คืบหน้าคดีนักธุรกิจจีน ตู้ห่าว ที่เกี่ยวพันกับธุรกิจสีเทามากมายให้หลังจากเมื่อวานนี้ (24 ธ.ค.65) ชุดสืบสวนนครบาล ได้จับกุมตัว “พ.ต.อ.หญิง” ภรรยานายตู้ห่าว ตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ข้อหา ฟอกเงินได้แล้ว ในคอนโดมิเนียมหรู ย่านถ.เจริญกรุง ก่อนจะนำตัวส่ง สน.ยานนาวา เพื่อดำเนินคดีต่อไป
วันนี้ (25 ธ.ค.65) เวลา 12.45 น. ตำรวจ สน.ยานนาวา ควบคุมตัว พ.ต.อ.หญิง วัทนารีย์ ซึ่งเป็นภรรยาของนายชัยณัฐร์ กรณ์ชาญานันท์ หรือตู้ห่าว ผู้ต้องหาฟอกเงิน มาสอบปากคำที่ สำนักงานอัยการสูงสุด อาคารถนนบรมราชชนนี ย่านตลิ่งชัน
🎬 นาที “ตู้ห่าว” มอบตัว ปัดไม่ยุ่งยาเสพติดต่อมาเวลา 13.20 น. ตำรวจ สน.ปทุมวัน ได้ควบคุมตัว นางพัชรินทร์ หุ้นส่วนคนสนิทของนายตู้ห่าว เข้ามาที่สำนักงานอัยการสูงสุด
ส่วนผู้ต้องหาอีก 6 คน มีการเบิกตัวมาจาก สน.ต่าง ๆ ในพื้นที่นครบาล 6 และนำตัวมาสอบปากคำด้วยเช่นกัน โดยมีรายงานว่าทั้ง 8 คน ให้การปฏิเสธ
การสอบปากคำในวันนี้เป็นการสอบปากคำโดยคณะทำงานชุดใหญ่ ซึ่งมีอัยการเป็นหัวหน้าชุดทำงาน มีพนักงานสอบสวนของกองบังคับการตำรวจนครบาล 6 นครบาล และตำรวจฝ่ายสอบสวน กองบังคับการตำรวจนครบาล ร่วมบันทึกผลสอบ
สำหรับตัวผู้ต้องหาที่ถูกควบคุมตัวในวันนี้จะเป็นการสอบปากคำรายบุคคล แยกออกเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ ข้อหาฟอกเงิน จำนวน 5 คน ประกอบด้วย พันตำรวจเอกหญิงวัทนารีย์, นายฉัตรชัย, นายณัฐวุฒิ, นายสิทธิกร และนางสุรัสวดี
ส่วนข้อหาสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด และได้มีการกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกันโดยมีลักษณะเป็นการกระทำขององค์กรอาชญากรรม สนับสนุนหรือช่วยเหลือผู้กระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดก่อนหรือขณะกระทำความผิด จัดหาหรือให้เงินหรือทรัพย์สิน ยานพาหนะ สถานที่ หรือวัตถุใด ๆ เพื่อประโยชน์หรือให้ความสะดวกแก่การกระทำความผิด หรือเพื่อมิให้ผู้กระทำความผิดถูกลงโทษ ร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ โดยสมคบกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดร้ายแรงอันเกี่ยวกับอาชญากรรมข้ามชาติและมีส่วนร่วมกระทำการใด ๆ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อมในกิจกรรมหรือการดำเนินการขององค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ โดยรู้ถึงวัตถุประสงค์และการดำเนินกิจกรรมหรือโดยรู้ถึงเจตนาที่จะกระทำความผิดร้ายแรงขององค์กรอาชญากรรมข้ามชาติตังกล่าว ฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ให้มีการสมคบกันนั้น จำนวน 3 คน ประกอบด้วย นางพัชรินทร์, นายสิทธิพงษ์ และนายสิทธิไพบูลย์