ไข้เลือดออกระบาดหนัก ปี 67 เป็นซ้ำสองเสี่ยงเสียชีวิต – พบไวรัสซิกาอยู่ในอสุจินาน 3 เดือน 

กรมควบคุมโรคเตือน ปี 2567 ไข้เลือดออกระบาดหนัก คาดมีผู้ป่วยกว่า 2.7 แสนราย ส่วนมากพบในผู้ใหญ่ ชี้หากเป็นซ้ำสองเสี่ยงเสียชีวิต รายงานเผย พบไวรัสซิกาอยู่ในอสุจิได้นาน 3 เดือน

สุขภาพยังเป็นสิ่งที่เราต้องระวัง และหมั่นดูแลตัวเองอยู่เสมอ ยิ่งในสถานการณ์ปัจจุบันที่มีการระบาดของโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ มากมาย ทั้ง ไข้หวัด เชื้อไวรัสต่างๆ หรือแม้กระทั่ง โควิด 19 ที่ถูกปรับให้เป็นโรคประจำถิ่นแล้วก็ตาม แต่การแพร่ระบาดนั้นก็ยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง 

โดยก่อนหน้านี้ กรมควบคุมโรค พึ่งจะออกมาเตือนประชาชนถึง 3 โรค ที่คาดว่าจะระบาดอย่างแน่นอนในปี 2567 นี้ รวมถึงอีก 12 โรคที่ต้องเฝ้าระวัง โดย 3 โรคที่จะมีการระบาดแน่ๆ ได้แก่ โควิด 19, ไข้หวัดใหญ่ และไข้เลือดออก 

ล่าสุด นพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร อธิบดีกรมควบคุมโรค ได้ออกมาเตือนประชาชนว่า ปี 2567 นี้ โรคไข้เลือดออก จะมีการระบาดมากกว่าปี 2566 อย่างแน่นอน โดยมีการประมาณการณ์ตัวเลขผู้ป่วยอยู่ที่ ราว 2.7 แสนราย และเสียชีวิต 280 ราย ซึ่งการระบาดนั้นจะเริ่มช่วงเดือนเมษายน และตามธรรมชาติของโรคไข้เลือดออกมักจะระบาด 2 ปีติดต่อกัน 

ส่วนอัตราการเสียชีวิตนั้น เดิมทีจะพบมากในเด็ก แต่ปัจจุบันพบว่าผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มผู้ใหญ่ที่มีโรคประจำตัว ทำให้ตอนนี้โรคไข้เลือดออกกลายเป็นโรคที่เกิดได้ทุกกลุ่มทุกวัยแล้ว สำหรับการติดเชื้อในครั้งแรกนั้นอาการอาจไม่รุนแรงมาก แต่หากติดเชื้อซ้ำสองอาการจะยิ่งรุนแรงขึ้น เสี่ยงต่อการเสียชีวิตได้ โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น ความดัน และ เบาหวาน 

อย่างไรก็ตาม พญ.จุไร วงศ์สวัสดิ์ นายแพทย์ผู้ทรงคุณวุฒิ กรมควบคุมโรค อธิบายว่า เหตุที่ทำให้การติดเชื้อไข้เลือดออกซ้ำได้นั้นก็เป็นเพราะ โรคไข้เลือดออกมีด้วยกันทั้งหมด 4 สายพันธุ์ ทำให้ในช่วงชีวิตของเรามีโอกาสติดเชื้อไข้เลือดออกได้ 4 ครั้ง ด้วยกัน ส่วนการป้องกันนั้นทางกรมควบคุมโรค แนะนำให้ป้องกันการโดนยุงกัด สวมเสื้อผ้าแขนยาว ใช้ยาทากันยุง และหากมีอาการป่วย มีไข้สูง ควรรีบไปพบแพทย์ในทันที 

นอกจากโรคไข้เลือดออกที่มียุงลายเป็นพาหะแล้ว ไวรัสซิกา ถือเป็นอีกโรคหนึ่งที่มีอันตรายและมียุงเป็นพาหะเช่นกัน แต่จากผลรายงานล่าสุดระบุว่า ที่ประเทศในยุโรปมีการติดเชื้อไวรัสซิกาโดยไม่ได้เกิดจากยุงเป็นพาหะ แต่เกิดจากการมีเพศสัมพันธ์ 

โดยเชื้อไวรัสซิกานั้นอยู่ในอสุจิ ซึ่งมีอายุอยู่ได้ราว 3 เดือน หรือมากกว่านั้น ทำให้แพทย์ต้องออกมาเตือนว่า หลังหายจากการติดเชื้อไวรัสซินั้น ควรงดเว้นการมีเพศสัมพันธ์ไปสักระยะหนึ่ง เพราะถ้าหากมีเพศสัมพันธืจนเกิดการตั้งครรภ์นั้น เด็กที่เกิดมาอาจมีศีรษะเล็ก และมีปัญหาเกี่ยวกับพัฒนาการ 

ส่วนในประเทศไทยนั้น หญิงตั้งครรภ์ที่ติดเชื้อไวรัสซิกา จากข้อมูลระบุว่าเด็กทารกที่เกิดมานั้นไม่ได้มีศีรษะเล็กทุกคนเสมอไป โดยขึ้นอยู่กับสายพันธ์นั้นๆเป็นหลัก ไม่เหมือนกับประเทศแถบทวีปอเมริกาใต้ที่เป็นไวรัสซิกาสายพันธุ์ที่มีความรุนแรงกว่า จึงส่งผลให้เด็กที่เกิดมามีศีรษะเล็กจำนวนมาก 

อีจันขอให้ทุกคนดูแลรักษาสุขภาพให้แข็งแรง ระวังอย่าให้ยุงกัด และหากมีไข้ ไม่สบายควรรีบไปพบแพทย์ในทันทีนะคะ