11 มีนาคม 2563 ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกันจับกุมตัว นายวศิน (สงวนนามสกุล) ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญาที่ 3831/2548 ในความผิดฐาน “กระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่าสิบห้าปีต่อหน้าธารกำนัล, ทำให้เสื่อมเสียเสรีภาพ, หน่วงเหนี่ยวให้ปราศจากเสรีภาพ และทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ”
ภาพจากอีจัน
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 25 ส.ค. 48 ขณะที่ผู้เสียหายยืนรอผู้ปกครองมารับบริเวณหน้าโรงเรียนแห่งหนึ่งย่านลาดพร้าว พร้อมกับกลุ่มเพื่อน นายวศิน ได้เข้ามาพูดคุยกับผู้เสียหายเชิงชู้สาว แต่ผู้เสียหายไม่พูดคุยด้วย นายวศินจึงฉุดลากผู้เสียหายไปตามถนน ผู้เสียหายพยายามสะบัดมือออกแต่นายวศินจับไว้แน่น พร้อมกับพูดข่มขู่ให้เดินตามมาและอย่าขัดขืน เพื่อนผู้เสียหายจึงตะโกนว่าแม่มารับแล้ว นายวศินจึงปล่อยมือ ผู้เสียหายจึงได้วิ่งหนีไปหากลุ่มเพื่อน หลังจากนั้นนายวศิน ก็วิ่งตามพร้อมกับดึงแขนผู้เสียหายและดึงคอเสื้อเรียกรถแท็กซี่ เมื่อรถแท็กซี่จอดได้ผลักผู้เสียหายขึ้นรถแล้วบอกให้คนขับออกรถมุ่งหน้าไปซอยพหลโยธิน 24 เพื่อไปหอพักของนายวศิน แต่ผู้เสียหายอาศัยจังหวะขณะที่รถแท็กซี่จอดติดไฟแดง ลงจากรถและวิ่งหนี เมื่อหนีมาได้ผู้เสียหายจึงนำเรื่องไปบอกพ่อและแม่ ก่อนเดินทางแจ้งความร้องทุกข์ที่ สน.พหลโยธิน
ภาพจากอีจัน
ต่อมา ตำรวจสืบทราบว่า นายวศิน ได้หลบหนีอยู่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ซอยอยู่วิทยา 5 แขวงกระทุ่มราย เขตหนองจอก กทม. จึงไปตรวจสอบและเข้าจับกุม
ภาพจากอีจัน
เบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าก่อเหตุดังกล่าวจริง เนื่องจากขณะนั้นผู้เสียหายเป็นผู้หญิงหน้าตาดี คิดจะจีบ แต่ผู้เสียหายไม่เปิดใจรับ ประกอบกับมีหนุ่มมารุมจีบผู้เสียหายเยอะทำให้ตนเกิดอาการหึงหวงและก่อเหตุขึ้น หลังจากก่อเหตุได้หลบหนีและเปลี่ยนอาชีพไปเรื่อย ตลอดระยะเวลาเกือบ 15 ปี โดยจะเลือกสมัครงานประเภทที่ไม่ต้องกรอกรายละเอียดประวัติส่วนตัว เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจสอบจากหน่วยงานต่างๆ จนเหลืออีกประมาณ 5 เดือน คดีดังกล่าวจะหมดอายุความ แต่มาถูกตำรวจจับกุมตัวได้ในที่สุด