประสบการณ์และผมเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่เสมอ…ผมเดินต่อครับ”


ซึ่งที่ผ่านมา ทราย มีเฟซบุ๊กเพจ “ทราย – Merman” และ TikTok “ทราย มนุษย์เงือก” เป็นอีกช่องทางในโลกออนไลน์เพื่อสื่อสารการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ทำตามกฎระเบียบของอุทยานแห่งชาติทางทะเล และยังสะท้อนให้เห็นปัญหาการท่องเที่ยวทะเลไทยทางภาคใต้มาโดยตลอด
กระทั่งก่อนที่ทรายจะประกาศยุติบทบาท เขาได้โพสต์คลิประหว่างเข้าตักเตือนและเจรจากับผู้ประกอบการเรือท่องเที่ยว ที่พาชาวต่างชาติเข้ามาในเขตปิดพื้นที่เพื่อฟื้นฟูปะการังและทิ้งสมอเรือในแนวปะการังด้วย จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์ มีทั้งคนที่เข้าใจและเห็นด้วยกับการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ แต่ก็มีมุมของทางผู้ประกอบการเข้ามาแสดงความคิดเห็นด้วยในลักษณะว่าทางผู้ประกอบการเองก็พยายามสอดส่องดูแลนักท่องเที่ยว และปฏิบัติตามกฎระเบียบ แต่การที่ถูกเจ้าหน้าที่เข้ามาตักเตือน เรียกเรือกลับหาด นั่นก็ทำให้ผู้ประกอบได้รับความเสียหายสูญเสียรายได้เช่นกัน นอกจากนี้ยังมีบางความคิดเห็น ต่อว่าทราย สก๊อต ว่าเข้ามาทำคอนเทนต์ของตัวเองในการตักเตือนแบบสุดโต่งเกินไป









หลังจากที่ ทราย ประกาศยุติบทบาทที่ปรึกษาอธิบดีกรมอุทยานฯ เข้าก็ได้โพสต์คลิปสุดท้ายในฐานะเจ้าหน้าที่ กับการจัดการนักท่องเที่ยวที่เหยียดผิวต่อการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่และไม่ให้เกียรติประเทศไทย
“คลิปสุดท้ายผมเอาลงในฐานะที่เป็นเจ้าหน้าที่ การจัดการกับ นทท ที่เหยียดผิวเราผมลงเพื่อส่งกำลังใจให้เจ้าหน้าที่และเตือนเสมอว่าคุณทำงานที่สำคัญอย่าให้ใครมาเหยียบย่ำหรือเหยียดผิวเราโดยเฉพาะในฐานะที่เราเป็นเจ้าของประเทศเเที่ยวค้าอาจจะมาเที่ยวทรัพยากรประเทศเราแต่นั้นไม่ได้หมายความว่าเค้ามองข้ามคนไทยได้สิ่งที่เกิดขึ้นในคลิปก็คือว่าทรายได้ไปเจอนักท่องเที่ยวในเรือที่เรือเค้าเสียแต่ก่อนหน้าที่เราจะเข้าไปถึงเรือผมเห็นว่าตัวผู้ชายเค้าหันไปมองแฟนเค้าแล้วก็พูด “หนีเห่า” แล้วก็หัวเราะทรายเลยใช้จังหวะที่เรือเค้าเสียไปตักเตือนให้เขามีมารยาทต่อผมแล้วเจ้าหน้าที่มากกว่านี้ซึ่งตอนตักเตือนเห็นว่าเค้าไม่สำนึกผิดแล้วก็ ไม่ค่อยนึกถึงผลของสิ่งที่เขาพูดหรือทำ ทรายเลยให้เรือของเขากลับไปที่ฝั่งเพื่อเราได้คุยกันแล้วทำให้เขาเข้าใจว่าการมาเที่ยวประเทศไทยหรือประเทศในทวีปเอเชียเค้าไม่สามารถทำตัวเหยียดผิวคนเอเชียได้แบบนี้…คนไทยบางคนเองอาจจะไแต่ม่นึกถึงมุมนี้แต่การที่เค้ามองว่าเราเป็นคนจีนในสมัยนี้ที่โลกเรามีอินเตอร์เน็ตแล้วเขาสามารถจองตั๋วมาเที่ยวประเทศไทยได้แต่ทำท่าเหมือนเค้าไม่รู้ว่าประเทศไทยไม่ใช่ประเทศเมืองจีนแล้วเราไม่ได้พูดภาษาจีนนั่นน่ะคือความที่เขามองข้ามบุคคลไทยแล้วก็เหยียดผิวของเรา เพราะเขาคิดว่าพวกเราคนเอเชียเราก็เหมือนกันหมด + การที่เขาคิดว่าจะเที่ยวและทำอะไรก็ได้โดยไม่ให้เกียรติเราทำให้เขาผิดหลายด้าน”






ขณะที่ นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช เผยถึงกรณีนี้ว่า ยังไม่ได้ปลดทราย สก๊อต ออกจากตำแหน่งที่ปรึกษาฯ ที่ผ่านมาได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้ประกอบการเกี่ยวกับพฤติกรรมของทราย จึงได้สอบถามหัวหน้าอุทยานแห่งชาติทางทะเลที่ทรายปฏิบัติหน้าที่อยู่ ได้รับคำตอบว่าทรายมีความตั้งใจทำหน้าที่ดูแลทรัพยากรธรรมชาติ แต่ก็มีเรื่องการทำคอนเทนต์ในโซเชียลของตัวเองมากเกินไป จึงได้สั่งการให้หัวหน้าอุทยานแห่งชาติทางทะเลในแต่ละพื้นที่ที่ทรายทำงาน หากจะมีการถ่ายคอนเทนต์ ให้หัวหน้าอุทยานฯ แต่ละพื้นที่ตรวจสอบเนื้อหานั้นก่อนว่ามีความเหมาะสมหรือไม่ ซึ่งก็ได้ตักเตือนทรายไปแล้ว เข้าใจดีว่ามีความตั้งใจในการทำงานและรักษาสิ่งแวดล้อม
จากกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์ จนนำไปสู่การยุติบทบาทของทรายนี้เอง ทำให้เกิดแฮชแท็ก #Saveทรายสก๊อต และ #คืนทรายให้ทะเล เพื่อให้กำลังใจและสนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่ตามความถูกต้องของทราย