น้องมาร์ค ผูกคอลาโลก หลังถูกเพื่อนบูลลี่ ทิ้ง จม. ลาตาย

เพื่อนบ้านเผยไม่เคยมีพฤติกรรมซึมเศร้า และไม่มีสิ่งบอกเหตุถึงเหตุการณ์ผูกคอตายในครั้งนี้

เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านเลขที่ 20 หมู่ 6 ต.นิคมพัฒนา อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ นางประไพวรรณ วงษ์ขัน อายุ 53 ปี ป้าของน้องมาร์ค ซึ่งเลี้ยงมาตั้งแต่เด็ก โดยบ้านหลังนี้ น้องมาร์คจะอยู่กับ ตา วัย 80 ปี ส่วนตนนั้นจะอยู่บ้านอีกหลังซึ่งอยู่ไม่ไกลกันนัก ตนกับครอบครัวเลี้ยงน้องมาร์คมาตั้งแต่เด็ก เนื่องจากพ่อกับแม่ของน้อง แยกทางกัน และได้เดินทางไปทำงานที่กรุงเทพฯ ที่ผ่านมาพฤติกรรมของหลาน ไม่เคยมีโรคซึมเศร้า และไม่เคยเล่าหรือปรึกษาปัญหาอะไรกับตนเลย ทำให้ที่บ้านไม่ทราบถึงปัญหาที่เกิดขึ้น จนกระทั่งวันเกิดเหตุ ที่พบจดหมายของหลานชาย กำไว้กับมือแน่นก่อนตาย

ภาพจากอีจัน

นายประไพรวรรณ เล่าต่อว่า ในช่วงวันเกิดเหตุ คือเช้าของวันที่ 5 มีนาคม ไม่มีใครอยู่บ้านซึ่งวันนั้นปกติน้องมาร์คต้องไปโรงเรียนด้วย เพราะทุกคนในบ้านไปร่วมงานแต่งงานในหมู่บ้านข้างเคียง ซึ่งทำให้น้องมาร์คได้อยู่ตามลำพังและอาศัยช่วงไม่มีใครอยู่บ้านก่อเหตุเศร้าสลดขึ้น

ภาพจากอีจัน
โดยก่อนออกไปร่วมงานแต่งงาน ในเวลาประมาณ 07.30 น. ตนได้เรียกหลานชาย ซึ่งก็ได้ยินเสียงตอบรับว่าให้ไปโรงเรียนได้แล้วเพราะมีรถรับส่ง มาที่หน้าบ้าน จากนั้น ในเวลา ประมาณ 08.00 น.ตนก็ได้เรียกอีก แต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับ นึกว่าหลานชายไปโรงเรียนแล้ว จนกระทั่งเวลา ประมาณ 13.00 น. น้องสาวของตน ก็กลับมาที่บ้านและว่าสิ่งผิดปกติ ภายในห้องนอน จึงได้เรียกเพื่อนบ้านมาดู ก็พบว่าหลานชายใช้เชือกลูกเสือ ผูกคอตัวเองกับกรอนหน้าต่าง นั่งเหยียดขา เสียชีวิต สักระยะแล้ว ในมือของน้องมาร์คกำจดหมายไว้แน่น ด้านพระมหาสมศักดิ์ สิริวฑฒโน เจ้าวาสวัดค่ายนิคม เปิดเผยว่า ที่ผ่านมา เด็กชายมาร์ค จะเดินทางมาเรียนหนังสือด้านธรรมะ ในช่วงวันเสาร์และวันอาทิตย์เป็นประจำ ซึ่งในช่วงก่อนวันเกิดเหตุนั้น วันที่ 3-4 มีนาคม น้องมาร์คก็มาที่วัด ก็คิดว่าน้องเขาปิดเทอมแล้ว มาทราบในภายหลังว่าไม่อยากไปโรงเรียนและมาก่อเหตุดังกล่าวขึ้น พระมหาสมศักดิ์ เล่าต่อว่า ในช่วง 2 ปี ที่ผ่านมาตั้งแต่น้องมาร์คไปเรียนที่โรงเรียนมัธยม ในตัวอำเภอ น้องมาร์คมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป อาจเป็นเพราะวัยที่โตขึ้น และบ่นว่าอยากกลับมาเรียนที่โรงเรียนประจำตำบล แต่ก็ไม่ได้เอะใจอะไร นึกว่าพูดเล่น
ภาพจากอีจัน
จากจดหมายของน้องมาร์ค ที่พ่อได้นำโพสต์บนเฟสบุ๊ค พบว่ามีข้อความที่บอกว่าน้อยใจ ที่ถูกเพื่อนล้อในโรงเรียน เนื่องจากมีพฤติกรรมที่ตุ้งติ้ง รวมทั้งถูกเพื่อนใช้ให้ทำเวรคนเดียว จึงน้อยใจและกดดัน ด้านสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 28 ซึ่งกำกับดูแลโรงเรียนมัธยมในสังกัด ได้รับรายงานเรื่องนี้แล้ว แต่เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดนอกโรงเรียน ซึ่งได้กำชับผู้บริหารโรงเรียนทุกโรงเรียนให้ ตรวจสอบและดูแลนักเรียนที่มีพฤติกรรมถูกเพื่อนล้อเลียนแบบนี้ อย่างใกล้ชิดแล้ว เพื่อป้องกันปัญหาการเกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยอีก